วันนี้เลดี้จะพาอัพเดทกฎหมายคาร์ซีทฉบับใหม่ และทำอย่างไรให้ไม่โดนเปรียบเทียบปรับหากไม่ได้ติดตั้งคาร์ซีท พร้อมชวนคิดการใช้คาร์ซีทมือสอง ปลอดภัยจริงหรือ?
คาร์ซีทมือหนึ่งราคาแพง ใช้มือสองได้ไหม?
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แจ้งกฎหมายเรื่องการกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือคาร์ซีท (Car Seat) และวิธีการป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป สืบเนื่องจากการปรับปรุงมาตรการทางกฎหมายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 โดยกำหนดให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ที่นั่งในรถ ต้องมีคาร์ซีท ซึ่งมี 2 แบบ คือ
- ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหลังรถ และที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหน้ารถ
- ที่นั่งพิเศษแบบที่นั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง (Booster Seat)
โดยทั้ง 2 แบบดังกล่าว ต้องมีระบบยึดเหนี่ยวตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ขณะที่รถรับจ้าง รถสาธารณะ ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หากละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่ก็มีกรณียกเว้นหากปฏิบัติดังต่อไปนี้
- ขับรถด้วยความเร็วช้า โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และต้องขับชิดซ้าย
- ให้เด็กนั่งในที่นั่งโดยสารตอนหลัง/กรณีรถกระบะ หรือกึ่งกระบะ ให้นั่งโดยสารตอนหน้าได้ แต่ห้ามนั่งท้ายกระบะ
- จัดให้มีผู้ดูแลเด็กในขณะโดยสาร หรือให้เด็กรัดเฉพาะเข็มขัดรัดหน้าตัก (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
ซึ่งหลังจากที่กฎหมายคาร์ซีทมีผลบังคับใช้ ราคาของคาร์ซีทก็แพงขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นคาร์ซีทของเด็กแรกเกิด คาร์ซีทแบบกระเช้า หรือคาร์ซีทของเด็กเล็กก็ตาม แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกๆ เป็นหลักอยู่แล้ว แต่หากเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีงบน้อย อยากซื้อคาร์ซีทให้ลูกแต่ปัจจัยมีจำกัด สามารถซื้อคาร์ซีทมือสองให้ลูกได้หรือไม่? มันจะดีไหมนะ?
คาร์ซีทมือสองดีหรือไม่?
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า คาร์ซีทเป็นสินค้าที่มีภาษีนำเข้า เมื่อวางขายในประเทศไทยราคาสุทธิจึงสูงมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมายคาร์ซีทฉบับใหม่ คุณพ่อคุณแม่จึงหันไปใช้คาร์ซีทมือสองเพื่อทดแทน ทีนี้ในความเป็นจริงก็คือคาร์ซีทมือสองได้ผ่านการใช้งานมาแล้ว ย่อมเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ดังนั้นจึงไม่ควรซื้อคาร์ซีทที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไปนับจากวันที่ผลิต เพราะคุณจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคาร์ซีทมือสองที่ซื้อมานั้นผ่านอะไรมาบ้าง และนี่คือเหตุผลที่คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับคาร์ซีทมือสอง
- คาร์ซีทมือสองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว วัสดุต่างๆ อาจมีบางตำแหน่งที่บุบสลายหรือยุบตัวลงเพราะผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง หากต้องใช้คาร์ซีทตะลอนทัว ยกขึ้นยกลงบ่อยๆ อาจเกิดแตกหักหรือใช้งานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
- หากคาร์ซีทมือสองผลิตมาแล้ว เกิน 4 ปี เทคโนโลยีหรือวัสดุบางอย่างที่นำมาใช้ทำเบาะนั่งนั้นสู้กับคาร์ซีทมือหนึ่งที่ถูกผลิตในปีล่าสุดไม่ได้ รวมถึงอะไหล่ต่างๆ อาจจะไม่มีให้เปลี่ยนหรือซ่อมแซมเพราะเป็นรุ่นเก่าที่โรงงานเลิกผลิตไปแล้ว
- คาร์ซีทนั้นอาจจะหมดอายุไขในการใช้งานตามที่โรงงานผลิตได้แจ้งไว้แล้ว แต่คุณไม่สามารถทราบได้ จึงหมายความว่าประสิทธิภาพเท่ากับศูนย์ ดังนั้นต่อให้จัดคาร์ซีทเด็กแรกเกิดได้ถูกท่าบนเบาะรถ ก็ไม่อาจป้องกันอุบัติเหตุได้ 100% เพราะตามหลักความเป็นจริงแล้วคาร์ซีทที่ผลิตออกมาแต่ละรุ่น จะมีระยะเวลาการใช้งานและเสื่อมสภาพไปตามรอบปีที่ผลิต
สรุปก็คือ หากถามว่าคาร์ซีทมือสองใช้งานได้มั้ย คำตอบคือ "ได้" ไม่ผิดกฎหมายแต่มีความเสี่ยงเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว คุณคงไม่อยากเอาชีวิตของลูกๆ ไปเสี่ยง แม้ว่าอาจจะไม่เกิดเหตุร้ายแรง แต่ก็อาจเกิดอุบัติเหตุ เล็กๆ น้อยๆ ที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้นกับลูกของคุณ แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรตรวจสอบสภาพการใช้งานของคาร์ซีทเป็นอย่างดี และควรเปลี่ยนปล่อยๆ เพื่อความปลอดภัยของลูกๆ ในอนาคต
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น