Ford Ranger Wildtrak V6 3.0 Diesel ที่สุดของกระบะดีเซล Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

Ford Ranger Wildtrak V6 3.0 Diesel ที่สุดของกระบะดีเซล

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 15 March 2567

Ford RANGER Wildtrak V6 3.0 Diesel เปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยกระแส รถกระบะที่มีราคาสูงที่สุดไม่นับ (ford raptor) จัดเป็นพรี่เมี่ยม แล้วทำไมถึงได้แพงขนานนี้วันนี้เราไปหาคำตอบ


Ford RANGER Wildtrak V6 3.0 Diesel

ราคาอย่างเป็นทางการ

- Ranger Wildtrak V6 3.0 Diesel 10AT 4A-4WD  1,519,000 บาท


- Ford Everest Platinum 3.0 V6 ดีเซล  2,279,000 บาท

 

ต้องยอมรับว่า Ford ถือเป็นผู้ผลิตรถกระบะอันดับต้นๆ ที่ทำราคาเกินหลักล้าน มาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน และมีการจัดจำหน่ายกระบะกลุ่มพรี่เมี่ยมอย่าง "ford raptor" ที่เรียกว่าไม่มีใครขึ้นมาต่อกรได้ แม้ว่าจะแพงแค่ไหนแต่ก็มีผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และรถกระบะในกลุ่มที่มีราคาเกินหนึ่งล้านฟอร์ดก็ถือว่าเป็นผู้นำ 

สำหรับรุ่นใหม่อย่าง Ford Ranger Wildtrak Diesel V6 3.0 ที่หลายคนไม่คาดคิดว่าจะมาแบบรวดเร็วเพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะมาใน ford everest ก่อนแต่แล้วก็นำมาจัดจำหน่ายเปิดตัวพร้อมกันเลยแต่ว่า ford everest platinum มีจัดจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 350 คัน เท่านั้น เพราะด้วยหลายเหตุผล เช่น ราคาที่ค่อนข้างสูงอาจจะจัดจำหน่ายได้ไม่เยอะพอ ความต้องการของออสเตรเลี่ยมีมากกว่าประเทศไทยเรียกว่ารอรถนานหลายเดือนทีเดียว 

 

Ford Ranger Wildtrak Diesel V6 3.0 เพิ่มเติมจากรุ่นปกติ ดังนี้

- เปลี่ยน เครื่องยนต์ดีเซล V6 3.0 เทอร์โบ 250 แรงม้า 600 นิวตันเมตร
- เปลี่ยน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นแบบ Full-Time 4A-4WD
- เปลี่ยน ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ยาง ขนาด 255/55 R20
- เพิ่ม ระบบไฟส่องสว่างภายนอกรถ แบบแบ่งโซน Zone Lighting
 

ทดสอบ

ในการทดสอบครั้งนี้ทางทีมงานฟอร์ดได้จัดทดสอบถึงจังหวัดเชียงใหม่ วิ่งวนไปในหลายอำเภอเพื่อให้ได้ทดสอบในเส้นทางที่หลากหลายเพื่อให้ได้เห็นถึงสมรรถนะของตัวรถ 

เรามาเริ่มจากหน้าตาภายนอกรถก่อนถ้าจอดเทียบกับ Wildtrak 2.0 ต้องบอกตามตรงคือแทบจะแยกไม่ออกเลยหน้าตาด้านหน้าเหมือนกันเลย ด้านข้างมีจุดสังเกตแค่ล้อขนาด 20" แผ่นเพลทแก้มข้างรถเปลี่ยนเป็น V6 สีดำ ด้านท้ายจุดที่ต่างคือเอาโลโก้ 4x4 หายไป คำถาม? แล้วทำไมไม่ทำให้แตกต่างจาก2.0 ในเมื่อคุณต้องจ่ายแพงกว่า ฟอร์ดให้ความเห็นว่าลูกค้าฟอร์ดส่วนใหญ่จะนำรถไปตกแต่งต่อในรูปแบบของตัวเองบางส่วน แต่เหตุผลหลักฟอร์ดต้องการความเรียบง่ายที่ไม่ต้องบอกให้ใครรู้ว่า ของแรงแพงบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องบอกใครคุณสามารถภูมิใจด้วยตัวคุณเองก็ได้ นั้นก็เป็นเหตุผลที่ไม่จำเป็นต้องมีความต่างมากมาย

การทดสอบผู้โดยสาร 3 สื่อ 3 คน กับรถ 1 คัน ไม้แรกทางทีมงานได้เป็นผู้ทดสอบกับถนนไฮเวย์ขึ้นมานั่งในรถอารมณ์เดียวกับ Wildtrak 2.0 โดยการตกแต่งที่ไม่ต่างกันหน้าจอต่างๆก็เหมือนกัน แต่สิ่งที่รู้สึกได้อย่างแรกคือเสียงเครื่องยนต์ที่เงียบมาก ตัวรถสั่นน้อยมาก กดคันเร่งออกจากโรงแรม ออกนอกเมืองความรู้สึกแรกคือ ทำไม่คันเร่งเบามากกดเพียงแค่ 10%-20% เท่านั้นรถพุงออกไปอย่างรวดเร็ว ถ้าเทียบกับเครื่อง 2.0 พละกำลังของ V6 เหนือกว่ามาก ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างสบายตั้งแต่ในเมืองไม่ว่าจะเร่งออกตัวหรือจังหวะแซงต่างในเมืองทำให้คล่องตัวอย่างมาก ออกนอกเมืองบอกได้เลยว่าขับขี่ได้อย่างสบายๆแบบไม่ต้องออกแรงอะไรมากมายเติมคันเร่งเพียงเล็กน้อยตัวรถก็ทะยานออกไปอย่างต่อเนื่องมองดูหน้าปัดความเร็ว ก็เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดแล้ว เพราะด้วยรอบเครื่องยนต์ที่ใช้แทบจะไม่เกิน 2 พันรอบแถมด้วยช่วงล่างที่มีความนุ่มนวลแต่ให้การเกาะถนนที่ดีจนไม่รู้สึกถึงความเร็ว 

ช่วงที่สองเป็นเส้นทางขึ้นเขาอย่างต่อเนื่องแรงบิดขนาด 600 นิวตันเมตร แสดงพลังออกมาให้เห็นชัดเจนกดคันเร่งเบาๆตัวรถก็มีแรงขึ้นเขาได้อย่างสบายๆ คุณจะหาไม่ได้กับเครื่องยนต์ขนาดเล็กความรู้สึกเหมือนขับขี่ขับขี่บนเส้นทางราบเรียบไม่เหมือนขึ้นเขา แต่อย่างไร 

ช่วงที่สามกับเส้นทางออฟโรด ระบบต่างๆที่ Wildtrak Diesel V6 จัดมาให้นั้นและยิ่งกับระบบ 4A ที่ตัวรถแทบจะจัดการเองทุกอย่างรวบไปถึงการกระจายน้ำหนักของระบบขับเคลื่อนยิ่งทำให้รถในขับขี่ได้ง่ายในทุกสภาพเส้นทาง สำหรับเส้นทางออฟโรดในครั้งนี้ไม่ได้โหดมากมายทำให้แทบจะไม่จะปรับเปลี่ยนโหมดแต่อย่างไร เครื่องยนต์ V6 แสดงพลังอีกครั้งกับเส้นทางที่ชันมากๆพละกำลังเหลือเฟือทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างง่ายดาย 

สรุป Wildtrak Diesel V6

    ถนนดำพละกำลังเหลือๆ กดเป็นมาไม่มีคำว่าหนดพลังแต่อย่างไร เทียบกับ V6เบนซิน นิสัยเครื่องยนต์คนละแบบ ดีเซลให้การขับขี่แบบผู้ดีไปแบบเนียนๆไม่โวยวาย กำลังเหลือๆตั้งแต่รอบต่ำทำให้การขับขี่ง่ายกว่าเบนซิน อัตราการประหยัดก็ดีกว่ามากเป็นเท่าตัว กินพอๆกับ 2.0 ลิตร

แรงบิดเยอะในรอบต่ำดีตรงที่การขึ้นเขาหรือเส้นทางออฟโรดนั้นขับขี่ได้ง่ายกว่าทั้งเครื่อง 2.0 และ V6เบนซิน เพราะใช้คันเร่งน้อยกว่าทำให้เบาแรงเครื่องกว่ามาก 

จุดที่หน้าสนใจกับการวางเครื่อง V6 ดีเซล ในWildtrak รถขับขี่ได้ดีกว่าควบคุมง่ายกว่า แม้ว่าช่วงล่างไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรก็ตาม ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นที่ตำแหน่งของเครื่องยนต์นั้นเปลี่ยนโดยขยับเขามาตรงกลางมากขึ้น รวมขึ้นน้ำหนักที่มากขึ้น 70 กิโลกรัม จึงทำให้ต้องเพิ่มจุดยึดให้แข็งแรงขึ้น ทำให้ความแข็งแรงของด่านล่างมากขึ้นส่งผลทำให้ช่วงล่างเกาะขึ้นมากขึ้น แรงสะทานขึ้นห้องโดยสารน้อยลง 

โดยรวมกับการเพิ่มรุ่น Wildtrak Diesel V6 ต้องบอกว่านี้ถือสิ่งที่ชาวดีเซลตามหาอย่างแน่นอน คงไม่ต้องบอกอะไรมากนอกจากคุณได้ทดสอบก็จะบอกเหมือนกัน ว่าดี

 

 

 

 


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ