MG5 D 2022 Vs. MG5 PRO D 2024 Share this

MG5 D 2022 Vs. MG5 PRO D 2024

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 02 April 2567

MG5 รุ่นปรับโฉมใหม่ MY2024 สปอร์ต ดุดัน ขึ้นกว่าเดิมขนาดไหน และมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เดี๋ยววันนี้เลดี้พาไปชมกันชัดๆค่ะ  


MG5 D 2022 Vs. MG5 PRO D 2024

เผยโฉมใหม่ที่งานมอเตอร์โชว์ 2024 สำหรับ MG5 ในรุ่น Minor Change จากที่เปิดตัวในไทยครั้งแรกเมื่อปี 2021-2022 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า MG5 PRO มาพร้อมกับลุคใหม่ที่ดูสปอร์ตและดุดันมากยิ่งขึ้น มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย แต่เลดี้ขอเลือกในรุ่น D เพื่อมาเปรียบเทียบกับโฉมเก่า เดี๋ยวเราไปชมกันค่ะว่ามีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง

MG5 D 2022 Vs. MG5 PRO D 2024 Cover

 

ดีไซน์ภายนอก 

MG5 D 2022 มาพร้อมแนวคิด BRIT DYNAMIC ด้วยแนวคิด IDENTITY BEYOND DESIGN เน้นความสปอร์ตผสมความหรูหราสะท้อนคาแรคเตอร์ของผู้ขับขี่ที่นับว่าเป็น Family Design ล่าสุดจาก MG Generation 3 ซึ่งเน้นความสปอร์ตดุดัน ด้วยตัวรถเรียวยาวสไตล์สปอร์ตคูเป้ พร้อมกระจังหน้า 3 มิติ Digital Burning Grille ขนาดใหญ่และไฟหน้าสามเหลี่ยมเปิด-ปิด อัตโนมัติแบบ LED Projector และไฟท้ายแยกหลอดแบบ LED ดีไซน์ LEOPARD CLAW ดูโฉบเฉี่ยวเร้าใจ มาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใบพัด 5 ก้าน

MG5 D 2022 (1)

MG5 PRO D 2024 (1)

MG5 PRO D 2024 ปรับโฉมดีไซน์ภายนอกใหม่ให้โฉบเฉี่ยวสะกดทุกสายตา ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ Black Chrome Gladius Grille Design เสริมความเป็นสปอร์ตพรีเมียมด้วยวัสดุ Smoke Chrome รอบคัน และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีดำ ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ใหม่ มีสีตัวถังให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีเขียว Mineral Green, สีแดง Scarlet Red, สีเหลือง Nuclear Yellow, สีเทา Metal Ash Grey, สีขาว Arctic White และสีดำ Black Night

 

ภายในห้องโดยสาร

MG5 D 2022 เป็นรถยนต์ที่มีห้องโดยสารกว้างขวาง ใหญ่พอๆ กับรถในกลุ่ม C-Segment  สะดุดตาด้วยเบาะหนังลุคสปอร์ต วัสดุภายในเป็นแบบผิวสัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ในหลายตำแหน่ง งานออกแบบถือว่าเลือกใช้วัสดุที่มีึุณภาพ และปราณีต สำหรับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก ติดตั้งหน้าจอสัมผัสบริเวณ คอนโซลกลางแบบ 3D DIAMOND DESIGN ขนาด 10 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และโทรศัพท์มือถือระบบ Android รวมทั้งทำงานร่วมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ Rack and Pinion ที่รับสายโทรศัพท์และปรับสูง-ต่ำได้

MG5 D 2022 (2)

MG5 PRO D 2024 (2)

MG5 PRO D 2024 ยังคงจุดเด่นด้วยห้องโดยสารที่กว้างสุดใน Segment จัดเต็มด้วยฟังก์ชันที่ให้มาครบครัน คอนโซลกลางเป็นแบบ Driver-Focus Cockpit ที่ให้องศาที่เหมาะกับตำแหน่งคนขับ ติดตั้งหน้าจอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple Car Play และ Android Auto แบบไร้สาย เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และสีของเบาะจากเดิมที่เป็นแบบ 2 Tone เปลี่ยนเป็นสีดำเดินด้ายแดงเพิ่มความลักซ์ชูรีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่ม Wireless Charging ให้ด้วย

 

ขุมพลังการขับขี่ 

เริ่มต้นกันที่ MG5 D 2022 จริงๆ ตอนเปิดตัวครั้งแรก ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่หลายๆ คนสนใจ เพราะด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตคูเป้ซีดาน เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาพร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

ในส่วนขุมพลังการขับเคลื่อน ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ขนาดความจุ 1.5 ลิตร 1,498 cc. DOHC VTi-TECH หัวฉีด Multi point กำลังสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E85 ให้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.9 กม./ลิตร 

มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมากมาย อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรก EBA, ระบบควบคุมการทรงตัว SCS, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ควบคุมการลื่นไถล TCS, ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS, ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS, ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ Speed Sensing Door Lock, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, กุญแจนิรภัย Immobilizer, ระบบเบรคมือไฟฟ้า EPV, ระบบป้องกันการไหลของรถ EBH, ไฟส่องนำทาง Follow Me Home Light และถุงลมนิรภัยด้านข้างกล้องมองหลัง

MG5 D 2022 (3)

MG5 PRO D 2024 (3)

สำหรับ MG5 PRO D 2024 ยังคงใช้เครื่องยนต์เดิมเหมือนในรุ่น MY2022 มาพร้อมกับระบบส่งเสริมการขับขี่ เพื่อเพิ่มความมั่นใจรวมถึงประสบการณ์การขับขี่ อาทิ พวงมาลัยปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ (City, Standard, และ Sport), พวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS), ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ, ช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ด้านหน้าเป็น MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ขณะที่ด้านหลังเป็น Torsion Beam

พัฒนาโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF ทางด้านระบบความปลอดภัยยังคงจัดเต็มตาม มาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB, ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH, ระบบระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS, ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, กุญแจนิรภัย Immobilizer, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ, จุดยึดเบาะเด็กแบบ ISOFIX และไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์

 

MG5 PRO D 2024 (4)

MG5 D 2022 มีราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 625,000 บาท สำหรับ MG5 PRO D 2024 เปิดราคาจำหน่ายที่ 629,900 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมเพียงเล็กน้อย แต่ได้ทั้งหน้าใหม่และฟังก์ชันการใช้งานใหม่ๆ ที่เพิ่มมาจากรุ่นเดิม หากใครที่ต้องการไปชมคันจริงยังสามารถไปชมได้ที่งาน Motor Show 2024 ที่จัดขึ้นที่เมืองทองธานี งานจัดถึงวันที่ 7 เมษายน 2567 นี้ค่ะ 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ