ALL NEW MG3 HYBRID+ ได้ทั้งความแรง ประหยัด ในคันเดียว Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

ALL NEW MG3 HYBRID+ ได้ทั้งความแรง ประหยัด ในคันเดียว

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 30 July 2567

ALL NEW MG3 HYBRID+ รถแฮทช์แบ็กไฮบริด 5 ประตู โกลบอลโมเดลรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี จากสายการผลิต      ในประเทศไทย รถในกลุ่ม B-Segment พร้อมสู้ตลาดรถเล็ก


รีวิว MG3 HYBRID

ถ้าจะพูดถึง MG3 ต้องยอมรับว่าตลาดรถ Eco car หรือรถขนาดเล็กนั้นแข่งขันกันดุเดือดเป็นอย่างมากถ้านับเรื่องราคานั้น ตอนนี้รถไฟฟ้าขนาดเล็กก็ลงราคาถูกกว่ารถในกลุ่ม Eco car จึงทำให้ตัวเลือกในตลาดเรียกได้ว่ามีหลากหลายมากมายจริงๆทั้งราคาคุณภาพความแรงความประหยัด 

MG3 HYBRID

ก่อนหน้านี้ MG3 เหมือนจะเงียบหายไปจากตลาดด้วยตัวรถที่ขายไม่ค่อยดีนัก เพราะด้วยหน้าตาที่ไม่ดึงดูด รวมถึงการขับขี่และเครื่องยนต์ที่กินน้ำมันไม่แรงทำให้ความน่าสนใจนั้นไม่มีสำหรับผู้บริโภค แต่ล่าสุดกับการเปิดโฉมหน้าให้เห็นตั้งแต่เมืองนอกก่อนหน้านี้ เรียกว่าลืมหน้าเก่าทิ้งไปเลยและที่สำคัญกับการปรับเปลี่ยนหัวใจใหม่เป็น  HYBRID+

ต้องบอกก่อนว่าการทดสอบนี้เกิดขึ้นก่อนประกาศราคา เพื่อให้ได้เห็นถึงสมรรถนะที่ดีของตัวรถกันก่อน วัตกรรมใหม่ของทาง เอ็มจี ที่จะเปลี่ยนทุกความคุ้นชินของรถไฮบริดในรูปแบบเดิมๆ ด้วยขุมพลังไฮบริดมากถึง 8 โหมดขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของผู้ขับขี่

MG3MG3 HYBRID 2024

ขนาดตัวถัง (Dimension) MG3 2024

  • มิติตัวถัง​ 4,113 x 1,797 x 1,502 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
  • ระยะความยาวฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร

การออกแบบ GLOBAL EXTERIOR DESIGN สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว คล่องตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ โดดเด่นเหนือใครด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ผสานระหว่างความสปอร์ต และความหรูหราได้อย่างลงตัว ปราดเปรียว และคล่องตัวในสไตล์รถแอทช์แบ็ก

MG3 HYBRIDMG3 HYBRIDMG3 HYBRID

  • ดีไซน์ไฟหน้าแบบใหม่ Hunter Eye Headlamp 
  • กระจังหน้าแบบใหม่
  • ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว ความโค้งมนตามแบบฉบับของ เอ็มจี
  • ไฟหน้า แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่สาม
  • ไฟตัดหมอกหลัง
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และพับอัตโนมัติ
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมใบปัดน้ำฝนด้านหลัง
  • ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว 

MG3 HYBRIDMG3 HYBRID

ภายใน MG3 Hybrid

ภายในห้องโดยสาร MG3 2024 สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้ Modular Concept ที่ให้ความสำคัญกับ วัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมการออกแบบคอนโซลที่เล่นระดับให้มีมิติ เพิ่มความหรูหราด้วยภายในแบบทูโทนขาวสลับดำ เน้นความสะดวกในการใช้สอย สำหรับทั้งคนขับและผู้โดยสาร ทั้งเพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งาน โดยเฉพาะการออกแบบห้องโดยสารที่โดดเด่นในเรื่องของพื้นที่เหนือศีรษะ (Head room) และพื้นที่วางขา (Leg room) ที่ไม่อึดอัด โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ ถือเป็นรถที่กว้างที่สุดในคลาสเดียวกัน โดยเฉพาะห้องสัมภาระท้ายจุได้มากถึง 293 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,037 ลิตร

MG3 HYBRIDภายใน MG3 HybridMG3 HYBRID

  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
  • กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down ด้านผู้ขับขี่
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi – Function Display) และหน้าจอสี
  • ระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว
  • ลำโพง 6 จุด
  • ช่องใส่ของภายในห้องโดยสาร 25 จุด
  • เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง 
  • ที่พักแขนด้านหน้า และเบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย
  • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start
  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
  • ระบบกรองอากาศ PM 2.5

PERFORMANCE

MG3 HYBRID

ALL NEW MG3 HYBRID+ ซึ่งให้กำลังมากที่สุดในคลาสเดียวกัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (75 กิโลวัตต์) ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า  (100 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร แรงสุดในกลุ่ม B-Segment

  • ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที
  • อัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5 วินาที

จากเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ของ เอ็มจี อย่างระบบ HYBRID+ กับ 8 โหมดขับเคลื่อนที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ ที่ประหยัดน้ำมันสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร

การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว DVVT 102 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ High-performance Permanent Magnet Synchronous Motors กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ให้ขุมพลังรวมสูงสุดถึง 194 แรงม้า (143 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ ในรูปแบบ Cell-To-Pack ความจุ 1.83 kWh โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT

MG3 HYBRID

ระบบส่งกำลัง Hybrid Transmission ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ไฟฟ้าแบบ E-AT 3 อัตราทดเกียร์ ปรับการทำงานแบบอัตโนมัติ

ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย

การทดสอบ ALL NEW MG3 HYBRID+

ในครั้งนี้เพื่อให้ได้การทดสอบที่เห็นถึงการใช้งานจริงในทุกรูปแบบจึงทำการทดสอบไกล กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทางรวม 600 กว่ากิโลเมตร กันเลย 

MG3 HYBRID

ออกเดินทางจากกรุงเทพฯด้านเหนือ อยากแรงต้องพูดถึงการออกแบบดีกว่ารุ่นเดิมไหมดีกว่ามากด้านการออกแบบภายนอก แต่ด้านหน้าอาจจะรู้สึกแปลกตาไปหน่อยเหมือนจะไม่ค่อยลงตัวสักเท่าไหรถ้าเทียบกับรุ่นพี่อย่าง MG5 มีหน้าตาสวยกว่า แต่ในส่วนของด้านท้ายในถือว่าลงตัวมีความพอดี ล้อขนาด 16" ติดรถนั้นในสายตาเล็กไปหน่อยถ้าเทียบกับตัวรถ 

เข้ามานั่งในรถถ้าคุณเคยผ่านการใช้งานรถเอ็มจีมาบ้างจะรู้สึกคุณเคยเพราะภายในรุ่นใหม่ๆแทบจะเหมือนกันทุกคันก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าหรือสันดาป การใช้งานปุ่มต่างบนพวงมาลัยบอกเลยว่าใช้ยากถ้าคุณไม่เคยชินกับเอ็มจี ต้องทำความคุณเคยสักพักใหญ่ๆเคย แต่สิ่งที่กวนใจสุดคือเสียงการเตือนเมือเราออกนอกเลน ต้องบอกว่าเสียงดังมากต้องเข้าไปปิดที่หน้าจอกลางซึ่งค่อนข้างยากและที่สำคัญคือระบบจะทำงานทุกครั้งเมื่อเราสตาร์ทรถต้องเข้าไปปิดใหม่ (ควรตั้งระบบให้มันจำ) 

MG3 HYBRIDMG3 HYBRIDMG3 HYBRID

ผ่านเรื่องบ่นไปแล้วมาถึงการใช้งานการออกแบบต่างๆภายในถือว่าออกแบบมาได้ดีวัสดุต่างๆดูดีมีราคาพอสมควรถ้าเทียบกับราคาค่าตัวที่คาดว่าน่าจะอยู่แถวเลข 6 ต้นถ้าเป็นไปได้จะสวยมาก ด้วยโดยสารความกว้างนั้นถ้าเทียบกับคู่แข่งตรงอย่าง Honda city ถ้าว่าไม่แตกเนื่้อที่การใช้งานในพอกันตำแหน่งนั่งมุมมองไม่ต่าง แต่สิ่งที่ต่างคือด้านท้ายเรืองการพับเบาะนั้นเรียกว่า Honda ทำได้ดีกว่าทุกค่ายอยู่แล้ว 

มาถึงหัวใจสำคัญคือการขับขี่ ต้องยอมรับว่าตอนแรกไม่ได้คาดหวังว่าจะดีอยู่แล้วเพราะในหลายรุ่นของเอ็มดีที่เป็นไฮบริด นั้นเรียกได้ว่าแรงไหมแรงแต่กินน้ำมัน แต่ไม่ใช้กับ MG3 เพราะขับและกันคันแรงออกบอกเลยว่าตกใจทำไมแรงขนาดนี้พอมาดูตัวเลขก็เข้าใจได้ ว่าแรงบิด 250 นิวตันเมตร แน่นอนว่ามันแรงสุดในตลาดสำหรับรถกลุ่มนี้เคย เรียกว่าแรงตามเท้ากดเป็นมาตลอดในเมืองเรียกได้่ว่าทั้นใจเป็นอย่างมาก การทำงานของไฮบริดนั้น กดคันเร่งออกตัวช่างแรกจะทำงานด้วยมอเตอร์เป็นหลัก เพื่อการประหยัดน้ำมันและความแรง ตัวเลข 0-100 8วินาทีสบายๆ ในช่วงจังหวะแรงแซงนั้นก็ไม่ต้องห่วงเพราะมีทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์ทำงานพร้อมเรียกว่าหลังติดเบาะได้เลย 

MG3 2024MG3 2024

ออกมาทางหลักเพื่อเดินทางไปเชียงใหม่วิ่งสายเหนือ สบายรถไม่มากทำความเร็วตามกฎหมายกำหนดวิ่งเฉลี่ยที่ 100-120 km วิ่งเกินบ้างเพื่อดูความเร็วและดูช่วงล่าง สิ่งที่ประทับใจต่อมานอกจากความแรงแล้่วคือช่วงล่างที่ต้องยอมรับมาปรับมาดีมากมีความนุ่มนวลแต่ไม่ได้นิ่มเกินไปพร้อมทั้งให้การเกาะถนนที่ดี แต่ถ้าความเร็วสูงเกินก็ต้องยอมรับว่ามีอาการอยู่บ้างแต่ในเกณท์ทีรับได้ถือว่าผ่าน การเก็บเสียงต่างๆนั้นก็ถือว่าดี เสียงลมหรือเสียงจากพื้นถนนนั้นถือว่าน้อยไม่มากเกินไป พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดีไม่ว่าจะช่วงความเร็วต่ำหรือสูง 

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ต้องบอกเลยว่าให้แบบจัดเต็มใช้งานได้จริง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC ทำงานร่วมกับกล้องหน้ารถ แบบเบรคไม่แรงเกินแรงพอๆดี ถือว่าใช้งานได้ดีในการเดินทางไกล เดินทางมาถึงครึงทางไม้แรก ตัวเลขอัตราการประหยัดอยู่ที่ 20km/L ถือว่าทำได้ดี 

MG3 2024MG3 2024

เดินทางกันต่อวิ่งยาวๆ จนมาถึงช่วงเขาก่อนเข้าเชียงใหม่เป็นบทพิสูจน์ความแรงและช่วงล่างบอกเลยว่าจัดเต็มขับขี่แบบทดสอบไม่ได้เน้นการประหยัดแต่อย่างไร อัตราเร่งบอกเคยว่าผ่านเพราะเมื่อคุณต้องการประกำลังเมือไร เครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจมากแรงบิดดีคือได้เปรียบบนทางเขา พอช่วงลงเขารถก็สามารถกดปุ่ม KERS เพื่อให้รถเก็บพลังงานเข้าแบตเตอรี่ได้ด้วยสามรถเลือกว่าหน่วงได้ถึงสามระดับ ทำให้การลงเขานั้นใช้เบรคน้อยลงด้วย เพื่อประหยัดพลังงาน ช่วงล่างจัดเต็มทุกโค้งเรียกได้ว่าเอาอยู่ แม้ว่าจะเข้าโค้งแรงเราก็ยังมั่นใจกับช่วงล่างได้เป็นอย่างดี 

MG3 2024

ถึงทึ่หมายเชียงใหม่ น้ำมันหมดทุกคันในการเดินทาง แต่ต้องยอมรับว่าเราขับขี่เน้นสมรรถนะไม่ได้เน้นหาอัตราการประหยัดแต่อย่างไร ทำให้ได้ตัวเลขที่ออกมาเฉลี่ยทุกคันอยู่ที่ 19km/L ถือว่าน่าประทับใจมาก แต่ในกลุ่มจะมีรถที่ขับขี่แบบเน้นประหยัดคือความเร็วคงที่สามารถุทำตัวเลขได้ 22km/L เลยทีเดียว (ถังน้ำมันความจุ 36ลิตร) 

**แต่ถ้าขับขี่แบบเน้นประหยัดก็สามารถทำตัวเลขได้มากถึง 26.3km/L ***

MG3 2024

 

  • ระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
  • ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง 
  • ระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam
  • ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง

SAFETY

ALL NEW MG3 HYBRID+ มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) เพียบพร้อม
ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งรวม
ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) หรือระบบอำนวย
ความสะดวกช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 8 ระบบ พร้อมระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System)

  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) 
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) 
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน 
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
  • ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW (Unsteady Driving Warning)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA (Intelligent Cruise Assist)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
  • กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
  • ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
  • ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)

MG3 2024MG3 2024

สรุป ALL NEW MG3 HYBRID+ ดีไหม

บอกเลยว่าสำหรับ ALL NEW MG3 HYBRID+ ต้องไปทดสอบขับขี่เองแล้วจะได้คำตอบทั้งหมด ตอนนี้อยู่ที่ราคาถ้ามาดีเห็นเลข 6 นำน่าจะไปได้ดีอย่างแน่นอน ลืมภาพ MG3 เก่าไปได้เลย ลืมเครื่องไฮบริด MG เก่าๆไปได้เลย เพราะทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ