รถยนต์ไฟฟ้า เป็นยานพาหนะประเภทใหม่ที่เข้ามาเป็นตัวเลือกหลักสำหรับคนที่ต้องการลดค่าเดินทางในชีวิตประจำวันลง แต่ตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้ามีหลากหลาย และมีรูปแบบการชาร์จมากๆ บทความนี้จะมาแนะนำว่าเราจะคิดค่าไฟต่อกิโลเมตรอย่างไร?
วิธีคำนวณค่าไฟรถ EV
วิธีการคำนวณค่าไฟของรถยนต์ไฟฟ้า EV โดยหลักแล้วเราจะต้องมีข้อมูลดังต่อไปนี้จึงจะสามารถเริ่มคำนวณได้
- อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าของรถ ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร มีบอกบนรถทุกคัน เหมือนอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
- ค่าพลังงานไฟฟ้าที่ซื้อมา คิดเป็นต่อหน่วย
โดยเราจะคำนวณด้วยวิธีการ
ระยะทาง 100 กิโลเมตร ÷ อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้า = ไฟฟ้า 1 หน่วย วิ่งได้กี่กิโลเมตร และค่อยนำไปคูณกับค่าไฟฟ้า
ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ไฟฟ้า NETA X มีอัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้า 18.5 หน่วย ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร (18.5 kWh/100km) ชาร์จไฟฟ้าที่บ้าน เป็นมิเตอร์ TOU ช่วง Off peak ค่าไฟหน่วยละ 3.8 บาท
ให้นำ 100 ÷ 18.5 = 5.4
ซึ่ง 5.4 คือระยะทางที่บอกว่า ไฟฟ้า 1 หน่วย รถ NETA X จะสามารถวิ่งได้ไกล 5.4 กิโลเมตร
จากนั้นนำไปคำนวณกับค่าไฟฟ้าหน่วยละ 3.8 บาท โดยนำเอาค่าไฟตั้ง และหารด้วยระยะทางที่วิ่งได้
ออกมาเป็น 3.8 ÷ 5.4 = 0.70 บาท/กิโลเมตร นั่นเอง
ถ้าคุณมีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่สถานีชาร์จภายนอก ให้ทำการเปลี่ยนตัวเลขของค่าไฟฟ้าเป็นไปตามราคาที่จ่ายจริง นอกนั้นให้ใช้ตัวเลขคงเดิม ตามตารางด้านล่างนี้
จุดชาร์จ | ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย | ค่าไฟฟ้าต่อกิโลเมตร |
Home Offpeak | 3.8 | 0.70 บาท |
DC Onpeak | 6.6 | 1.22 บาท |
DC Offpeak | 7.7 | 1.42 บาท |
คำนวณด้วยอัตราสิ้นเปลือง 18.5 kWh/100km
วิธีการคำนวณระยะทางวิ่ง รถ EV
สำหรับวิธีคำนวณระยะทางวิ่งรถ EV นับว่ามีความจำเป็นพอควร เนื่องด้วยมีรถยนต์ไฟฟ้าไม่กี่แบรนด์เท่านั้นที่จะบอกระยะทางขับขี่แบบแปรผันตามรูปแบบการใช้งาน โดยส่วนใหญ่ยังคงใช้รูปแบบค่าคงที่ตามปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากความเป็นจริง เพราะเราอาจจะขับได้ไกลกว่า หรือสั้นกว่าระยะทางที่รถบอกก็เป็นได้
จากโจทย์ข้างต้น รถของเรามีอัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าที่ 18.5 kWh/100 km โดยมีความจุแบตเตอรี่ 62 kWh ให้ใช้สูตรดังนี้
ให้เอาความจุแบตเตอรี่ตั้ง ÷ อัตราสิ้นเปลืองต่อกิโลเมตรของรถ = ระยะทางที่สามารถขับได้จริง
เป็นดังนี้ 62 ÷ 18.5 = 3.35
จากนั้นให้ x100 = 335 กิโลเมตร เราจะได้ตัวเลขที่รถคันนี้สามารถขับได้จริงๆ โดยถ้าจะให้ปลอดภัยกับการใช้งานให้ -10% ไปอีกรอบ จะกลายเป็น
335 - 10% = 301.5 กิโลเมตร เป็นระยะทางปลอดภัยที่รถคันนี้สามารถวิ่งได้
ซึ่งรถบางรุ่น แม้ใช้ขนาดแบตเตอรี่เล็กกว่า แต่อาจจะวิ่งได้ไกลกว่าเพราะระบบจัดการพลังงานไฟฟ้าทำได้ดีกว่า อาทิเช่น Tesla Model Y RWD ที่ใช้แบตเตอรี่ขนาด 57.5 kWh แต่มีอัตราการใช้ไฟฟ้าที่ 14 kWh/100km เราจะพบตัวเลขต่อไปนี้
ค่าไฟต่อกิโลเมตร 100÷14 = 7.14 กม./หน่วย
จุดชาร์จ | ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย | ค่าไฟฟ้าต่อกิโลเมตร |
Home Offpeak | 3.8 | 0.53 บาท |
DC Onpeak | 6.6 | 0.92 บาท |
DC Offpeak | 7.7 | 1.07 บาท |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้ไกลสุด (57.5÷14) x100 = 410 กิโลเมตร
ระยะทางที่ปลอดภัยสำหรับใช้งาน 410-10% = 369 กิโลเมตร เป็นระยะทางปลอดภัยที่รถคันนี้สามารถวิ่งได้
เพียงเท่านี้เราก็สามารถทราบได้แล้วว่า รถของเราวิ่งจริงๆ ได้ไกลแค่ไหน จ่ายค่าไฟจริงๆ ได้กิโลเมตรละกี่บาทครับ ขอเพียงแค่ทราบข้อมูล 3 อย่าง ได้แก่ อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าของรถ ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร, ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย และสเปคขนาดแบตเตอรี่ เท่านี้ก็เพียงพอ
Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น