Ford Everest ถือว่าเป็นรถในกลุ่ม PPV ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากต้องบอกว่ากระแสดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ในรุ่นท๊อปกับราคาที่เรียกว่าเกิน 2 ล้านไปแล้วกับรุ่น V6 ดีเซล แต่ถ้าคุณอยากประหยัดก็ต้อง Ford Everest Sport 2024
Ford Everest Sport 2024
ต้องยอมรับว่ารถยอดนิยมของคนไทยคือกลุ่มรถ PPV มีความอเนกประสงค์ใช้งานได้ทุกรูปแบบในเมืองนอกเมือง มีความทนทานทั้งช่วงล่างเครื่องยนต์ นั่งได้สูงสุด 7 ที่นั่ง ยิ่งตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคนไทย คันเดียวจบๆ
ในช่วงหลังรถในกลุ่มนี้มีราคาสูงมากแต่ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ ถ้าคุณอย่างได้ Everest แต่งบไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ก็มีตัวเลยอย่างรุ่น Ford Everest Sport 2024 นั้นเองมาดูกันว่าในรุ่น Sport จะดีเหมือนรุ่นพี่หรือเปล่า ก่อนหน้านี้ไม่นานทาง ฟอร์ด ได้ออกรุ่น ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต ด้วยชุดแต่งพิเศษ ‘แอดเวนเจอร์แพ็ค’ ที่มีชุดแต่งมาให้จากโรงงาน เรียกว่าดูหล่อแบบออกจากโชว์รูมเลย
ราคา Ford Everest 2024
2.0 Turbo Trend 6AT 4×2 : 1,354,000 บาท
2.0 Turbo Sport 6AT 4×2 : 1,484,000 บาท
2.0 Bi-Turbo Titanium+ 10AT 4×2 : 1,724,000 บาท
2.0 Bi-Turbo Titanium+ 10AT 4×4 : 1,874,000 บาท
Everest Platinum V6 3.0 Turbo 10AT 4×4 : 2,279,000 บาท
ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension
- ความยาว : 4,914 มิลลิเมตร
- ความกว้าง : 1,923 มิลลิเมตร
- ความสูง : 1,842 มิลลิเมตร
- ความยาวฐานล้อ : 2,900 มิลลิเมตร
- ความกว้างล้อหน้า/หลัง : 1,620/1,620 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดใต้ท้องรถ : 227 มิลลิเมตร
- ความจุถังนำ้มัน : 80 ลิตร
เครื่องยนต์ Ford Everest 2024
ดีเซล 2.0 Turbo 6AT
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ VG Turbocharged พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 170 แรงม้า (PS) ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง
ดีเซล 2.0 Bi-Turbo 10AT
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ Bi-Turbocharged พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-time 4WD
ทดสอบ Ford Everest Sport 2024
Ford Everest ที่เราเลือกในการทดสอบครั้งนี้กับรุ่น Sport หลายคนอยากจะเปรียบเทียบถึงความแตกต่างกับรุ่นท๊อปว่าจะแต่างกันแค่ไหนสำหรับภายนอกมีไม่กี่จุดสำหรับความแตกต่าง จุดสำคัญคือเครื่องยนต์กับภายในมากว่า
แต่ถ้าเราอยากได้ออฟชั่นที่่เพิ่มขึ้นเหมือนรุ่นท๊อปคุณสามารถซื้อเพิ่มได้
แพ็คเกจและอุปกรณ์เสริมสำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต พร้อมแพ็คเกจเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง (DAT Pack B) ราคา 58,000 บาท
-อัพเกรดจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch จากขนาด 10.1 นิ้ว เป็น 12 นิ้ว
-ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
-ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ Auto High Beam
-ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน AEB with Pedestrian Detection
-ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System
-ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน
-ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง
-ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด
-กล้องมองรอบคัน 360 องศา
-ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง
-ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ
ออฟชั่นต่างๆที่เพิ่มขึ้นทำให้เข้ามานั่งภายในรถแล้วให้ความรู้สึกเดียวกับตัวท๊อป จุดหลักคือหน้าจอขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้เหมือนตัวท๊อปทุกอย่าง ในเรื่องของระบบต่างๆช่วยเหลือการขับขี่ก็ทำได้ดีตั้งแต่ในเมือง
เริ่มทดสอบ ใช้งานจริงภายในเมืองเป็นรถที่่ให้ความคล่องตัวระบบต่างที่ช่วยในเรื่องความปลอดภัยทำให้รู้สึกว่าเป็นรถคันเล็ก สำหรับอัตราเร่งต่างๆนั้นเพียงพอสำหรับการใช้งานจุดเด่นจริงๆสำครับเครื่องยนต์ เทอร์โบเดียว ให้อัตราเร่งที่ดีตั้งแต่ช่วงต้นต่างจากเทอร์โบคู่ที่เน้นความสมูทมากกว่า ทำให้รู้สึกว่าไม่ทันใจ อัตราการกินนำ้มันในเมืองประมาณ 10-11km/L ถือว่ารับได้และทำได้ดีกว่ารุ่นเทอร์โบคู่
วิ่งออกนอกเมืองเดินทางไกล รถคันใหญ่วิ่งสบายด้วยมุมมองที่ดีเห็นแต่ไกล และด้วยรถที่มีขนาดใหญ่อีกหนึ่งข้อดีคือวิ่งในความเร็วสูงให้การเกาะถนนที่ดี จุดเด่นสำหรับ Ford Everest ช่วงล่างที่ให้ความรู้สึกว่ามีความนุ่มนวลในการเดินทางเป็นอย่างดี ถ้าเทียบกับคู่แข่งในตลาดถือว่านุ่มสุด แต่ถ้าความเร็วสูงมากๆนั้นก็มีอาการอยู่บ้างก็ต้องยอมรับเพราะด้วยความสูงของตัวรถ มาถึงหัวใจสำคัญกับเครื่องยนต์ก็ต้องยอมรับว่าในการเร่งแซงต่างๆนั้นอาจจะแพ้เครื่องยนต์เทอร์คู่ เพราะด้วยแรงบิดแรงม้าที่มากกว่า แต่ในช่วงออกตัวนั้นเทอร์เดียวทำได้ดีกว่า แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกทดแทนได้คืออัตราการกินน้ำมันนั้นเอง เครื่องยนต์เทอร์โบเดียวให้อ้ตราการประหยัดที่ดีกว่า แม้ว่าจะมี 6 เกียร์ก็ตามแน่นอนว่าส่วนหนึ่งคือน้ำหนักที่น้อยกว่า เพราะในรุ่นเทอร์โบเดียวมีแค่ขับเคลื่อนสองล้อเท่านั้น เป็นอีกจุดที่น่าสนใจ ในการเดินทางไกลอัตราการกินน้ำมันเฉลี่ยที่ 12-13 km/L ถือว่าทำได้ดี แต่ถ้าขับขี่เน้นประหยัดเลยตัวเลขน่าจะดีกว่านี้แน่นอน
แต่สิ่งที่ทำให้รถขับขี่ดีมากยิ่งขึ้นคือ (DAT Pack B) ที่เสริมระบบช่วยเหลือการขับขี่ในการเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง นั้นช่วยที่คุณขับขี่ในทางไกลได้เป็นอย่างดี ปลอดภัยมากขึ้นลดอาการเหนือล้าได้เป็นอย่างดี และยิ่งในเวลาฝนตกหนักมองทางไม่ค่อยชัดระบบก็ยังทำงานได้ทำให้เราปลอดภัยในการเดินทางมากยิ่งขึ้น
สรุป
สำหรับ Ford Everest Sport 2024 ถือว่าคุ้มค่ามากเพราะถ้าคุณอยากได้ PPv ใช้งานแต่งบประมาณไม่เกิน 1.5 ล้านคันนี้คือหนึ่งตัวเลือกที่ดีแต่ถ้าคุณไหวก็ไปตัว V6 ดีเซลเลย แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปเดินทางไกลบ้างไม่ต้องการขับสี่ คันนี้เพียงพอแล้ว และเสริมด้วย เพ็ก (DAT Pack B) เรียกว่าระบบเหมือนรุ่นพี่เลย
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น