คราบบนกระจกรถยนต์เกิดขึ้นจากสาเหตใดได้บ้าง? และมีวิธีทำความสะอาดให้กระจกกลับมาสดใสเหมือนเดิมได้ด้วยวิธีไหน? วันนี้เลดี้มีไอเดียมาฝากค่ะ
กระจกหน้ารถเป็นคราบ ทำความสะอาดอย่างไรดี?
คราบสกปรกติดฝังแน่นบนกระจกหน้ารถยนต์ ล้างน้ำสะอาดหรืออัดฉีดอย่างเดียวคราบก็ออกไม่หมด กระจกขุ่นมัวไม่กลับมาสดใสเหมือนเดิม ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ไม่ดีนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ วันนี้เลดี้มีไอเดียการกำจัดคราบสกปรกที่เกาะแน่นบริเวณกระจกหน้ารถมาฝาก สามารถทำความสะอาดยังไงได้บ้าง...ไปชมกันค่ะ
คราบสกปรกเกิดขึ้นจากอะไร?
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า สาเหตุที่ทำให้กระจกเป็นคราบล้างไม่ออกนั้นจะเกิดจากอะไรได้บ้าง โดยหลักๆ มักเกิดขึ้นจาก 3 สาเหตุดังต่อไปนี้
1. คราบจากการล้างรถ
สาเหตุแรกที่มักพบบ่อยๆ เกิดจากพฤติกรรมการล้างรถของแต่ละคน ถ้าใครที่ชอบล้างรถด้วยตัวเอง แต่ล้างแล้วไม่ยอมเช็ดหมาดปล่อยให้แห้งเอง ยิ่งเป็นการทำให้คราบของน้ำติดเป็นคราบฝังลึกบริเวณกระจก และจะยิ่งล้างออกได้ยากขึ้นหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน เกิดเป็นรอยคราบและฝุ่นที่เห็นได้อย่างชัดเจน
2. คราบจากมูลสัตว์ และยางต้นไม้
ใครที่ไม่มีโรงจอดรถหรือที่จอดที่มิดชิด รถของคุณอาจกลายเป็นราชวังดีๆ ให้กับสัตว์นานๆ ชนิดก็เป็นได้ โดยเฉพาะบริเวณใต้ต้นไม้ซึ่งอาจจะเป็นแหล่งทำรังของนกและสัตว์อื่นๆ น้องๆ อาจจะมาปล่อยมูลทิ้งไว้บนรถของคุณ หากปล่อยทิ้งไว้โดยที่ไม่ทำความสะอาดในทันที อาจส่งผลให้คราบสกปรกเหล่านั้นติดฝังแน่นไปกับสีตัวถัง ทำให้ล้างออกยาก ยิ่งถ้าเป็นยางต้นไม้แล้วยิ่งต้องรีบล้างออกโดยด่วนก่อนที่สีรถของคุณจะด่างเป็นดวงๆ
3. คราบจากการใช้งาน
หากคุณเป็นบุคคลที่ขับอย่างเดียว แต่ไม่ดูแลบำรุงรักษารถยนต์ให้ดี เดือนนึงล้างรถนับจำนวนได้อันนี้ไม่ดีแน่ เพราะเส้นทางที่คุณใช้เดินทางในแต่ละวัน อาจะมีฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก ถ้าวันไหนฝนตกยิ่งเละเข้าไปใหญ่ เพราะจะมีขี้โคลนเข้ามาผสมไปอีก ยังไม่รวมคราบจากยางมะตอยที่เป็นตัวร้ายกว่าเพื่อนๆ อีก เพราะเป็นคราบที่มีความเหนียว ติดแน่น และต้องทำความสะอาดด้วยความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
ทำความสะอาดคราบสกปรกบนกระจกหน้ารถยังไงดี?
เมื่อใดก็ตามที่คุณสังเกตเห็นคราบสกปรกติดอยู่บริเวณกระจก ให้รีบทำความสะอาดโดยด่วน ก่อนที่คุณจะต้องเสียเงินจำนวนมากเปลี่ยนกระจกหน้าใหม่ วิธีทำความสะอาดคราบง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง ดังต่อไปนี้
- ล้างด้วยน้ำสะอาด : เป็นขั้นตอนลำดับแรกที่ควรทำเพื่อให้คราบที่กระจกหลุดออกไปก่อน ที่มันจะไปฝังแน่นในพื้นผิว แต่สำหรับวิธีนี้จะเหมาะกับคราบที่เพิ่งเกาะติดเท่านั้น หลังจากล้างด้วยน้ำสะอาดแล้ว ควรใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกที
- ล้างด้วยน้ำส้มสายชู : หากเป็นคราบที่ติดมาแล้วซักพักจะมีความเหนียวมากกว่าคราบที่เพิ่งเกาะ ทำให้ล้างด้วยน้ำเปล่าพียงอย่างเดียวไม่ออก ให้ทำการเพิ่มน้ำส้มสายชูลงไปนิดหน่อย แล้วเช็ดบริเวณที่เกิดคราบ แล้วอย่าลืมล้างด้วยน้ำสะอาดตามอีกครั้ง
- ล้างด้วยเบกกิ้งโซดา : เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการทำความสะอาดคราบกระจกได้ดี โดยนำเอาเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำเล็กน้อยแล้วเช็ดบริเวณที่เป็นคราบบนกระจกหน้ารถ หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด และเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง
- ล้างด้วยน้ำยาเช็ดกระจก : หากเป็นคราบที่ติดแน่นมาเป็นเวลานานๆ แนะนำให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกช่วย โดยต้องไม่ถูแบบรุนแรงจนเกินไป เพื่อไม่ให้ไปทำลายพื้นผิวของกระจกได้
- ใช้มีดโกนหรือคัตเตอร์ : กรณีที่มีคราบอันเกิดจากยางมะตอย หรือคราบที่มีความเข้มข้นและเหนียว ให้ใช้ใบมีดโกนขูดบริเวณที่เกิดคราบ โดยขูดอย่างเบามือ ระมัดระวังอย่าขูดให้ถึงผิวกระจก หลังจากนั้นล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกครั้ง
อย่างที่บอกไปนะคะว่าคราบบนกระจกรถยนต์นั้นเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ คราบจะฝังลึกจนไม่สามารถล้างออกได้ สามารถนำไอเดียที่เลดี้เลือกมาให้ทั้งหมดนี้ไปลองใช้กันดูนะคะ หรือถ้ามีงบหน่อยไม่อยากทำด้วยตัวเอง แนะนำให้ปรึกษาที่ร้าน Car Care ก็ได้เช่นกันค่ะ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น