10 เคล็ดลับ ป้องกันการปวดหลังจากการขับรถ Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

10 เคล็ดลับ ป้องกันการปวดหลังจากการขับรถ

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 06 November 2567

อาการปวดหลังจากการขับรถ มักเกิดขึ้นกับผู้ที่ต้องขับรถทางไกลไปทำงาน หรือผู้ที่ทำงานอยู่บนรถ เช่น พนักงานส่งของ พนักงานไปรษณีย์ Taxi เป็นต้น ถ้าหากปล่อยไว้นานๆ อาการอาจหนักขึ้นจนกลายเป็นเรื้อรังได้ มาดู 10 เคล็ดลับเปลี่ยนท่านั่ง เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการปวดหลังกันค่ะ


10 เคล็ดลับ ป้องกันการปวดหลังจากการขับรถ

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องเดินทางไกล การขับรถนานๆ มักเกิดอาการปวดหลังนั่นไม่ใช่เรื่องแปลก ยิ่งถ้าเป็นช่วงเวลาที่การจราจรติดขัดด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ต้องนั่งเกร็งอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าหากปวดบ่อยๆ ขับนิดๆ หน่อยก็เริ่มปวดแล้ว จนเริ่มมีความกังวลว่าอาการปวดหลังเริ่มจะเรื้อรังแล้วหรือไม่? ก่อนจะสายเกินไปมาดู 10 เคล็ดลับที่จะช่วยป้องกันอาการปวดหลัง ด้วยวิธีปรับท่าทางในการนั่งขับรถ ดังต่อไปนี้

ปวดหลังจากการขับรถ (1)

1. ปรับเบาะให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง 

หากคุณไม่ได้เป็นคนใช้รถคนเดียวในบ้าน และมีสมาชิกคนอื่นๆ ใช้รถคันเดียวกับคุณ ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนขับรถออกไป ก็คือการปรับเบาะที่นั่งให้ถูกต้อง เช่น มุมองศาพนักพิงควรอยู่ประมาณ 110-130 องศา เพื่อป้องกันไม่ให้หลังทรุดหรือเอื้อมไปข้างหน้ามากเกินไป ซึ่งการนั่งในตำแหน่งที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่หลังได้มากถึง 50% 

2. ขยับเบาะไปด้านหน้าเล็กน้อย 

การเลื่อนเบาะไปข้างหน้าเล็กน้อยทำให้คุณอยู่ใกล้กับพวงมาลัยมากขึ้น ไม่ทำให้หลังค่อมและไม่ต้องเอื้อมไปเหยียบคันเร่งแรงๆ อีกด้วย และท่าที่ดีที่สุดก็คือการที่เข่าของคุณไม่สูงไปกว่าสะโพก 

3. ปรับตำแหน่งพวงมาลัย 

นอกจากการปรับตำแหน่งเบาะนั่งให้ถูกต้องแล้ว คุณจะต้องปรับตำแหน่งของพวงมาลัยเพื่อป้องกันอาการปวดหลังด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการวิจัยพบว่า ควรวางมือไว้ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และ 3 นาฬิกา วิธีนี้จะช่วยให้คุณวางศอกบนที่วางแขนได้  ช่วยให้บรรเทาอาการปวดบริเวณหลังส่วนบนได้

ปวดหลังจากการขับรถ (2)

4. ยืดกล้ามเนื้อบ่อยๆ 

การนั่งเป็นเวลานานๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการชาได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้กล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รอรถติดไฟแดง ควรยืดกล้ามเนื้อบ่อยๆ เพื่อผ่อนคลาย จะทำให้คุณขับรถได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น 

5. เตรียมถุงน้ำแข็ง / ถุงร้อน ไว้ในรถ

หากคุณมีแพลนที่จะเดินทางไกลควรเตรียมถุงน้ำแข็งหรือถุงร้อนไว้ในรถเสมอ หากมีอาการบาดเจ็บเฉียบพลันให้ใช้ถุงน้ำแข็ง แต่ถ้ามีอาการบาดเจ็บเรื้อรังให้ใช้ถุงร้อน แต่ก็ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวดังนั้นคุณสามารถเลือกใช้ทั้ง 2 ประเภทได้ตามใจชอบ โดยการนำเอาไว้บริเวณด้านหลังบนเบาะ ถุงเหล่านี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดความครียดที่หลังได้ สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะมีฟังก์ชั่นเบาะร้อน/เย็น ที่สั่งการง่ายๆ เพียงกดปุ่มเดียว ซึ่งสามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน 

ปวดหลังจากการขับรถ (3)

6. พักผ่อนให้เพียงพอ

การเตรียมตัวที่ดีก่อนการขับรถทางไกลก็คือ การพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งในปัจจุบันมีจุดพักรถมากมายในทุกๆ เส้นทาง ให้แวะพักเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ ทานอาหาร และควรลุกเดินเพื่อยืดเส้นยืดสายหลีกเลี่ยงการเป็นตะคริวด้วย ควรพักเป็นระยะๆ ครั้งละประมาณ 15-20 นาที 

7. ออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี ที่จะช่วยลดอาการปวดหลังจากการขับรถได้ เพราะการออกกำลังกายบางประเภทจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลังและคลายความตึงเครียด เช่น การว่ายน้ำ การวิ่ง หรือโยคะ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการผ่อนคลาย ให้เลือกออำกำลังกายบริเวณที่มีปัญหา นอกจากจะช่วยบรรเทาการเจ็บปวดแล้วยังช่วยให้มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย

ปวดหลังจากการขับรถ (4)

8. บรรเทาอาการปวดชั่วคราว 

ควรบรรเทาอาการเจ็บปวดแบบชั่วคราวทุกครั้งหลังลงจากรถทันที เช่น ครีมทาแก้อาการปวดเมื่อย แผ่นแปะร้อน/เย็น เป็นต้น ควรเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้ให้พร้อมทุกครั้งที่เดินทางไกล เพื่อป้องกันไม่ให้ปวดจนกลายเป็นเรื้อรัง 

9. เบี่ยงเบนความสนใจจากการปวด 

หากคุณไม่มีอุปกรณ์ต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น แต่เริ่มที่จะมีอาการปวดรุนแรงขึ้น การที่คุณไปโฟกัสกับความเจ็บปวด จะยิ่งทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ดังนั้นควรเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการปวดหลัง ไปฟังเพลง หรือฟัง Podcast ที่ชื่นชอบ และรีบหาร้านสะดวกซื้อ แวะซื้อครีมแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการอย่างเร่งด่วน 

10. ไปปรึกษาคุณหมอ  

สำหรับกรณีนี้เหมาะสมกับผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถตลอดเวลา อาทิ พนักงานส่งของ พนักงานไปรษณีย์ Taxi เป็นต้น คุณจะต้องเผชิญกับอาการปวดหลังจากการขับรถอย่างแน่นอน ให้รีบไปปรึกษานักกายภาพบำบัด หรือแพทย์เฉพาะทางที่สามารถให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการนั่งให้กับคุณได้แบบถูกต้อง 

ปวดหลังจากการขับรถ (5)

จากการวิจัยล่าสุดพบว่าผู้ขับขี่รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น 60-70% มีอาการปวดหลังขณะขับรถ เพราะการจราจรในเมืองส่วนใหญ่ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องใช้เวลาอยู่บนท้องถนนหลายชั่วโมง ซึ่งบางรายก็เป็นสาเหตุของปัญหาที่ร้ายแรงตามมา เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน คลอลาเจนในกระดูกลดลง ตลอดจนเป็นอัมพาตได้ ดังนั้นแล้วไม่ควรปล่อยปะละเลย และให้ความสำคัญกับท่านั่งขณะขับรถด้วยนะคะ 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ