ไฟตัดหมอก ควรใช้อย่างไรให้ปลอดภัย และไม่ผิดกฎหมาย Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

ไฟตัดหมอก ควรใช้อย่างไรให้ปลอดภัย และไม่ผิดกฎหมาย

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 27 November 2567

กฎหมายไฟตัดหมอกที่ควรรู้ ความแตกต่างระหว่างไฟหน้ารถและไฟตัดหมอก และควรใช้งานไฟตัดหมอกอย่างไร ตอนไหนถึงจะปลอดภัยแก่เพื่อนร่วมเดินทาง


ไฟตัดหมอก มีไว้ทำไม

รู้หรือไม่? การเปิดไฟตัดหมอกแบบไม่ถูกต้องตามสถานการณ์ "มีสิทธิ์โดนตำรวจจับได้นะ!" เพราะ "ไฟตัดหมอก" เป็นอุปกรณ์ที่มีไว้ช่วยเหลือในการเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นเท่านั้น ไม่ควรเปิดใช้พร่ำเพรื่อเพราะอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ร่วมทางได้ สาเหตุก็คือถึงแม้ว่าไฟตัดหมอกที่ติดมากับรถยนต์ส่วนใหญ่แล้วจะมีขนาดเล็ก แต่ลำแสงที่ส่งออกมานั้น สว่างและเข้มข้นกว่าไฟหน้ารถมากๆ ทำให้ไปก่อกวนสายตาและลดความสามารถในการมองเห็นของผู้ขับขี่คันอื่นได้นั่นเอง

ไฟตัดหมอก

 

ไฟตัดหมอกกับไฟหน้ารถ แตกต่างกันอย่างไร?

การทำงานของไฟหน้ารถยนต์ คืออุปกรณ์ที่ช่วยส่องสว่างในเวลากลางคืน และเพื่อไม่ให้เกะกะสายตาของผู้ที่ขับขี่ด้านหน้าหรือที่ขับสวนเลนมา มุมของลำแสงจึงต้องเอียงลาดต่ำไปกับพื้นเพื่อไม่ให้แยงตา ส่งผลให้แสงสว่างน้อยลงหากใช้ในยามที่หมอกลงจัดๆ จะทำให้มองไม่เห็นเท่าไหร่นัก ซึ่งจะมองเห็นได้เพียงระยะไม่เกิน 10-15 เมตร เท่านั้น ส่วน "ไฟตัดหมอก" จะเป็นไฟประเภท "สปอตไลท์" ที่มีลำแสงเข้มข้น ส่องสว่างในระดับสายตาที่ระนาบไปกับพื้นถนน มองเห็นได้ไกลถึง 30-80 เมตร สามารถส่องทะลุหมอกหนาหรือสายฝนได้เป็นอย่างดี

ไฟตัดหมอกกับไฟหน้ารถ แตกต่างกันอย่างไร

ในหลายๆ ประเทศ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมืองหนาว) มีการออกกฎหมายบังคับให้มีไฟตัดหมอกเป็นอุปกรณ์ติดรถมาตรฐาน เนื่องจากเป็นภูมิประเทศที่มีภูเขาสูงหรือเกาะ มีอากาศหนาวเย็นและฝนตกชุก สำหรับในประเทศไทยบ้านเรา รถยนต์รุ่นใหม่ๆ จึงนำเอาอุปกรณ์ไฟตัดหมอกมาติดเป็นมาตรฐานเช่นเดียวกัน และ หากใช้ไม่เป็นไปตามประเภท ลักษณะ และเงื่อนไขที่กำหนด จะถือว่ามีความผิด ถูกปรับไม่เกิน 500 บาท ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 11 มาตรา 148 กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2536) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ข้อ 2 ข้อ 13 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 มาตรา 39 โดยมีสาระสำคัญดังนี้

  • ไฟหน้ารถยนต์มีสีขาวหรือเหลืองอ่อนเท่านั้น
  • หากหลอดไฟถูกต้อง แต่ใช้โคมสีอื่นๆ ถือว่าผิดกฎหมาย
  • ความเข้มของแสงหลอดไฟต้องไม่เกิน 55 วัตต์
  • ต้องติดตั้งสูงจากผิวถนนไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร ไม่เกิน 1.35 เมตร
  • ไฟหน้าต้องไม่กระจายเป็นวงกว้างออกด้านข้าง เพราะทำให้รบกวนวิสัยทัศน์ของผู้ขับขี่คนอื่น
  • หากนำไฟสปอร์ตไลต์มาติดตั้งเป็นไฟหน้ามีความผิดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ โทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • หากนำไฟซีนอนมาติดตั้งเป็นไฟหน้า ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ. รถยนต์ มาตรา 12 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

กฎหมายไฟตัดหมอก

 

ไฟตัดหมอกควรใช้ตอนไหน

การใช้ไฟตัดหมอกที่ถูกต้องตามเงื่อนไข ต่อเมื่อต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีทัศนวิสัยย่ำแย่ อาทิ พื้นที่ที่มีหมอก ควัน ฝุ่นละอองกระจายอย่างหนาแน่น จนกลายเป็นอุปสรรคต่อการขับรถ และอื่นๆ ดังต่อไปนี้ 

  • ตอนกลางคืนขณะฝนตกหนัก
  • ตอนกลางคืนในพื้นที่ที่มีแสงสว่างน้อย
  • พื้นที่ที่มีหมอก ควัน ฝุ่นละออง ทำให้มองเห็นถนนข้างหน้าในระยะ 50 เมตร ได้ไม่ชัดเจน
  • ขึ้น-ลงเขา หรือยอดเขาที่สูงชัน
  • ขับผ่านสถานการณ์ไฟไหม้ข้างทาง มีควันไฟป่าหนาทึบปกคลุมเป็นจำนวนมาก

ไฟตัดหมอกควรใช้ตอนไหน

ดังนั้นควรเปิดใช้ "ไฟตัดหมอก" ให้เหมาะสมต่อสถานการณ์ในกรณีที่ทัศนวิสัยไม่เป็นใจ เช่น หมอกลงจัด ฝนตกหนักตอนกลางคืน หรือควันไฟ และควรหลีกเลี่ยงการใช้งานในเวลาที่ไม่จำเป็น เพื่อไม่ให้แสงแยงตาเพื่อนร่วมทางและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ในที่สุด

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ