รถออฟโรด ในปี 2025 จะมีรุ่นไหนน่าใช้ แล้วแต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ Autospinn รวบรวมรีวิวสเปค เปรียบเทียบราคารถ Off Road แต่ละรุ่น จะมีรุ่นไหนบ้างไปติดตามกัน
รถออฟโรด ยี่ห้อที่น่าสนใจ
รถออฟโรด รุ่นไหนดี 2025 พร้อมเปรียบเทียบราคารถออฟโรดแต่ละรุ่น
รถออฟโรด เป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนเส้นทางที่ขรุขระ ไม่ว่าจะเป็นดินโคลน หิน หรือพื้นผิวที่ไม่เรียบเสมอกัน ทำให้รถออฟโรดเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและการเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ที่ท้าทาย เรารวบรวมรถออฟโรดรุ่นที่น่าสนใจมาฝากกัน จะมีรุ่นไหนบ้าง ไปติดตามกันเลย
1. JAECOO 6 EV
รถยนต์ไฟฟ้า 100% สไตล์ออฟโรด JAECOO 6 EV พิกัดตัวถังระดับ B-SUV ดีไซน์แบบกล่อง ดูบึกบึน แข็งแกร่ง และทรงพลัง โดย JAECOO 6 EV จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาในสไตล์ออฟโรดอย่างแท้จริงที่พร้อมลุยในหลากหลายเส้นทาง จุดเด่นของ JAECOO 6 EV ที่ทำให้รถคันนี้เหมาะสำหรับการลุยแบบ Off Road คือระยะมุมเข้าและมุมจากของรถ โดยระยะห่างระหว่างกันชนหน้าถึงกึ่งกลางล้อหน้า มีความยาวที่ 802 มม. ทำให้รถมีมุมปะทะอยู่ที่ 28 องศา
ส่วนมุมจาก มีระยะห่างจากกึ่งกลางล้อหลังถึงกันชนหลังถึง 821 มม. ทำให้มีองศามุมจากถึง 32 องศา ส่งผลให้รถคันนี้สามารถขึ้น-ลง ทางชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยีงมีความสูงใต้ท้องรถถึง 190 มม. เทียบเท่ากับรถยนต์ PPV หลาย ๆ รุ่นในท้องตลาด รถออฟโรด JAECOO 6 EV มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- JAECOO 6 EV 2WD มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง มอบกำลังสุงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ทำ 0-100 กม./ชม. ใน 10.5 วินาที แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน LFP จาก CATL ความจุ 65.7 kWh ขับไกล 426 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC
- JAECOO 6 EV 4WD มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ มอบกำลังสูงสุด 279 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำ 0-100 กม./ชม. ใน 6.5 วินาที แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน LFP จาก CATL ความจุ 69.8 kWh ขับไกล 418 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC
ราคารถออฟโรด JAECOO 6 EV
- รถออฟโรด JAECOO 6 EV 2WD ราคา 1,099,000 บาท
- รถออฟโรด JAECOO 6 EV 4WD ราคา 1,249,000 บาท
สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ ตารางผ่อน JAECOO 6 EV
อ่านรีวิวเปรียบเทียบรถออฟโรด ขาลุยว่าไงดี? JAECOO 6 รถยนต์ไฟฟ้า หรือ GWM TANK 300 ไฮบริดเลือดผสม
2. Mercedes-Benz G580
รถออฟโรด ใน EV เต็มรูปแบบ กับ Mercedes-Benz G580 ด้วยชื่อเสียงของ G-Wagon กับการตะลุยในรูปแบบการขับขี่แบบออฟโรด G580 Electric คันนี้สามารถตอบสนองทั้งการขับขี่แบบขึ้นเนินสูงชันและพื้นทราย รวมถึง G-steering หมุนรอบ 360 องศา และฟังก์ชันการคลานแบบ Off Road ในความลึก 33.5 นิ้ว ผ่านการควบคุมบนล้อทั้ง 4 ล้อ มีการยึดเกาะที่ดีขึ้นด้วยระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 9.8 นิ้ว และระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ที่มีความทนทานทั้งในสภาพเปียก โคลน และทราย
ในส่วนของโหมดการขับขี่รถออฟโรดคันนี้ นอกเหนือจากโหมดปกติทั่วไปอย่าง Comfort, Sport และ Individual ยังมีโหมด Trail และ Rock สำหรับการใช้งาน Off Road ด้วยเช่นกัน
โครงสร้างตัวถังมีความแข็งแกร่งทนทาน มาพร้อมระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 116 kWh สามารถวิ่งได้ไกลสูงประมาณ 386.24 กิโลเมตร ซึ่งแบตเตอรี่ประกอบด้วยเซลล์ 216 เซลล์ ใน 2 ชั้น ป้องกันน้ำและสิ่งสกปรก ทนต่อการบิดงอ ด้านล่างของตัวเครื่องถูกหุ้มด้วยแผ่นกันกระแทกที่ทำจากพลาสติกเสริมคาร์บอนซึ่งมีความแข็งมากกว่าเหล็กหรืออลูมิเนียม ไม่ขึ้นสนิม มีน้ำหนักเบา
Mercedes-Benz G580 Electric ใช้เทคโนโลยีของ EQ ที่ประกอบด้วยมอเตอร์ 4 ตัว มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ผลิตพละกำลังรวม 579 แรงม้า มีแรงบิด 859 ปอนด์-ฟุต สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 4.4 วินาที โดยที่ Top Speed จะถูกจำกัดไว้ที่ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง
รถออฟโรด Mercedes-Benz G580 Electric คันนี้สามารถชาร์จได้สูงสุด 11 kW ด้วยกระแสไฟ AC ระดับ 2 และ สูงสุด 200 kW ด้วยเครื่องชาร์จเร็ว DC ระดับ 3 และยังใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที ในการชาร์จแบตจาก 10-80%
ราคารถออฟโรด Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology
- Mercedes-Benz G 580 EV ราคาเริ่มต้น 9,500,000 บาท
- Mercedes-Benz G 580 EV EDITION ONE ราคาเริ่มต้น 12,200,000 บาท
*รุ่น EDITION ONE มีโควต้าจำนวนจำกัด 6 คัน เท่านั้น
นำเข้าทั้งคัน (CBU) จากประเทศ ออสเตรีย
อ่านเพิ่มเติม รีวิว Mercedes-Benz G Class มือสอง รถออฟโรดที่น่าซื้อที่สุด
3. GWM TANK 500
รถ SUV ออฟโรด ระดับพรีเมียม GWM TANK 500 HEV ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
รถออฟโรด GWM TANK 500 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 244 แรงม้า พร้อมแรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด 380 นิวตัน-เมตร และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีด (9HAT) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถไฮบริด
GWM TANK 500 HEV มาพร้อมฟีเจอร์ Off Road สุดล้ำไว้ลุย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลบนถนนสายยาว ถนนลูกรัง หรือจะเข้าไปลุยเขา เข้าป่า หรือตะลุยเส้นทางออฟโรด ก็ไม่หวั่น ด้วยระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Offroad Cruise Control) ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent System) พร้อมโหมดการขับขี่ 11 รูปแบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดสภาพถนนลื่น และ Off Road ได้แก่ โหมดโคลน โหมดทราย โหมดหิน โหมด4L โหมด4H โหมดอัตโนมัติ และโหมดเชี่ยวชาญ
ราคาอย่างเป็นทางการ รถออฟโรด GWM TANK 500
- GWM TANK 500 รุ่น PRO ราคา 2,049,000 บาท
- GWM TANK 500 รุ่น ULTRA ราคา 2,269,000 บาท
สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ ตารางผ่อน GWM TANK 500
อ่านเพิ่มเติม ทำไม TANK 500 HEV โดนใจผู้ชื่นชอบรถยนต์เอสยูวีออฟโรด?
4. SUZUKI JIMNY OFFROAD EDITION
รถออฟโรด SUZUKI JIMNY รถยนต์ออฟโรดขนาดคอมแพ็ค กับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เคยเปลี่ยน สมรรถนะเกินตัวกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time 4WD ออกผจญภัยไปกับตำนานแห่งรถยนต์ออฟโรดขนาดคอมแพ็ค ภายใต้คอนเซ็ปต์ BORN TO BE LEGEND เสริมความดุดันด้วยชุดแต่ง OFFROAD EDITION ที่ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังเต็มที่ทุกเส้นทาง ภายในดีไซน์อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวพร้อมรองรับการใช้งาน
SUZUKI JIMNY ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,462 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-time
ราคา SUZUKI JIMNY OFFROAD EDITION
- AT (Monotone) ราคา 1,760,000 บาท
- AT (Two-Tone) ราคา 1,790,000 บาท
อ่านรีวิวเปรียบเทียบรถออฟโรด เปรียบเทียบ Tank 300 กับ Suzuki Jimny ราคาเท่ากัน ซื้อรุ่นไหนดี ?
5. Jeep Wrangler Rubicon
Jeep Wrangler Rubicon ราชาออฟโรดสัญชาติอเมริกันที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในและนอกถนน รถออฟโรด Wrangler Rubicon นำเสนอความสามารถแบบ Off Road ในตำนาน ด้วยระบบฉุดลากขั้นสูง Tru-Lok ® ระบบล็อคเฟืองขับหน้าและหลังแบบไฟฟ้า และระบบตัดการทำงานของเหล็กกันโครงแบบไฟฟ้า
Jeep Wrangler Rubicon มีระยะห่างจากพื้นดินเพียงพอด้วยยางสำหรับทุกพื้นที่ขนาด 33 นิ้ว โดยให้พื้นที่ผิวที่กว้างกว่ายางทั่วไปเพื่อการยึดเกาะและการควบคุมสูงสุดบนทางวิบาก ไต่ไปพร้อมความมั่นใจ ด้วยอัตราทดเกียร์ต่ำ 4:1 Rubicon ที่ติดตั้ง Rock-Trac ® สามารถส่งมอบอัตราส่วนการปีนไต่ 84:1 เมื่อติดตั้งเกียร์ธรรมดาเพื่อก้าวข้ามทุกสิ่งกีดขวาง เมื่อต้องปีนไต่บนกองหิน อาจใช้กำลังในทางที่ผิด ทำให้ล้อหมุนผิดรูปแบบ ระบบ Tru-Lok ล็อคเฟืองขับหน้าและหลังแบบไฟฟ้าจะช่วยล็อคคและกระจายกำลังอย่างสม่ำเสมอเพื่อการยึดเกาะที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น
ผจญภัยแค่ปลายนิ้วสัมผัส ด้วยการกดปุ่ม Off Road+ ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Jeep Wrangler Rubicon คุณสามารถปรับคันเร่ง จุดเปลี่ยนเกียร์ และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการส่งผ่านความเร็วสูงบนเนินทรายหรือการคลานบนหินความเร็วต่ำ
ราคารถออฟโรด Jeep Wrangler Rubicon
- Jeep Wrangler Rubicon 2 ประตู ราคาขายปลีกแนะนำ 5,390,000 บาท
- Jeep Wrangler Rubicon 4 ประตู ราคาขายปลีกแนะนำ 5,490,000 บาท
สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ ตารางผ่อน Jeep Wrangler Rubicon
อ่านเพิ่มเติม เปิดมุมมองสู่โลกแห่งออฟโรด กับ Jeep Wrangler Rubicon
6. Ford Ranger Raptor
Ford Ranger Raptor ถือเป็นรถกระบะ 4 ประตู ที่ขึ้นชื่อว่ามีออปชันพร้อมลุยออฟโรด ตัวรถมีจุดเด่นมากมายหลายอย่าง ทั้งดีไซน์ภายนอกที่ดุดัน ภายในที่นั่งสบาย ช่วงล่างขั้นเทพอย่าง FOX Live Valve และยังมาพร้อมโหมดการขับขี่ต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานบนทุกสภาพพื้นผิวถนน มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ คือ เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ และ 2.0 ลิตร มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไบเทอร์โบ
รถออฟโรด Ford Ranger Raptor มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูง Active Park Assist และเบรกมือไฟฟ้า บวกกับโช้คอัพ FOX 2.5 นิ้ว Live Valve ให้สายออฟโรดลุยได้ถึงใจกว่าที่เคย พร้อมเทคโนโลยี Live Valve ที่ปรับอัตราการดูดซับแรงสั่นสะเทือนตามการเคลื่อนไหวของตัวรถ (Live Valve เทคโนโลยี สำหรับรุ่น 3.0L เท่านั้น)
นอกจากนี้ รถยนต์ออฟโรด คันนี้ ยังเลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 7 แบบ (โหมดประหยัด โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดถนนลื่น โหมดโคลน/ร่อง โหมดปีนทางกรวด และโหมดบาฮา) Ranger Raptor จึงไปกับคุณได้ทุกที่
ราคารถ Ford Ranger Raptor
- Ford Ranger Double Cab Raptor 2.0L ราคาเริ่มต้น 1,799,000 บาท
- Ford Ranger Raptor 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT ราคาเริ่มต้น 1,949,000 บาท
อ่านรีวิวรถ Off Road ลุยออฟโรด พิสูจน์ความดุดัน "Ford Ranger Raptor King Of Tough"
7. Mitsubishi Pajero Sport
รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Mitsubishi ก็ได้มีการผลิต รถออฟโรด มาเช่นกัน โดย Mitsubishi Pajero Sport ก็เป็นอีกรุ่นยอดฮิตที่มักจะเห็นคนเอามาขับ Off Road กันอยู่บ่อย ๆ โดยรถยนต์ออฟโรดรุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม มีห้องโดยสารที่กว้างพิเศษ นั่งสบายไม่อึดอัด เหมาะเป็นรถครอบครัวได้ด้วย และสามารถขับลุยน้ำ ลุยบก หรือขับในเมืองปกติธรรมดาก็สามารถขับได้สบาย ๆ
ราคาจำหน่าย Mitsubishi Pajero Sport
รถออฟโรด Mitsubishi Pajero Sport มีจำหน่าย 4 รุ่นย่อย ดังนี้
- Mitsubishi Pajero Sport รุ่น Prime 2WD ราคา 1,389,000 บาท
- Mitsubishi Pajero Sport รุ่น Ultra 2WD ราคา 1,529,000 บาท
- Mitsubishi Pajero Sport รุ่น Elite Edition 2WD ราคา 1,579,000 บาท
- Mitsubishi Pajero Sport รุ่น Elite Edition 4WD ราคา 1,689,000 บาท
สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ ตารางผ่อน Mitsubishi Pajero Sport
อ่านรีวิวรถออฟโรด รีวิว Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition เครื่องใหม่ เกียร์ใหม่ ดีไซน์หล่อขึ้น
รถออฟโรด เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและการเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ที่ท้าทาย อย่างไรก็ตาม เวลาขับ Off Road ควรจะต้องมีทักษะรอบตัว โดยเฉพาะการขับรถอย่างถูกวิธี ความชำนาญของเส้นทาง และการทำความเข้าใจเรื่องของตัวรถออฟโรดเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน และควรหมั่นตรวจเช็กเครื่องยนต์เป็นประจำด้วยนะครับ
อ่านต่อ รถ SUV ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ขับดี นั่งสบาย จุของได้เยอะ หรือ รถ MPV ประตูสไลด์ ยี่ห้อไหนดี อเนกประสงค์ ขึ้นลงสบาย
ความคิดเห็น