Toyota Motor เปิดตัว Toyota Alphard - Vellfire รุ่นปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รุ่นแรกของญี่ปุ่น พร้อมทั้งปรับปรุงสมรรถนะการขับขี่ของในรุ่นเบนซิน (ICE) และ ไฮบริด (HEV) จากแนวคิด "ความสุขในการเคลื่อนที่ที่สะดวกสบาย" พร้อมวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 31 มกราคม 2025
เปิดตัว Toyota Alphard - Vellfire PHEV รุ่นแรกของญี่ปุ่น
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น มุ่งหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านผลงานผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Toyota Alphard - Vellfire PHEV ซึ่งถือเป็นมินิแวนปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของญี่ปุ่น เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น โดยพร้อมแล้วที่จะวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 31 มกราคม 2025 ในส่วนของรุ่น HEV และ ICE จะได้รับการปรับปรุงด้วยเช่นกัน
ขับเคลื่อนอย่างสะดวกสบายด้วยขุมพลัง PHEV
มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับ Toyota Alphard - Vellfire ในรุ่น PHEV ช่วยเพิ่มความสุขให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังให้นั่งสบายได้ในทุกสถานการณ์ ผ่านความเงียบของระบบ BEV ที่ช่วยลดการเกิดเสียงและการสั่นสะเทือนให้น้อยที่สุด มีจุดศูนย์ถ่วงและเสถียรภาพที่ต่ำซึ่งได้รับจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ใต้พื้น ปรับปรุงการใช้งานให้เหมาะสมเป็นรถมินิแวนที่หรูหราพรีเมียมมากยิ่งขึ้น
ระบบ Plug-in Hybrid ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมด BEV หรือไฟฟ้าล้วนได้ในหลายรูปแบบการเดินทาง เพียงกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี ซึ่งสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้ไกลสูงสุด 73 กิโลเมตร/ชั่วโมง หลังจากนั้นจะกลับมาใช้ระบบเครื่องยนต์ในการเดินทางต่อไปได้อย่างสบายใจ
ภาพรวมของรุ่น Plug-in Hybrid
Toyota Alphard - Vellfire PHEV มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ผลิตพละกำลังรวม 225 กิโลวัตต์ (306 PS) สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนไกลสูงสุด 73 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง จากแบตเตอรีลิเธียมไอออนความจุขนาดใหญ่ ที่ติดตั้งไว้ใต้พื้นรถตรงกลาง ทำให้สามารถรักษาพื้นที่ภายในห้องโดยสารไว้ได้ พร้อมทั้งลดจุดศูนย์ถ่วงลงอีก -35 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับในรุ่น HEV ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและลดการสั่นสะเทือนมากยิ่งขึ้น
ในรุ่น PHEV มาพร้อมกับระบบควบคุม Smooth Stop ใหม่! ซึ่งช่วยยับยั้งการเอียงหัวลงอย่างกระทันหันเมื่อชะลอความเร็ว เรียกเป็นภาษาคนง่ายๆ ก็คือช่วยซับแรงกระแทกในกรณีที่ต้องเบรกกระทันหัน ทำให้ผู้โดยสารตอนหลังได้รับประสบการณ์การเดินทางที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังลดเสียงเครื่องยนต์ด้วยการเพิ่มระยะการทำงานของมอเตอร์และลดรอบเครื่องยนต์ อีกทั้งยังลดเสียงดังจากท้องถนนด้วยการเพิ่มวัสดุฉนวนกันเสียงที่แผงหน้าปัด ประตู และวัสดุภายในอื่นๆ รวมถึงเพิ่มฟองน้ำยูรีเทนที่โครงตัวถัง ทำให้ภายในห้องโดยสารไร้เสียงรบกวนจากภายนอก
ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นด้วยเทคโนโลยการสลับโหมด BEV/HEV อัตโนมัติ ซึ่งคาดการณ์ตามเส้นทางในการขับขี่ของแต่ละทริป ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทาง เช่น การขับขี่ในเมืองหรือบนภูเขา สำหรับโหมด BEV จะใช้ในเวลาที่เหมาะสมที่สุดของเส้นทาง เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการใช้เชื้อเพลิง ซึ่งทาง Toyota ได้ออกมาเครมในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงไว้ว่า Toyota Alphard - Vellfire PHEV สามารถทำได้ 16.7 กิโลเมตร/ลิตร
ฟังก์ชันหัวชาร์จและการจ่ายไฟลักษณะเฉพาะของ PHEV
สำหรับในรุ่น PHEV มาพร้อมฟังค์ชันการชาร์จแบบมาตรฐานและชาร์จด่วน ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 38 นาที (สำหรับการชาร์จจนถึง 80%) ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมากเมื่อไปเทียบกับการชาร์จแบบมาตรฐานด้วยสายชาร์จ 200V โดยที่มีฟังก์ชันแหล่งจ่ายไฟภายนอกสูงสุด 1,500W (AC 100V) เป็นมาตรฐาน และติดตั้งระบบ Vehicle to Home (V2H) ทำให้รถยนต์สามารถใช้ไฟจากแบตเตอรีสำรองจ่ายไฟไปยังบ้านได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อธิบายเพิ่มเติมคือ หากต้องการทำกิจกรรมกลางแจ้ง รถจะใช้ไฟจากโหมด BEV ซึ่งจะนำไฟฟ้าที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่จ่ายไฟให้กับภายนอก ส่วนหากต้องการใช้รถยนต์เป็นแหล่งจ่ายไฟฉุกเฉิน รถจะใช้ไฟจากโหมด HEV ซึ่งจะนำไฟฟ้าจากแบตเตอรีมาใช้ได้ในระดับที่กำหนด ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานประมาณ 5.5 วัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโหมด "My Room" ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับระบบปรับอากาศและระบบเสียง ที่จะเปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นห้องนอนเคลื่อนที่อีกหนึ่งห้องของคุณ
Toyota Alphard - Vellfire PHEV Specific
- เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร 4สูบ
- พละกำลังรวม 225 กิโลวัตต์ (306 PS)
- ขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนไกลสูงสุด 73 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
- ล้ออลูมิเนียมสีเงิน ขนาด 19 นิ้ว
- พวงมาลัยลายไม้
- เพดานหุ้มด้วยหนัง Ultrasuede®
- Alphard Executive Lounge 6 ที่นั่ง สีภายใน Neutral Beige
- Vellfire Executive Lounge 6 ที่นั่ง สีภายใน Sunset Brown
ราคาจำหน่ายแนะนำในประเทศญี่ปุ่นอยู่ในช่วง 4,362,000 เยน ถึง 5,853,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 957,476 - 1,284,756 บาท ซึ่งราคาจะแตกต่างออกไปในแต่ละพื้นที่ และยังไม่รวมค่าธรรมเนียมและการนำรถมารีไซเคิล ในส่วนของ Alphard และ Vellfire รุ่นเบนซินและ HEV จะได้รับการออกแบบใหม่หมด โดยพัฒนาจากแนวคิด "ความสุขในการเคลื่อนที่ที่สะดวกสบาย" ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับหรือผู้โดยสาร เพื่อตอบโจทย์การเดินทางในทุกรูปแบบ ได้รับการปรับปรุงที่สำคัญต่อประสิทธิภาพพื้นฐานเน้นไปที่ช่วงล่าง เพื่อเพิ่มประสบการณ์การขับขี่และความสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือแม้กระทั่งบุคคลสำคัญระดับ VIP
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ความคิดเห็น