ขับรถอยู่ๆ เครื่องดับเฉย เกิดจากอะไรได้บ้าง? Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

ขับรถอยู่ๆ เครื่องดับเฉย เกิดจากอะไรได้บ้าง?

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขับรถมาปกติ อยู่ๆ รถดับกลางอากาศ มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง และมีวิธีการป้องกันหรือสังเกตุอาการก่อนเกิดเหตุได้อย่างไร รวมถึงหากติดอยู่ในสถานการณ์นั้นแล้ว คุณควรทำตัวยังไงดี?


ขับรถอยู่ๆ เครื่องดับเฉย เกิดจากอะไรได้บ้าง?

มีใครเคยเจอสถานการณ์แบบนี้บ้าง ขับรถมาปกติแต่อยู่ดีๆ เครื่องยนต์เกิดดับกลางอากาศแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย วันนี้เลดี้จะพาไปดูว่าอาการแบบนี้มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง และมีวิธีป้องกันยังไง หรือสังเกตุสัญญาณก่อนเกิดเหตุ เพื่อให้คุณสามารถรู้ตัวได้ก่อน รวมถึงหากเกิดขึ้นกับตัวคุณเอง ณ ขณะนั้น คุณจะต้องทำยังไงดี...

รถดับกลางอากาศ

เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ เกิดจากอะไรได้บ้าง?

1. เครื่องยนต์มีภาวะ Over Heat 

หากรถของคุณมีอาการความร้อนสูงกว่าปกติ หรือ Over Heat ซึ่งปกติแล้วอุณหภูมิภายในตัวเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 80-90 องศา ถ้าสูงเกินกว่านี้จะถือว่าสูงเกินไป และอาจสร้างความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณได้ และยิ่งถ้าเกิดมันร้อนจนเครื่องดับกลางอากาศ นั่นหมายความว่าน้องมีสิทธิ์ตุยและเตรียมตัวเสียเงินได้เลย

2. ขั่วแบตหลวม

โดยปกติแล้วจะมีสัญญาณไฟเตือนที่หน้าปัด โชว์เป็นรูปของแบตเตอรี หากเกิดอาการขั่วแบตหลวม ซึ่งถ้าคุณไม่ทันได้สังเกตุรถก็สามารถดับกลางอากาศได้ และนอกจากจะต้องเช็คขั่วแบต (ลบ) แล้ว ยังต้องเช็คขั่วแบต (บวก) ขั่ว ECU และขั่วอื่นๆ อีก เพราะเป็นหนึ่งในสาเหตุให้รถดับได้เช่นเดียวกัน  

3. หัวฉีดมีปัญหา

ถ้าเกิดจากสาเหตุหัวฉีดมีปัญหา รถจะมีอาการกระตุกเป็นสัญญาณเตือนก่อนที่รถจะดับ ซึ่งอาการของหัวฉีดมีปัญหา เกิดได้จากมีคราบสกปรกเข้าไปอุดในหัวฉีด ทำให้หัวฉีดไม่สามารถจ่ายเชื้อเพลิงได้ ส่วนอีกสาเหตุก็คือหัวฉีดแตกหรือรั่วเลย จะทำให้น้ำมันท่วมห้องเผาไหม้ เป็นเหตุให้กำลังเครื่องยนต์ตก และดับในลำดับถัดมา

เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ เกิดจากอะไรได้บ้าง?

4. ลิ้นปีกผีเสื้อสกปรก

อันนี้เลดี้เคยเจอจากประสบการณ์ตรง รถจะมีอาการดับหากรอบเครื่องตก ต้องใส่เกียร์ N แทนการชะลอ หรือเบรก เพื่อประคองไม่ให้รถดับกลางทาง ดังนั้นเราควรล้างลิ้นปีกผีเสื้อทุกๆ 50,000 กิโลเมตร เพราะหากน้องสกปรก จะส่งผลให้รอบเดินเบาต่ำ และทำให้เครื่องดับในที่สุด 

5. ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิง และกรองน้ำมันเชื้อเพลิงเสื่อม

ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงก็เช่นเดียว จะมีวงรอบเปลี่ยนทุกๆ 5 ปี ส่วนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 20,000 - 25,000 กิโลเมตร หรือควรเปลี่ยนทุกปี เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตัน เป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ทำให้สตาร์ทติดยาก จนทำให้เครื่องยนต์ดับได้ 

นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ได้อีกเช่นกัน อาทิ SCV วาล์วเสีย (สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล), หัวเทียน และคอยล์จุดระเบิดเสื่อม และวาล์วยัน (ในรถยนต์ที่ติดแก๊ส LPG) เป็นเหตุที่สามารถทำให้เครื่องยนต์ดับกลางอากาศได้ทั้งหมด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราสามารถสังเกตุ สัญญาณเตือนก่อนที่รถจะดับ กลางทางได้ โดยมีอาการดังต่อไปนี้ 

  • สัญญาณไฟเครื่องยนต์โชว์ : หากอยู่ๆ สัญญาณไฟรูปเครื่องโชว์บนหน้าปัด นั่นหมายความว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ของคุณ ซึ่งอาจทำให้รถยนต์ดับกลางทางได้
  • รอบเครื่องสวิง : ถ้ารอบเครื่องของคุณมีอาการสวิงขึ้นหรือลงแบบผิดปกติ อย่างมีนัยสำคัญ มันคือสัญญาณบ่งบอกว่า รถของคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงขัดข้อง
  • เสียงเครื่องยนต์ผิดปกติ : สังเกตุอาการง่ายๆ เช่น จากเสียงกระตุก เสียงสะดุด หรือเสียงที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน ซึ่งเสียงเหล่านี้เป็นการส่งสัญญาณบอกว่าระบบไฟฟ้า หรือหัวเทียนของคุณเริ่มมีปัญหาแล้วยังไงล่ะ

ถ้ารถดับกลางทาง ต้องทำยังไงบ้าง?

ถ้ารถดับกลางทาง ต้องทำยังไงบ้าง?

  • จอดรถในที่ปลอดภัย : หากรถของคุณดับกลางทาง ให้เเปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์ว่าง หรือ N เพื่อให้สามารถขยับรถของคุณเข้าข้างทาง หรือหาที่จอดในที่ที่ปลอดภัยได้ โดยเปิดไฟฉุกเฉินไว้ด้วย เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับรถผ่านไปมาให้ทราบว่ารถของคุณจอดเสียอยู่    
  • ตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้น : ให้คุณทำการตรวจสอบสาเหตุที่เครื่องยนต์ดับในเบื้องต้น โดยลองสตาร์ทดูใหม่อีกครั้ง หากยังไม่ติดให้ไปเช็คที่ขั่วแบตเตอรี และระบบไฟฟ้าอื่นๆ อีกครั้ง 
  • ขอความช่วยเหลือทันที : ยิ่งถ้าคุณเกิดรถเสียในยามวิการ หรือจอดอยู่ในพื้นที่เปลี่ยว ยังไม่ต้องคิดอะไรมาก ให้ขอความช่วยเหลือก่อนอันดับแรก และล็อกตัวเองอยู่ในรถ รอจนกว่าจะมีคนมาช่วย เพื่อความปลอดภัย 

เครื่องยนต์ดับ ขอความช่วยเหลือทันที

อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่อยากให้รถดับกลางอากาศ คุณสามารถป้องกันได้ด้วยการเช็คสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ยิ่งหากคุณต้องเดินทางไกล ให้หมั่นตรวจสอบแบตเตอรี เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา ตรวจสอบไดชาร์จ และหัวเทียน ให้พร้อมสำหรับการเดินทาง แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ขอให้ตั้งสติ ค่อยๆ ชะลอเอารถเข้าข้างทาง และติดต่อหาอู่ที่ใกล้ที่สุด เพื่อขอความช่วยเหลือ อย่าตกใจมากไปจนเผลอเหยียบเบรกกะทันหัน ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ