ส.อ.ท.รายงานสถิติตัวเลขผลิต-ขาย-ส่งออกรถยนต์เดือนมีนาคม 2568 ผลิตรถยนต์ 129,909 คัน ลดลงร้อยละ 6.09 ขาย 55,798 คัน ลดลงร้อยละ 0.54 ส่งออก 80,914 คัน ลดลงร้อยละ 14.91 ส่วนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 5,412 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 341.44 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 8,233 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 78.40 เล็งปรับลดเป้าตัวเลขส่งออกกลางปีต่ำล้านคัน เหตุเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกยังซบเซา
ส.อ.ท.เล็งปรับเป้าตัวเลขส่งออกรถยนต์ช่วงกลางปีนี้ คาดลดลงต่ำล้านคัน
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแนวโน้มที่ส.อ.ท.จะปรับลดเป้าภาพรวมรถยนต์ลดลง โดยเฉพาะตัวเลขส่งออกรถยนต์อาจปรับลดต่ำกว่าล้านคัน เนื่องจากสงครามการค้าในหลายประเทศ นโยบายการเพิ่มภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเกิดความไม่แน่นอนและจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
“ขอดูปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์สักระยะ น่าจะกลางปี 2568 จึงจะบอกได้ว่า จะปรับลดเป้าตัวเลขยอดผลิต-ส่งออก เป็นเท่าไร เนื่องจากเราต้องพิจารณาความชัดเจนของการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐด้วย ซึ่งจากการเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์รอบแรกกระทบต่อการส่งออกรถยนต์เกือบแสนคัน แต่ขณะนั้นมีการกีดกันการค้าเพียงแค่สหรัฐเท่านั้น แต่ครั้งสงครามการค้าหลายฝ่าย ดังนั้นต้องมาทบทวนรายละเอียดที่อาจกระทบไทย”
จำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมีนาคม 2568 ดังนี้
ตัวเลขการผลิตรถลดลง เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถบางรุ่น
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมีนาคม 2568 มีทั้งสิ้น 129,909 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ร้อยละ 12.49 แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 6.09 เพราะผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 9.36 จากการผลิตรถยนต์นั่งลดลงร้อยละถึง 51.18 เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถบางรุ่นของรถยนต์นั่ง แต่ผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.01 เพราะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง BEV และ PHEV เพิ่มขึ้น แต่ผลิตรถกระบะลดลงร้อยละ 29.32 ตามยอดขายรถกระบะยังคงลดลง
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 352,499 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 14.88
รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ 45,588 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 12.50 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 18,451 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 41.77
- รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 5,412 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 341.44
- รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 2,360 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 289.44
- รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 19,365 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 4.21
ตัวเลขยอดขายลดลงเล็กน้อย งานมอเตอรโชว์ช่วยกระตุ้นยอดฯ
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมีนาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 55,798 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ร้อยละ 13.15 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 0.54 จากรถกระบะที่ยังคงขายลดลงร้อยละ 7.84 เพราะการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังกังวลหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราต่ำ ค่าครองชีพสูง
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 34,685 คัน เท่ากับร้อยละ 62.16 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 2.83
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 13,770 คัน เท่ากับร้อยละ 24.68 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 15.13
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 8,179 คัน เท่ากับร้อยละ 14.66 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 77.23
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 705 คัน เท่ากับร้อยละ 1.26 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 250.75
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 12,031 คัน เท่ากับร้อยละ 21.56 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.18
- รถกระบะมีจำนวน 14,941 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 7.84 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 54 ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย
- รถ PPV มีจำนวน 3,360 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 2.21
- รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,472 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 6.95 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,286 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 12.81
ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 รถยนต์มียอดขาย 153,193 คัน ลดลงจากปี 2567 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 6.45
ส่งออกลดลง จากรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกของจีนบุกบางประเทศคู่ค้า
เดือนมีนาคม 2568 ส่งออกได้ 80,914 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 0.50 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 14.91 เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งบางรุ่น และจากการเข้มงวดในการลดการปล่อยคาร์บอนของบางประเทศและการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกของจีนในบางประเทศคู่ค้า จึงส่งออกลดลงในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ อย่างไรก็ตามส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์และอะไหล่เพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 57,416.07 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 15.47
- เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,139.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 30.72
- ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 15,828.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 8.90
- อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,305.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 9.69
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมีนาคม 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 78,689.06 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 9.52 เดือนมกราคม – มีนาคม 2568 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 220,139 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 18.63 ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 41,564.39 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 10.17
บทความที่น่าสนใจ
- ต่อใบขับขี่ 2568 วิธีการ ขั้นตอน เอกสาร ค่าใช้จ่าย สรุปครบ
- QR Code ด้านหลังใบขับขี่มีไว้ใช้ทำอะไร
- รถแจ้งจอดคืออะไร ต้องแจ้งอย่างไร เสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น