มาทำความรู้จักกับเทคโนโลยีการขับขี่รูปแบบใหม่ EREV (อี-เรฟ) หรือ Extended-Range Electric Vehicle ดาวรุ่งพุ่งแรง และอาจเป็นคำตอบที่หลายคนกำลังมองหา
ขุมพลัง EREV คืออะไร? ทางเลือกใหม่ของคนอยากใช้ EV
กระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในเมืองไทยกำลังมาแรงสุดๆ เราเห็นรถ EV ป้ายแดงวิ่งกันเกลื่อนเมือง พร้อมกับสถานีชาร์จที่ผุดขึ้นเป็นระยะ แต่เชื่อว่ายังมีหลายคนที่แม้จะหลงใหลในความเงียบ ความแรงทันใจ และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของรถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ยังแอบมีอาการ "Range Anxiety" หรือความกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดกลางทาง โดยเฉพาะเวลาต้องเดินทางไกลข้ามจังหวัด
วันนี้เลดี้จะพามาแนะนำให้รู้จักกับระบบขับเคลื่อนพลังงานใหม่ EREV (อี-เรฟ) หรือ Extended-Range Electric Vehicle เทคโนโลยีที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และอาจเป็น "คำตอบ" ที่หลายคนกำลังมองหา
EREV ไม่ใช่ Hybrid ธรรมดา แต่เป็น EV พกเครื่องปั่นไฟ
หัวใจสำคัญของ EREV คือ มันเป็น รถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ตลอดเวลา ให้ฟีลลิ่งการขับขี่เหมือนรถ EV เป๊ะๆ ทั้งเงียบ นุ่มนวล และแรงทันใจ แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่ นอกจากจะมีแบตเตอรี่ให้เสียบปลั๊กชาร์จไฟเหมือน EV ทั่วไปแล้ว มันยังซ่อนโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือก็คือเครื่องยนต์สันดาป (ส่วนใหญ่เป็นเบนซิน) ที่ทำหน้าที่ "ปั่นไฟ" เอาไว้ด้วย
หลักการทำงานของระบบขับเคลื่อน EREV
- ขับขี่ในเมือง: ถ้าคุณชาร์จแบตเตอรี่มาเต็ม รถ EREV ก็จะวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนๆ จากแบตเตอรี่ก่อนเลย เงียบกริบ ไร้มลพิษ เหมาะกับการใช้งานประจำวัน ได้ระยะทางราวๆ 150-250 กิโลเมตรสบายๆ (แล้วแต่รุ่น)
- เดินทางไกล / แบตใกล้หมด: เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย หรือคุณต้องการใช้กำลังไฟเยอะๆ เครื่องยนต์ที่ซ่อนไว้จะติดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ แต่มันไม่ได้ไปหมุนล้อนะ! มันจะทำหน้าที่ปั่นไฟส่งไปให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานต่อ หรือชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ ทำให้คุณขับขี่ต่อไปได้เรื่อยๆ เหมือนรถ EV แต่แหล่งพลังงานไฟฟ้ามาจากเครื่องปั่นไฟแทนนั่นเอง
จุดเด่นที่ทำให้ EREV น่าสนใจ
- ลาก่อน Range Anxiety: นี่คือพระเอกเลย เพราะคุณสามารถขับรถ EREV เดินทางไกลแค่ไหนก็ได้เหมือนรถน้ำมัน เพราะเมื่อแบตเตอรีไฟฟ้าหมด ก็แค่แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มทั่วไป เครื่องยนต์ก็จะปั่นไฟให้วิ่งต่อได้ รวมๆ แล้ววิ่งได้เป็นพันกิโลเมตรสบายๆ หมดห่วงเรื่องหาสถานีชาร์จระหว่างทาง
- สัมผัสประสบการณ์ EV เต็มๆ: ในชีวิตประจำวัน คุณก็ยังได้ขับรถไฟฟ้าที่เงียบ แรง และประหยัด (ถ้าชาร์จไฟสม่ำเสมอ)
- สะพานเชื่อมสู่โลก EV: เป็นเทคโนโลยีที่ผสานข้อดีของรถน้ำมัน (ระยะทางวิ่งไกล เติมเชื้อเพลิงง่าย) กับรถ EV (ขับขี่ด้วยไฟฟ้า) เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนมาใช้ EV แต่ยังไม่พร้อม 100%
ข้อดีและข้อเสียของ EREV
แน่นอนว่าทุกเทคโนโลยีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย สำหรับ EREV ก็เช่นกัน
- ระบบซับซ้อน น้ำหนักเยอะ: การมีทั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ทำให้รถมีชิ้นส่วนเยอะกว่า ซับซ้อนกว่า และหนักกว่ารถ EV แท้ๆ
- ยังต้องพึ่งพาน้ำมัน: เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ก็ยังต้องใช้น้ำมันและมีการปล่อยไอเสียอยู่ดี (แม้จะน้อยกว่ารถน้ำมันทั่วไป เพราะเครื่องยนต์ทำงานในจุดที่เหมาะสมที่สุด)
- อาจมีเสียงเครื่องยนต์: ตอนเครื่องยนต์ติดขึ้นมาเพื่อปั่นไฟ อาจมีเสียงหรือแรงสั่นสะเทือนให้รู้สึกได้บ้าง
EREV ในบริบทของเมืองไทย
เทคโนโลยี EREV กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในไทย โดยเฉพาะจากการเข้ามาของแบรนด์รถยนต์ใหม่ๆ อย่าง Changan, Deepal หรือ Avatr ที่นำเสนอรถยนต์ EREV เป็นทางเลือกอย่างจริงจัง ซึ่งดูเหมือนจะตอบโจทย์คนไทยไม่น้อย ที่ยังมีข้อจำกัดเรื่องสถานีชาร์จนอกเมืองใหญ่ และมีพฤติกรรมการเดินทางไกลกลับบ้านต่างจังหวัดอยู่เสมอ
EREV เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมที่ชาญฉลาด ระหว่างยุครถยนต์สันดาปกับยุคยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว มันมอบความยืดหยุ่นและขจัดความกังวลเรื่องระยะทาง ทำให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปได้ง่ายขึ้นสำหรับใครหลายคน ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์เทคโนโลยียานยนต์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในบ้านเรา
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น