จากแนวโน้มในการใช้ดีไซน์และแพลตฟอร์มในการผลิตรถยนต์ให้เหมือนๆกันทั่วโลกเพื่อรถต้นทุนในการผลิต ทำให้เราได้มีโอกาสได้ทราบความเคลื่อนไหวของรถรุ่นใหม่ต่างๆจากข่าวสารในต่างประเทศ รวมถึงโอกาสได้ทราบถึงสมรรถนะที่แท้จริงของรถหลายๆรุ่นก่อนการจำหน่ายในเมืองไทย แม้ว่าอุปกรณ์บางอย่างจะแตกต่างกันไปบ้าง
บทความรีวิวนี้อยู่บนพื้นฐานข้อมูลต่างๆที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นกลางจากนิตยสาร/เว็บไซต์ชื่อดังของโลกหลายฉบับตามที่เราได้อ้างอิงถึง ทำให้มั่นใจได้ว่า การทดสอบต่างๆเป็นไปตามมาตรฐานสากล หลากหลายรอบด้าน ไม่โอนเอียงไปตามความคิดเห็นของผู้รีวิวจากนิตยสารแต่ละฉบับซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ของการรีวิว อย่างไรก็ตาม ในบางช่วงบางตอนอาจจะเป็นบางส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับรถที่จะจำหน่ายในประเทศไทย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อมูลให้เราได้รับทราบว่าในรถรุ่นนั้นมีทางเลือกแบบไหนบ้างในต่างประเทศ รวมถึงเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นนั้นๆ
รีวิว Honda Civic 2012 ก่อนเปิดตัวในไทย10 พ.ค.นี้ กว้างขึ้น สบายขึ้น ประหยัดขึ้น แต่ยังขาดรสชาติ?
(สงวนลิขสิทธิ์บทความ
Honda Civic เคยได้ชื่อว่าเป็นรถคอมแพกต์ซีดานที่ไม่เพียงจะมีสไตล์และได้รับความนิยมมากที่สุดเท่านั้น หากยังมีสมรรถนะการขับขี่ที่สปอร์ตที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน แต่ความทรงจำเหล่านั้นดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เมื่อ Honda ต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองตลาดให้กว้างมากขึ้น แม้จะต้องแลกกับการสูญเสียเสน่ห์ที่เคยดึงดูดนักเลงรถพันธุ์แท้แต่ขณะเดียวกันก็สามารถตอบสนองความต้องการของคนมีครอบครัวได้ นั่นหมายความว่า Civic ยังคงความสะดวกสบาย กว้างขวาง และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรถคอมแพกต์ซีดานประหยัดน้ำมัน
ไลน์ผลิตภัณฑ์ของ Honda Civic 2012 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เริ่มจากสองรูปแบบตัวถังในรุ่นสแตนดาร์ด คือ คูเป้และซีดานตามมาด้วยรุ่นสปอร์ตอย่าง Civic Si คูเป้ 2 ประตู Civic Hybrid ขุมพลังลูกผสมแบบ 4 ประตู Civic HF เน้นความประหยัด และ Civic Natural Gasใช้ก๊าซธรรมชาติ CNG
Civic รุ่นใหม่ล่าสุดนี้พัฒนาบนแนวคิด‘สปอร์ตและประหยัด’ที่Honda ใช้เป็นจุดแข็งมาเนิ่นนาน ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อกรที่น่าเกรงขามและมีความสดใหม่ในตลาดทั้งChevrolet Cruze ที่กำลังรุกทำตลาดเมืองไทยอย่างหนักหน่วง Ford Focus ที่เตรียมจะส่งมอบรถให้ลูกค้าชาวไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป รวมถึง Nissan Shyphyที่เพิ่งเปิดตัวในงานออโต้ ไชน่าหรือปักกิ่ง ออโต้โชว์ ก่อนทำตลาดในประเทศไทยปลายปีนี้
การออกแบบ
Civic 2012 ถูกออกแบบใหม่หมดจดตั้งแต่หน้าจรดท้ายรถ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ Civic เวอร์ชั่นอเมริกาเหนือแล้ว ดีไซน์ในภาพรวมไม่ใช่การพลิกโฉมอย่างสิ้นเชิง แต่เป็นการพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ต่างกันกับของเมืองไทยที่มีการเปลี่ยนโฉมแบบใหม่หมด แต่กลับไปละม้ายคล้ายกับ City โฉมปัจจุบันในสายตาของหลายๆคน!
เมื่อเทียบกับรุ่นที่ขายในสหรัฐอเมริกา ดีไซน์ด้านหน้าและด้านข้างยังคงมีกลิ่นอายของ Honda Civic รุ่นปัจจุบันอย่างชัดเจนแต่ท้ายรถนั้นมีการออกแบบที่แตกต่างออกไป กรอบไฟท้ายคล้ายคลึงกับ Honda Accord ขณะที่ด้านหน้ารถถูกเน้นให้เป็นทรงลิ่มโดดเด่นด้วยเส้นสายด้านข้างพาดเฉียงขึ้นจากหน้าสู่ท้ายรถแนวหลังคาโค้งมนใกล้เคียงกับรุ่นเดิม จนดูเหมือนว่า Honda กำลังเดินตามแนวทางความสำเร็จของ Civic โฉมปัจจุบันในอเมริกา
รุ่นที่ดูสปอร์ตมากที่สุดยังคงเป็น Civic Si ด้วยการตกแต่งพิเศษทั้งล้ออัลลอยรมดำ ปลายท่อไอเสียโครเมียม และสปอยเลอร์หลังที่ดึงดูดทุกสายตา เช่นเดียวกับห้องโดยสารที่เน้นโทนสีเข้ม เบาะแบบสปอร์ต และพวงมาลัยหุ้มหนัง ขณะที่การตกแต่ง Civic Hybrid ดูดาดดื่นไม่แตกต่างจากรุ่นอื่น ตรงข้ามกับแนวทางของ Toyota ที่ประกาศตัวตนให้ Prius อย่างชัดเจนว่าเป็นรถไฮบริด
ภายในห้องโดยสาร Honda ออกแบบแผงคอนโซล แผงประตูข้าง และเบาะที่นั่งใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่ บางคนอาจมองว่าแผงแดชบอร์ดที่มีมาตรวัดให้มองถึงสองชั้นและแผงคอนโซลที่เอียงเข้าหาคนขับอย่างชัดเจนออกจะแปลกประหลาดไปสักหน่อย แต่เกจิหลายคนชี้ว่า Honda ประสบความสำเร็จในการออกแบบห้องโดยสารที่เน้นรองรับการใช้งานมากกว่าเน้นความมีสไตล์
ความคิดเห็นจากสื่อรถยนต์“ภายนอกจืดชืด ภายในงั้นๆ”
AutoWeek
“ช่วยไม่ได้ที่จะบอกว่า Civic ใหม่ออกจะอนุรักษ์นิยมเกินไปหน่อย”
Autoblog
สมรรถนะ
Honda Civic 2012 มาพร้อมกับขุมพลังหลากหลายให้เลือกใช้ ทั้ง เครื่องยนต์เบนซินแบบสแตนดาร์ดขุมพลังลูกผสมไฮบริด เครื่องยนต์สมรรถนะสูงแบบสปอร์ตในรุ่น Si ไปจนถึงแบบใช้ก๊าซธรรมชาติ CNG ซึ่งแต่ละรุ่นมีบุคลิกการขับขี่ที่แตกต่างออกไป
Civic ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินสแตนดาร์ดนั้น มีอัตราเร่งที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ พร้อมการควบคุมรถที่ให้ความมั่นใจได้เป็นอย่างดี พวงมาลัยไฟฟ้าแม้จะไม่โดดเด่นเท่าใดนัก แต่ก็ให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดายตามต้องการ
เวอร์ชั่นสปอร์ตรหัส Si ซึ่งเคยเป็น benchmark ของ Civic มาในรุ่นใหม่นี้ถูกลดทอนความเฉียบคมลงไปนักเลงรถที่ชื่นชอบสมรรถนะการควบคุมที่เหนือชั้นนั้นจะต้องยอมรับกับเสียงรบกวนจากพื้นถนนที่ดังกว่าเดิม เครื่องยนต์ที่ถูกเพิ่มความจุเป็นขนาด 2.4 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุดที่รอบต่ำเพียง 1,000 รอบต่อนาที แม้รอบเครื่องยนต์จะต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ก็ต้องลากรอบเครื่องยนต์ไปจนถึงเรดไลน์ที่ 7,000 รอบต่อนาทีถึงจะได้พละกำลังเต็มที่ นั่นทำให้เจ้าของ Si มือใหม่อาจจะใช้เกียร์ที่สูงเกินความจำเป็นเพื่อรีดอัตราเร่ง ผลที่ตามมาคืออัตราบริโภคน้ำมันที่มากกว่า Si รุ่นก่อนอย่างแน่นอน
สำหรับเครื่องยนต์เบนซินรุ่นเริ่มต้นของ Civic 2012 ซึ่งจะจำหน่ายในประเทศไทยด้วยนั้นเป็นบล็อก 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า นับเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดในเซกเมนท์นี้ ให้ความนุ่มนวล ต่อเนื่องและตอบสนองได้ในทุกรอบเครื่องยนต์ อีกทั้งยังปราศจากเสียงรบกวนเหมือนกับรุ่นอื่น เกียร์ธรรมดาถือว่าน่าสนใจเป็นพิเศษ ขณะที่เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดนั้นมีอาการหน่วงขณะเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ อีกทั้งยังไม่มีโหมดแมนวลที่ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เอง
ด้าน Civic Hybrid นั้นขับสนุกและควบคุมง่ายอย่างเกินความคาดหมาย ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี mild hybrid ที่ Honda ใช้มาตั้งแต่ปี 1999 เป็นต้นมา (ระบบ mild hybrid หมายถึงรถไม่สามารถออกตัวได้ด้วยระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว) Civic Hybrid มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนเป็นครั้งแรกของรถ Honda ซึ่งมีขนาดเล็กและเบากว่าแบตเตอรี่แบบเดิม มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 15 กิโลวัตต์ ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แปรผันต่อเนื่อง CVT
ระบบขับเคลื่อนของ Civic Hybrid เหมือนกับ Toyota Prius คือ ไม่สามารถเร่งได้ที่ความเร็วต่ำด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อตัวรถออกตัวไปแล้ว จะสามารถเคลื่อนไปได้ที่ความเร็วสูงถึงราว 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยพลังงานไฟฟ้า แต่ทำได้เพียงในระยะสั้นเท่านั้น
ความคิดเห็นจากสื่อรถยนต์“แม้การตอบสนองของพวงมาลัยจะรวดเร็วไม่ต่างจากรุ่นก่อน แต่ดูเหมือนว่าขาดความรู้สึกบางอย่างไป”
Edmunds' Inside Line
“สมรรถนะดาดๆ ที่ไม่ให้ความสนุกในการขับขี่เลย”
Autoblog
“พวงมาลัยขาดความเฉียบคม ตอบสนองช้ากว่ารุ่นกว่าเดิม”
Car and Driver
คุณภาพ
Honda เน้นการออกแบบห้องโดยสารของ Civic ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยไม่ทำให้ตัวถังภายนอกใหญ่ขึ้นแต่อย่างใด พื้นที่ในห้องโดยสารของรุ่นซีดานนั้นกว้างขวางเพียงพอ แต่ในรุ่นคูเป้ยังค่อนข้างแคบ เบาะรองนั่งดีไซน์ใหม่ แม้จะดูดีกว่าเดิมแต่ยังแบนราบและสั้นเกินไปซึ่งอาจจะสร้างปัญหาให้แก่ผู้ขับขี่ที่มีรูปร่างสูงในระยะทางไกลแผงคอนโซลขนาดใหญ่ผนวกกับมุมองศาของกระจกหน้าที่ค่อนข้างลาดเอียง ทำให้พื้นที่ศีรษะและช่วงขาค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน
แฟนๆ Civic บางคนจะมีความคุ้นชินกับแผงแดชบอร์ดแบบสองชั้นคอนโซลกลางติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์ที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมสวิทช์ควบคุมได้หลายทิศทางให้ผู้ขับขี่สั่งการได้โดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัย ขณะเดียวกันผู้ขับยังสามารถมองหน้าจอขนาดเล็กบนแผงแดชบอร์ดที่แสดงข้อมูลการใช้งานต่างๆของตัวรถ และระบบเครื่องเสียง
Civic ทั้งในรุ่นคูเป้และซีดานมีพื้นที่ใต้ฝากระโปรงหลังที่มีความกว้างและความสูงอย่างเหลือเฟือ แม้ใน Civic Hybrid เองก็มีความกว้างขวางมากเช่นกัน จากการใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งกินเนื้อที่เพิ่มเพียง 6 ถึง 8 นิ้วเท่านั้น อย่างไรก็ดี Civic Hybrid และ Civic Natural Gas นั้นไม่สามารถพับเบาะที่นั่งด้านหลังได้
เสียงลมในห้องโดยสารยังคงมีอยู่บ้าง อาจจะไม่เงียบเทียบเท่ากับรถคอมแพกต์คู่แข่งที่ถือว่าเงียบที่สุดในตลาด อย่าง Chevrolet Cruze ขณะที่ Civic Hybrid อาจจะเสียงดังกว่าเพื่อน เนื่องจากใช้ยางประเภทแรงเสียดทานต่ำ
แผงควบคุมเครื่องเสียงและระบบปรับอากาศถูกออกแบบอย่างเรียบง่ายเกินไปดูน่าเบื่อและคล้ายกับระบบเครื่องเสียงในรถรุ่นเก่า การใช้งานแบบจุกจิกในห้องโดยสารยังไม่ลงตัวเท่าใดนัก ช่องวางแก้วน้ำที่แผงประตูหน้าและหลังขาดหายไป ไม่มีแผงยางกันลื่นสำหรับวางโทรศัพท์มือถือบริเวณคันเกียร์ รวมถึงช่องเสียบชาร์จไฟสำหรับเบาะหลังก็ไม่มีเช่นกัน
ความคิดเห็นจากสื่อรถยนต์“เราไม่พบสัมผัสที่ให้ความอ่อนนุ่มมือในห้องโดยสาร มีเพียงแต่ความแข็งกระด้างของพลาสติกสีเทาและดำ”
Edmunds' Inside Line
“ความสนุกที่เคยมีอยู่หายไป ตอนนี้มีความสบายเข้ามาแทนที่”
CNET
ความปลอดภัย
สำหรับผู้ยึดเอาความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง Honda Civic ซีดานนับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ด้วยการคว้ารางวัลมาตรฐานความปลอดภัยจากสถาบัน Insurance Institute for Highway Safety-IIHS แต่มาตรฐานดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงรุ่นคูเป้ ซึ่งได้คะแนนความปลอดภัยต่ำกว่า
Honda ยังคงใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัย ACE ที่ดูดซับแรงกระแทกได้ดี และกระจายความเสียหายออกจากทุกที่นั่งในห้องโดยสาร ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเลกทรอนิคส์เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเช่นเดียวกันระบบเบรกเอบีเอส ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบม่านนิรภัยสำหรับผู้โดยสารเบาะหน้าและเบาะหลัง ส่วนเบาะที่นั่งถูกออกแบบให้ยืดหยุ่นเป็นพิเศษลดอาการบาดเจ็บของต้นคอ
ความคิดเห็นจากสื่อรถยนต์“มุมมองในการขับขี่ถูกบดบังด้วยเสาหลังคาหน้าขนาดใหญ่ และขอบประตูที่สูง”
Edmunds' Inside Line
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
อ็อปชั่นของ Civic 2012 ถือว่าครบครันในรุ่นท็อปไลน์ ทั้งครูสคอนโทรล เครื่องเสียงเชื่อมต่อบลูทูธพร้อมลำโพงหกตัว วิทยุผ่านดาวเทียมพ่วงระบบนำทางเนวิเกเตอร์ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นรวมถึงเบาะที่นั่งปรับอุณหภูมิได้ แต่อุปกรณ์ดังกล่าวก็จะถูกลดทอนลงไปตามรุ่นย่อยที่มีราคาต่ำกว่า
เครื่องเสียงให้สุ้มเสียงที่สะอาด ใส และชัดเจน แต่มีจุดด้อยในเรื่องการใช้งานบางอย่าง อาทิพอร์ท USB ที่เชื่อมต่อ iPod ได้สบายแต่มีปัญหากับ Blackberry และ iPhone ขณะที่บลูทูธเชื่อมต่อได้รวดเร็วกับทุกอุปกรณ์ยกเว้น iPhone ที่มักมีปัญหาการอ่านข้อมูล
ความคิดเห็นจากสื่อรถยนต์“แผนที่นำทางเนวิเกเตอร์มีความละเอียดต่ำ และอ่านค่อนข้างยาก”
CNET
“หน้าจอดิสเพลย์แสดงปกอัลบั้มเพลงจาก iPod ถือเป็นการพัฒนาเครื่องเสียงติดรถยนต์ครั้งใหญ่”
Cars.com
ความประหยัด
Honda Civic ได้รับการกล่าวถึงเสมอว่าเป็นรถคอมแพกต์ที่ประหยัดน้ำมันที่สุดรุ่นหนึ่ง รวมถึงรุ่นปี 2012 นี้เช่นกัน ด้วยอัตราบริโภคน้ำมันระดับ 12 กิโลเมตรต่อลิตรสำหรับการขับขี่ในเมือง และ 17 กิโลเมตรต่อลิตรสำหรับการขับทางไกล เทียบเท่าหรืออาจจะดีกว่าซับคอมแพกต์รุ่นน้องอย่าง Honda Fit หรือ Jazz
แต่ตัวเลขดังกล่าวไม่นับรวมเวอร์ชั่น Civic Si ซึ่งมีเครื่องยนต์ใหญ่กว่า ด้วยขนาด 2.4 ลิตร พ่วงอัตราทดเกียร์ที่ต่ำกว่า ทำให้มีอัตราบริโภคน้ำมันใกล้เคียงกับซีดานขนาดกลางเครื่องยนต์ V6 เลยทีเดียว หากคุณเอาความประหยัดน้ำมันเป็นที่ตั้ง อาจจะต้องทบทวนเลือกรุ่นกันใหม่
และหากต้องการความประหยัดสูงสุด สามารถเลือกคบเจ้า Civic Hybrid ซึ่งเป็นรุ่นที่ประหยัดที่สุดเท่าที่เคยมีมา ให้ความประหยัดได้ถึง 19 กิโลเมตรต่อลิตรในการใช้งานจริงทั้งในเมืองและทางไกล อีกทั้งยังมีพละกำลังมากขึ้นจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใหญ่กว่าเดิม
Civic เกือบทุกรุ่นมาพร้อมกับสวิทช์ Econ ปรับสู่โหมดประหยัดที่ช่วยให้การทำงานของลิ้นปีผีเสื้อ และระบบเกียร์นุ่มนวลยิ่งขึ้น รวมถึงปรับการทำงานของระบบครูสคอนโทรลให้ช่วยประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นกว่าเดิม
สำหรับอัตราความประหยัดโดยเฉลี่ย จากการทดสอบโดยสถาบันพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) ทั้งในเมืองและทางไกล ผลเป็นดังนี้
- Civic HF เกียร์อัตโนมัติในเมือง 12.3กิโลเมตรต่อลิตร / ทางไกล 17.4 กิโลเมตรต่อลิตร
- Civic 1.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ในเมือง 11.9 กิโลเมตรต่อลิตร / ทางไกล 16.5 กิโลเมตรต่อลิตร
- Civic 1.8 ลิตร เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ในเมือง 11.9 กิโลเมตรต่อลิตร / ทางไกล 15.3 กิโลเมตรต่อลิตร
- Civic Si เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ในเมือง 9.3 กิโลเมตรต่อลิตร / ทางไกล 13.1 กิโลเมตรต่อลิตร
- Civic Hybrid เกียร์ 18.7กิโลเมตรต่อลิตรทั้งการขับขี่ในเมืองและทางไกล
และจากกระแสตอบรับในทางลบมากกว่าบวก ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากทาง Honda ในต่างประเทศว่าจะมีการปรับในระดับไมเนอร์เชนจ์ในปี 2013 ซึ่งถือว่าเร็วกว่ากำหนดมาก โดยจะเน้นไปในเรื่องอื่นๆที่ไม่ใช่ดีไซน์ตัวถังภายนอก!
2012 Honda Civic Sedan
2012 Honda Civic Hybrid
2012 Honda Civic Si Coupe & Sedan
ความคิดเห็น