หลังจากเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มาสด้า ประเทศไทย ก็เร่งเครื่องเดินหน้าทำตลาดเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง ซีเอ็กซ์-5 ก่อนเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์สิ้นเดือนนี้
อย่างแรกเลยก็คือการเดินหน้าทำการทดสอบรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทย โดยเริ่มจากมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 เอ็กซ์ดีแอล ซึ่งเป็นรุ่นท๊อปสุดเป็นรุ่นแรก ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่เหลืออีก 2 รุ่น คาดว่าจะตามมาในช่วงก่อนสิ้นปีนี้
รถยนต์รุ่นนี้คือรถยนต์รุ่นแรกของมาสด้า ที่ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า สกายแอคทีฟ ในทุกระบบของรถ ตั้งแต่เครื่องยนต์ โครงสร้างตัวถัง ช่วงล่างและระบบส่งกำลัง เพื่อให้ได้รถยนต์ที่ออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ผลของการออกแบบที่ดีเยี่ยมทำให้รถยนต์รุ่นนี้กลายเป็นรถยนต์ที่หาคู่เปรียบเทียบได้ยากในท้องตลาด ซึ่งมองไปในตลาดเอสยูวีในประเทศไทย ที่มีผู้นำอย่างฮอนด้า ซีอาร์-วี ก็ไม่มีเครื่องยนต์ดีเซล ขณะที่เชฟโรเลต แคปติว่าเอง ที่แม้จะมีจุดขายเรื่อง 7 ที่นั่ง ก็ใช้เทคโนโลยีรุ่นเดิมอยู่
ตัวเปรียบเทียบอื่น ๆ ที่พอจะเห็นกันบ้างก็จะเป็นกลุ่มรถยนต์นำเข้าสัญชาติเกาหลีอย่างฮุนได ทูซอนหรือเกีย โครันโด รวมถึงถ้าจะเอาตัวเปรียบที่ใกล้เคียงกับเทคโนโลยีใหม่นี้จริง ๆ ก็ต้องมองข้ามไปถึงรถหรูอย่างบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1 ที่ราคาค่าตัวพุ่งพรวดกันเลยทีเดียว
นอกจากจะเป็นรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีสกานแอคทีฟแบบเต็มรูปแบบแล้ว การออกแบบของรถยนต์คันนี้ยังเป็นรุ่นแรกที่มาภายใต้แนวคิดที่เรียกว่าโคโด หรือ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ที่เน้นการเคลื่อนไหวที่มีพละกำลังและปราดเปรียว
ตัวรภภายนอกดูแข็งแกร่ง บึกบึนและเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังอย่างที่รถเอสยูวีทั่วไปควรจะเป็น โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว การออกแบบรถยนต์ด้านหน้าสวยงามและลงตัวมาก ขณะที่ด้านหลังดูทึบทึมไปเล็กน้อย แต่ก็ดูลงตัวและแข็งแกร่งดี
ขณะที่ห้องโดยสารภายในเน้นโทนสีดำตัดกับเมทัลลิก ให้ความรู้สึกเรียบหรูและเคร่งขรึม แต่แฝงไว้ด้วยความทันสมัยผ่านจอแสดงผลขนาดใหญ่ตรงกลางคอนโซลหน้า รวมไปถึงจอแสดงผลการขับขี่บนแผงหน้าปัด
ห้องเก็บของด้านหลังขนาดใหญ่ สมารถพับเบาะตอนหลังได้แบบ 40:20:40 โดยมีคันโยกเล็ก ๆ ที่ด้านหลังที่สามารถเลือกพับเบาะได้ตามการใช้งานจากด้านหลังของรถเพียงแค่เปิดประตูหลังเท่านั้น
เพราะว่าเอ็กซ์ดีแอลคันนี้คือรุ่นท๊อปของซีเอ็กซ์-5 รถคันนี้จึงมาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ว่าจะเป็นล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-stop (ที่น่ารำคาญจนต้องปิดตลอด) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้งหมดที่ติดตั้งมาแบบครบถ้วน
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-ดี ขนาด 2.2 ลิตร มาพร้อมระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ 2 ชั้น ที่จะทำงานที่ความเร็วรอบต่างกันไป เพื่อเน้นไปที่การประหยัดน้ำมันและการเลือกใช้พละกำลังที่เหมาะสม โดยเทอร์โบลูกเล็กจะเริ่มทำงานทันที และเทอร์โบลูกใหญ่จะเริ่มที่ประมาณ 3,000 รอบขึ้นไป
เครื่องยนต์ผ่านระบบไอเสียยูโร 4 ตามมาตรฐานของน้ำมันในประเทศไทย ซึ่งในเวอร์ชั่นยุโรปนั้น เครื่องยนต์รุ่นนี้ผ่านยูโร 6 เป็นที่เรียบร้อย ตามสเปกให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรตั้งแต่ 2,000 รอบ
ห้องโดยสารด้านหน้าออกแบบมาเหมาะสมสำหรับการขับขี่และเป็นผู้โดยสารตอนหน้า ด้วยเบาะที่นั่งที่แข็งกำลังดีและมีตำแหน่งการรองรับการนั่งที่ค่อนข้างดี เหมาะสำหรับการเดินทางไกลและการใช้งานบนถนนทุรกันดาร ขณะที่เบาะที่นั่งหลังอาจจะลำบากเสียหน่อย เพราะขนาดของเบาะนั่งค่อนข้างสั้นและไม่รองรับเข่าเท่าที่ควร
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบเรียลไทม์จะส่งกำลังมาที่ล้อหน้าเป็นหลัก และจะทำการคำนวนตามความเหมาะสมสำหรับการขับขี่ในแต่ละช่วง โดยสามารถถ่ายกำลังไปที่ล้อหลังได้สูงสุด 50% ซึ่งผู้ขับขี่มีหน้าที่แค่ขับไปเรื่อย ๆ ที่เหลือให้รถตัดสินใจเอาเอง
เครื่องยนต์ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยมตั้งแต่รอบต่ำ ทันทีที่กดคันเร่งลงไป รถก็จะพุ่งตัวออกไปอย่างกระตือรือล้น และส่งกำลังอย่างต่อเนื่องโดยมีเทอร์โบลูกใหญ่รอรับช่วงส่งกำลังต่อไป จนเผลอเพียงแปปเดียวความเร็วของรถก็พุ่งไปแตะ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ได้รู้สึกกดดันหรือตึงเครียดแต่อย่างใด
ความกระตือรือร้นของรถนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากน้ำหนักของรถยนต์ที่ลดลงไปอย่างมาก ด้วยการออกแบบทางวิศวกรรมที่ทำให้แชสซีมีน้ำหนักลดลง 14% และตัวถังก็น้ำหนักลดลงไปอีก จนเรียกว่าน่าจะเป็นเอสยูวีที่น้ำหนักเบาที่สุดในคลาส
ความเนียนในการเปลี่ยนเกียร์รถคันนี้ถือว่าอยู่ระดับยอดเยี่ยม การเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละจังหวะแทบไม่มีจังหวะกระตุกให้รู้สึก และยังส่งกำลังอย่างต่อเนื่องในจังหวะเร่งแซง โดยทำงานสอดประสานกับเครื่องยนต์ตัวนี้เป็นอย่างดี
และแม้ว่าคุณจะขับรถคันนี้ที่ความเร็วต่ำหรือสูงก็ตาม ช่วงล่างที่เซตอัพมาอย่างดีของซีเอ็กซ์-5 ก็สามารถพาคุณวิ่งไปได้ทั้งบนถนนหลวงหรือบนทางลูกรัง ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด ตัวรถให้ความสบายและความมั่นใจในการขับขี่อย่างเต็มที่
ในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันคงต้องขอยกยอดกันไปก่อน ไว้ยืมมาทดสอบตัวต่อตัวกันยาว ๆ แล้วค่อยว่ากันนะครับ เพราะเส้นทางทดสอบที่ทางมาสด้าจัดไว้ถือว่าดุพอสมควรและส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองอยู่เอาเรื่องเหมือนกัน
ปัญหาเดียวที่พอจะเห็นได้จากรถคันนี้ก็คงจะเป็นเสียงของเทอร์โบลูกใหญ่ที่ความเร็วสูงมาก จะค่อนข้างดังแบบหวีดหวิวเข้ามาในห้องโดยสารและครางเบาเบาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เสียงลมและเสียงจากช่วงล่างก็ไม่ได้ดังออกมาจนเป็นที่น่ารำคาญ
โดยสรุปแล้วเมื่อเราเดินลงมาจากรถคันนี้ แล้วพยายามคิดว่าจะเอารถคันไหนมาเปรียบเทียบกับมันดี คำตอบที่ใกล้เคียงที่สุดก็คงจะเป็นบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1 2.0ดี ซึ่งแน่นอนว่าในตลาดโลกเป็นคู่แข่งกันอย่างโดยตรง แต่กับในประเทศไทยแล้ว บรรดาแฟนคลับรถยุโรปอาจจะร้องยี้ที่ผมพูดแบบนี้
แน่นอนว่าเอ็กซ์1 เอสไดร์ฟ20ดี จะให้การตอบสนองในเรื่องของความหรูหราแบบเหนือระดับ การตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ดี การควบคุมรถที่มั่นคงและแม่นยำกว่า แต่นั่นก็หมายถึงคุณต้องจ่ายค่าตัวเพิ่มอีกล้านกว่าบาท เมื่อเทียบกับค่าตัว 1.67 ล้านบาทของซีเอ็กซ์-5 ขณะที่รถรุ่นอื่น ๆ ในคลาสก็ยากที่จะเปรียบมวยกันตัวต่อตัว
ถ้าคุณอยากได้รถที่ไปไหนมาไหนได้ 7 คน แน่นอนว่าคุณก็คงต้องไปขับแคปติว่า ถ้าอยากได้ในราคาที่ถูกหน่อย ตัวเลือกที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินก็มีให้เลือกมากมายตามความต้องการ หรือจะหนีไปรถเกาหลีที่พูดถึงตอนแรก ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในด้านของสินค้า แม้อุปกรณ์จะดูไม่ครบครันเท่า
ฟังแล้วอาจจะดูเวอร์ไป แต่ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปทดสอบด้วยตัวเองดูก็แล้วกันครับ!!!
ขอขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับทริปทดสอบรถยนต์ครั้งนี้
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ http://photos.autospinn.com/2013_Mazda_CX-5/
พบรถยนต์มาสด้ามือสองคุณภาพเยี่ยม ที่เวบไซต์ ไทยคาร์ดอทคอม
ความคิดเห็น