โครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล เฟส 2 ประกาศเดินหน้าเต็มที่ บีโอไอชี้ผู้เล่นหน้าใหม่ 2-3 ค่ายไม่ใช่แบรนด์ญี่ปุ่นให้ความสนใจ ย้ำพร้อมเจรจาหาทางออกร่วมกับผู้สนใจลงทุนในโครงการนี้ทุกราย
อุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยในงานสัมมนาที่่จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทยว่า หลังจากเปิดข้อกำหนดในการลงทุนโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 และได้กำหนดให้ผู้ที่สนใจเสนอโครงการก่อนเดือนมีนาคม 2557 นั้น ล่าสุดพบว่ามีผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ ให้ความสนใจเข้ามาสอบถามรายละเอียดของการลงทุนในโครงการนี้
ทั้งนี้ สามารถระบุได้ว่ามีผู้ประกอบการหน้าใหม่ 2-3 ราย ซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบการสัญชาติญี่ปุ่น สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยังติดในเรื่องของข้อกำหนดและการทำความเข้าใจในรายละเอียดของโครงการ ซึ่งขอยืนยันว่า บีโอไอพร้อมที่จะเจรจากับผู้ประกอบการที่สนใจ เพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมการลงทุนภายใต้โครงการนี้
"ผมเข้าใจว่าสถานการณ์ในการลงทุนจำเป็นที่จะต้องพิจารณาในรายละเอียด หากผู้ประกอบการต้องการหาข้อสรุปก็สามารถเข้ามาคุยได้ แต่ในตอนจบจะต้องได้ระเบียบที่ทุกค่ายต้องยอมรับและปฏิบัติเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น หากมีคนเสนอให้นับการผลิตซีเคดี คิท เพื่อส่งไปประกอบที่อื่นใน 1 แสนคัน แล้วทุกคนเห็นด้วย เราก็พร้อมพิจารณา"
โครงการอีโคคาร์ เฟสแรกนั้น มีผู้สนใจร่วมลงทุน 5 ราย สร้างเงินลงทุนรวมมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท และมีกำลังการผลิตรวมกันในโครงการนี้สูงถึง 5.85 แสนคันต่อปี โดยคาดว่าในปี 2556 จะมีการผลิตรถยนต์ในโครงการ 4.37 แสนคัน เป็นการจำหน่ายในประเทศ 2.48 แสนคัน และส่งออก 1.89 แสนคัน
ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการอีโคคาร์มียอดการผลิตสะสมนับแต่เริ่มโครงการ 712,292 คัน เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 369,509 คัน ที่เหลือเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 2% ในปี 2553 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้นการผลิต เป็น 11% ในปี 2555 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 13% หรือมียอดจำหน่าย 1.7 แสนคันในปีนี้
“อีโคคาร์จะเป็นโครงการสำคัญที่เข้ามาช่วยในการเพิ่มการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย เพื่อให้เราเข้าถึงเป้าหมายการผลิต 3 ล้านคันได้ง่ายดายขึ้น โดยคาดว่ายอดการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยจะแตะ 3 ล้านคันภายในปี 2560-2561 แต่หากเศรษฐกิจไม่มีปัญหา ก็อาจจะเห็นยอดผลิตดังกล่าวได้เร็วขึ้น”
เพียงใจ แก้วสุวรรณ ประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอาเซียนและนายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เปิดเผยว่าโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 นั้น น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่มีสินค้าและมีความพร้อมในการลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยมองว่าหากผู้ที่ลงทุนในเฟสแรกอยู่แล้ว และจะต้องพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อรองรับคงเป็นเรื่องที่ยาก
"ทุกค่ายคงต้องไปศึกษาในรายละเอียดและความพร้อมทางด้านการลงทุนของตนเองว่าเหมาะสมที่จะลงทุนในโครงการนี้หรือไม่ หากมีความพร้อมอยู่แล้วก็เป็นโครงการที่ดี แต่ถ้าจะให้พิจารณาทุกอย่างขึ้นมาใหม่หมดนั้น คงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก ซึ่งเงินลงทุนและผลิตภัณฑ์จะเป็นปัจจัยที่ตัดสินว่าพร้อมที่จะร่วมโครงการหรือไม่"
อย่างไรก็ตาม ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมในการเปิดโครงการที่ 2 ทั้งที่โครงการอีโคคาร์ เฟสแรกยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และอาจจะเป็นการไม่ยุติธรรมต่อผู้ที่ตัดสินใจลงทุนในโครงการแรก และก่อให้เกิดความไม่มั่นใจในการลงทุนโครงการในประเทศไทย ว่าภาครัฐจะมีการเปิดโครงการใหม่ออกมาทับซ้อนหรือไม่ในอนาคต
ความคิดเห็น