หลังจากเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเข้าร่วมงานแสดงรถยนต์ทั้งงานมหกรรมยานยนต์และมอเตอร์โชว์ที่่ผ่านมา ก็เริ่มมีคำถามว่าเมื่อไรที่เอ็มจีจะมีความพร้อมที่จะเริ่มทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเสียที
เพราะแม้จะมีการเปิดตัวรถยนต์เอ็มจี 6 รุ่นผลิตในประเทศไทย แต่ก็ยังไม่ได้ประกาศราคาหรือแผนการทำตลาดออกมาอย่างเป็นรูปธรรม แถมไฮไลท์ในช่วงที่ผ่านมากลับเป็นเรื่องของการที่เอ็มจีถูกคาดการณ์ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ 2 กับเขาด้วย
ไม่มีใครจะให้คำตอบเรื่องแผนการตลาดเหล่านี้ไปได้ดีกว่า หวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ซึ่งเปิดเผยว่าจากนี้อีกไม่ถึง 3 เดือน รถยนต์เอ็มจี 6 ที่ผลิตในประเทศไทยก็จะพร้อมที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าที่สนใจ
"ตอนนี้เราอยู่ระหว่างการผลิตรถยนต์เพื่อทำการทดสอบ โดยรถยนต์ที่นำมาแสดงในมอเตอร์โชว์ทั้งหมดจะเป็นรถที่ผลิตในประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เทอร์โบ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำในเรื่องของราคาจำหน่ายที่มีความเหมาะสมและจะพร้อมเปิดเผยรายละเอียดในเดือนมิถุนายนนี้"
เขาบอกว่านอกเหนือไปจากการพัฒนาสินค้าที่เหมาะสมกับตลาดประเทศไทย การขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายก็เป็นเรื่องที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมาก โดยในปีนี้ จะมีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการของเอ็มจี 30 แห่งทั่วประเทศ แบ่งออกเป็นในกทม. 10 แห่งและต่างจังหวัด 20 แห่ง
เอ็มจีตั้งเป้าหมายการจำหน่ายในปีแรกไว้ที่ 2,000 คันเท่านั้นในปีนี้ เนื่องจากจะเน้นการทำตลาดสินค้าเพียงรุ่นเดียว อย่างไรก็ตาม ฮวนยืนยันว่าในอนาคตจะมีสินค้าใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาทำตลาดประเทศไทย และจะต้องขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายไว้รองรับการทำตลาดทั่วประเทศ
"เราจะเริ่มทำตลาดกันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้พอดี ซึ่งสถานการณ์ภาพรวมของประเทศไทยน่าจะเริ่มฟื้นตัว ปัญหาเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเมืองไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หากมองธุรกิจรถยนต์ในประเทศไทยในระยะยาว ก็ยังเชื่อมั่นว่ามีแนวโน้มที่สดใสอยู่"
ทั้งนี้ เอสเอไอซี-ซีพี ได้ประกาศแผนลงทุนไปแล้วก่อนหน้านี้ในประเทศไทยถึง 9,000 ล้านบาท เพื่อเปิดสายการผลิตในประเทศไทยด้วยกำลังการ 5 หมื่นคันต่อปีในโรงงานที่เช่าอยู่ รองรับตลาดในประเทศและตลาดส่งออกในอาเซียนสำหรับประเทศที่ใช้รถยนต์พวงมาลัยขวา
สำหรับแผนงานในอนาคตนั้น เอ็มจีมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการแข่งขันรุนแรง ทำให้บริษัทฯ จะเน้นการทำตลาดอย่างมั่นคง โดยเชื่อว่าจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 5 หมื่นคันได้ในอนาคต ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นก็จะมีการเปิดโรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทยด้วยกำลังการผลิตและเม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น
ส่วนโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 นั้น เขาบอกว่าเป็นโครงการใหม่ที่น่าสนใจและต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุนที่ค่อนข้างสูง แต่ก็มองว่าเป็นโครงการที่ดีและน่าสนใจสำหรับตลาดประเทศไทย เพียงแต่ต้องใช้เวลาในการศึกษาในเรื่องของการลงทุนอย่างรัดกุมอีกครั้ง
ที่แน่นอนที่สุดก็คือมิถุนายนนี้ พบกับเอ็มจี 6 อย่างเป็นทางการแน่นอน!!!
ความคิดเห็น