Test Drive ทดลองขับ 2014 บีเอ็มดับเบิลยู 420ดี คูเป้ สปอร์ต สนุกเหมือนเดิม ใหญ่ขึ้นในราคาไม่โอเวอร์ พร้อมรายละเอียดสเปคและราคา
ลองขับ บีเอ็มดับเบิลยู 420ดี คูเป้ สปอร์ต
ค่ายใบพัดฟ้าขาว บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ระยะหลัง ๆ เริ่มนำเข้าสินค้ารุ่นใหม่ ๆ เข้ามาเปิดตัวและทำตลาดโดยทันทีแบบไม่หวั่นเกรงใครหน้าไหน เรียกว่าพอสินค้าเปิดตัวในต่างประเทศก็นำเข้ามาขายทันที บีเอ็มดับเบิลยู 420ดี คูเป้ สปอร์ต คันนี้ก็เช่นเดียวกัน
ก่อนที่รุ่นหลังคาเปิดประทุนได้จะตามมาทำตลาด 420 คูเป้นั้นถือว่าได้รับความสนใจจากผู้มีอันจะกินมากพอสมควร และเป็นรถรุ่นที่เริ่มเห็นวิ่งไปวิ่งมาบนท้องถนนบ้างแล้ว ส่วนหนึ่่งเป็นเพราะสนนราคาที่ไม่ดุเดือดจนเกินไปนัก สามารถจับจองเป็นเจ้าของไว้วิ่งเท่ ๆ บนถนนได้
ด้วยราคาจำหน่ายในรุ่นสปอร์ต ซึ่งเป็นรุ่นนำมาทดสอบที่เคาะไว้เพียง 3.799 ล้านบาท ทำให้กลุ่มลูกค้าที่พอมีสตางค์สามารถเอื้อมมือไปจับได้ไม่ยากเย็น และหากต้องการเพิ่มความเท่ด้วยล้อแมกซ์ที่ใหญ่ขึ้น 1 นิ้ว พร้อมด้วยชุดปรังช่วงล่างจากเอ็ม ก็สามารถเลือกซื้อรุ่นเอ็ม สปอร์ตได้ในราคาเพิ่มขึ้น 2 แสนบาท
สรุปในภาพรวมถือเป็นรถยนต์ที่หน้าตาหล่อเหลาเอาเรื่อง ขับไปบนถนนรับประกันถึงความโดดเด่น เรียกว่าไปที่ไหนก็มีคนเหลียวมองอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นยอดนิยมที่ได้รับการรับประกันในเรื่องสมรรถนะและการประหยัดน้ำมันแล้วเป็นอย่างดี
แต่ด้วยความเป็นรถยนต์คูเป้ ทำให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้งานจริงน่าจะมีอยู่อย่างจำกัด ไหนจะราคาที่แม้จะไม่แพงมาก แต่ก็มีคู่แข่งในระดับราคาใกล้เคียงกันให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งจากในค่ายตัวเองและค่ายของคู่แข่ง ทำให้อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกหลักสำหรับลูกค้าที่คิดจะซื้อรถหรูคันแรก
แต่เชื่อว่าหากเป็นรถยนต์ที่เอาไว้ขับเล่นในวันชิลล์ ๆ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ อย่างหาคนมาเปรียบได้ยากเหมือนกัน!!!
ภายนอกสุดเฉี่ยว ไฟหน้าโดดเด่น ขับเน้นความสปอร์ต
แม้จะมีพื้นฐานการพัฒนาที่ไม่ได้แตกต่างจากซีดานรุ่นอื่น ๆ ในค่าย โดยเฉพาะมองแวบแรกอาจจะนึกว่าเป็นซีรี่ส์ 3 สักคันก็ตาม แต่หากมองลงไปในรายละเอียดของการออกแบบแล้ว ถือว่าซีรี่ส์ 4 นั้นมีลักษณะเฉพาะตัวที่ค่อนข้างโดดเด่นและแตกต่างหลายประการ
ตัวรถแบบคูเป้ที่มาพร้อมที่นั่ง 4 ที่นั่ง ออกแบบมาเน้นที่ความยาวของด้านหน้าของรถแบบคูเป้ทั่วไป ขณะที่ด้านหลังไม่ได้หดสั้นมากนัก แต่เน้นการออกแบบที่ลงตัวเหมือนซีดานทั่วไป ทำให้ได้พื้นที่ห้องเก็บสัมภาระที่มีขนาดกว้างขวาง ใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้สบาย ๆ
โคมไฟหน้าแบบใหม่ออกแบบมาอย่างสปอร์ตล้ำยุค เรียกว่าหาคู่แข่งยากมากหากแข่งกันแค่จุดนี้ แถมยังมาพร้อมเทคโนโลยีไฟแอลอีดีแบบทั้งดวง ซึ่งส่องสว่างมากไม่ว่าจะเป็นไฟเดย์ไลท์หรือไฟกลางคืนก็ตามที แถมไฟตัดหมอกที่ด้านล่างก็ออกแบบมาอย่างสวยงามลงตัว
ด้านหน้ารถออกแบบมาโดยเน้นการสอดแทรกพื้นผิวสีดำมันให้อยู่ที่ตำแหน่งของกันชนหน้า ซึ่งทำให้รถดูดุดันเพิ่มขึ้น ซุ้มฝากระโปรงหน้าที่ออกแบบมาเป็นโดมมากกว่ารุ่นอื่น ทำให้หน้ารถดูโอ่อ่าขึ้น ขณะที่การไล่เส้นมัดกล้ามจากฝากระโปรงหน้าไปถึงด้านข้างรถทำได้อย่างชัดเจนโดดเด่น
แม้จะเป็นตัวรถแบบคูเป้ แต่ก็ไม่ได้ออกแบบให้เสาซีบีบลงมามากจนเกินไป ทำให้ตำแหน่งพื้นที่ห้องโดยสารภายในไม่โดนบีบให้ต้องนั่งหดหัว ด้านหลังที่ดูเรียบง่ายออกแนวแอบหรูหรามาพร้อมไฟท้ายแบบยาวที่เห็นโดดเด่นในยามค่ำคืน และระบบเปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ
ในรายละเอียดของการออกแบบถือว่าเพิ่มความโดดเด่นให้มากขึ้น ด้วยล้อแมกซ์ขนาด 18 นิ้วพร้อมยางรันแฟลต การตกแต่งตำแหน่งต่าง ๆ ของภายนอกทำได้อย่างดี ถ้าเป็นรถสีเข้ม ๆ จะช่วยขับความดุดันออกมามากกว่านี้อีก
เครื่องยนต์สมรรถนะสูง ประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรกลายเป็นเครื่องยนต์หลักที่บีเอ็มดับเบิลบูใช้กับรถยนต์เกือบทุกรุ่นที่ทำตลาดอยู่ โดยเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีทวินเพาเวอร์ เทอร์โบนั้น ถือเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ได้รับการยกย่องว่าเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากที่สุดเครื่องยนต์หนึ่ง
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว มาพร้อมสมรรถนะที่เหลือล้น โดยให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ 380 นิวตัน-เมตร ที่รอบต่ำตั้งแต่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที เรียกว่าให้อัตราเร่งปราดเปรียวตั้งแต่แรกเริ่ม
ตามสเปกที่ระบุไว้สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 7.3 วินาที ซึ่งการขับทดสอบจริงอยู่ที่ประมาณ 9 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดที่ระบุไว้ 232 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น ก็ดูจะอันตรายเกินไปสำหรับท้องถนนเมืองไทย แต่ก็เชื่อว่าทำได้หากมีระยะทางวิ่งให้มากพอ
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบสปอร์ต ที่แสนชาญฉลาดจนไม่อนุญาตให้มีการลากรอบเครื่องยนต์สูงเกินไปจนอาจเป็นอันตรายกับเกียร์ มาพร้อมโหมดเปิดและปิดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติในยามจอด ที่แนะนำให้ปิดเอาไว้ เพราะการกลับมาสตาร์ทใหม่นั้นดูกระชากรุนแรงเหลือเกิน
บีเอ็มดับเบิลยูเคลมอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของรถคันนี้ที่ 21.7 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งก็คงทำได้หากวิ่งที่ความเร็วสัก 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่การใช้งานจริงแบบเน้นซิ่งเป็นหลัก อัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้ก็ยังอยู่ที่ระดับ 15-16 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากตอนที่อยู่บนรถรุ่นอื่น ๆ นัก
โหมดการขับขี่มีให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสมตั้งแต่อีโคไปถึงสปอร์ต ซึ่งตัวรถจะแสดงออกแตกต่างกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรอบเครื่องยนต์ การตอบสนองของช่วงล่าง รวมไปถึงความดุเดือดในการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งหากใช้งานในเมือง โหมดคอมฟอร์ทก็ถือว่าเพียงพอและลงตัวที่สุดอยู่แล้ว
ภายในสีแดงสด นั่งสบาย 4 ตำแหน่ง ของเล่นเพียบพร้อม
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสารที่เน้นโทนสีแดงเป็นสีหลักในการออกแบบ สอดประสานกับสีดำเข้ม ซึ่งช่วยทำให้ห้องโดยสารดูโอ่อ่าแบบแฝงไว้ด้วยความทันสมัย แต่ก็ไม่ได้ทิ้งกลิ่นไอของความหรูหราลงไปแต่อย่างใด
ตำแหน่งของเบาะที่นั่งทั้ง 4 ออกแบบมาอย่างลงตัวและสามารถใช้งานได้จริง โดยได้ติดตั้งระบบพับเบาะด้านหน้าเพื่อเปิดทางให้ผู้โดยสารก้าวเข้าไปที่นั่งตอนหลังได้อย่างง่ายดาย เบาะที่นั่งตอนหลังออกแบบแยกสักส่วนมาโดยมีช่องวางของกั้นกลาง และมีพื้นที่วางขาและพื้นที่สำหรับศีรษะที่กว้างขวางใช้งานได้จริง
ตำแหน่งของเบาะที่นั่งด้านหน้ามาพร้อมการควบคุมด้วยไฟฟ้าทั้งหมด เบาะที่นั่งทำจากหนังดาโกต้า ให้การรองรับแผ่นหลัง ขาและรองรับน้ำหนักตัวได้อย่างพอดี และยังสามารถปรับตำแหน่งของเบาะที่นั่งให้กระชับกับแผ่นหลังได้มากขึ้น
พวงมาลัยแบบสปอร์ตสามารถเลื่อนได้ 4 ทิศทางแต่เป็นการบังคับด้วยมือและคันโยกธรรมดา การออกแบบแผงคอนโซนหน้าที่คุ้นเคยในรถรุ่นใหม่ ๆ ได้รับการยกมาทั้งหมด รวมไปถึงหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 8.8 นิ้วตรงกลางคอนโซลและปุ่มไอไดร์ฟที่สามารถสั่งการด้วยการเขียนได้
โดยรวมแล้วถือเป็นห้องโดยสารที่ให้ความเร้าใจในการขับขี่ไม่ได้น้อยไปกว่าความสะดวกสบายในการใช้งานจริง แม้ว่าจะเป็นรถยนต์คูเป้แต่ก็มีพื้นที่เพียงพอให้กับผู้โดยสาร 4 คนเดินทางไปพร้อม ๆ กันอย่างสะดวกสบาย แถมยังมีที่วางของด้านหลังให้อย่างไม่อึดอัดอีกด้วย
ขับขี่สนุกสนาน ปลอดภัยไว้ใจได้ ตามมาตรฐานบีเอ็มดับเบิลยู
อย่างที่บอกมาตั้งแต่หัวจั่วแล้วว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้ของบีเอ็มดับเบิลยูนั้น แทบจะการันตีในเรื่องของความสนุกสนานในการขับขี่ การประหยัดน้ำมัน และด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาก็ช่วยเสริมในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานได้อย่างไม่มีเรื่องน่าสงสัย
ความสนุกสนานในการขับขี่นั้นมาจากพละกำลังที่ล้นเหลือ ล้อแมกซ์ขนาด 18 นิ้วนั้นให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ดีอยู่แล้ว และไม่กระด้างมากจนเกินไปนัก พอทีจะให้สัมผัสแรงสะท้อนจากพื้นถนนได้อยู่บ้าง แต่ไม่รบกวนในเรื่องของการควบคุมรถจนเกินไป
พวงมาลัยที่แม่นยำ ทำให้การควบคุมรถเป็นไปได้อย่างไหลลื่น แม้จะต้องวิ่งผ่านสภาพถนนที่เลวร้ายของเมืองไทยก็ไม่ได้ทำให้การคุมรถยากเย็นอะไร ช่วงล่างที่หนึบแน่นแต่ไม่แข็งกระด้าง ก็ทำให้สามารถทำความเร็วของรถไปได้เรื่อย ๆ โดยที่ปล่อยให้รถจัดการตัวเองไปตามความเหมาะสม
อุปกรณ์ความปลอดภัยและระบบสนับสนุนต่าง ๆ ติดตั้งมาให้อย่างเรียบร้อยเต็มพิกัดสมราคา เรียกได้ว่าซื้อรถไปแล้วไม่ต้องคิดจะทำอะไรเพิ่ม นอกเหนือไปจากติดฟิล์มกรองแสงเท่ ๆ ให้เหมาะสมกับรถก็เท่านั้น ที่รถคันนี้ต้องการ
ถ้าไม่มองเรื่องค่าตัวที่อาจจะสูงไปบ้างในความรู้สึกที่ขึ้นไปแตะ ๆ เลข 4 แถมยังไม่ค่อยมีส่วนลดจากตัวแทนจำหน่ายเนื่องจากยังเป็นรถที่ทำยอดได้ดีอยู่ หากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและคิดว่าอยากได้รถเท่ ๆ สักคันที่ขับไปทางไหนก็มีคนสะกิดให้มอง รถคันนี้ก็ตอบสนองความต้องการนั้นได้
ถือเป็นรถหรูจากค่ายใบพัดฟ้าขาวที่น่าจับจองเป็นเจ้าของอีกหนึ่งคัน!!!
รายละเอียดทางเทคนิค 2014 บีเอ็มดับเบิลยู 420ดี คูเป้ สปอร์ต
ราคาจำหน่าย | 3.799 ล้านบาท |
เครื่องยนต์ | ดีเซล ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ 2.0 ลิตร |
กำลังสูงสุด | 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 380 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที |
อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง | 7.3 วินาที |
ความเร็วสูงสุด | 232 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย | 21.7 กิโลเมตรต่อลิตร |
อัตราการปล่อยไอเสียเฉลี่ย | 121 กรัมต่อกิโลเมตร |
ขอขอบคุณ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สำหรับรถยนต์ทดสอบในครั้งนี้
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ เฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น