สรุปส่งท้ายกันก่อนปลายปีนี้ กับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่จะต้องบอกว่า แม้จะมีการปรับเป้าหมายตัวเลขมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในที่สุด ทุกอย่างก็ไม่อาจจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้อยู่ดี
ไม่ว่าจะในส่วนของยอดจำหน่ายรถยนต์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 8.5-8.7 แสนคันในปีนี้ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ปรับลงมาต่ำสุดที่ 9 แสนคันในช่วงก่อนหน้านี้ เป็นดัชนีชี้วัดที่น่าสนใจไม่น้อยกับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
หรือหากไปดูที่ยอดการผลิตรถยนต์ทั้งปีที่คาดว่าในปีนี้จะทำได้ที่ระดับ 1.95 ล้านคันเท่านั้น ก็ถือเป็นยอดการผลิตที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับเป้าหมาย 2.2 ล้านคันก่อนหน้านี้ ทำให้ประเทศไทยหลุดจาก 10 อันดับฐานการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ของโลกค่อนข้างจะแน่นอน
มองไปที่ดัชนีที่ชี้วัดสำหรับตลาดระดับล่างกว่าอย่างรถจักรยานยนต์ ในปีนี้ก็ถูกปรับเป้าประเมินลงครั้งสุดท้ายเหลือ 1.7 ล้านคัน ซึ่งลดลงจากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ที่ 1.85 ล้านคัน และยังเป็นปีแรกในรอบ 4 ปีหลังสุดที่ยอดจำหน่ายหลุด 2 ล้านคันต่อปี
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือ หากมองลงไปในรายละเอียดเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น จะเห็นว่านอกเหนือไปจากการกล่าวอ้างถึงโครงการรถยนต์คันแรก ผลกระทบทางการเมืองและปัจจัยทางเศรษฐกิจแล้ว ก็จะพบตลาดใหม่ ๆ ที่น่าสนใจซุกซ่อนอยู่
อาทิ ตลาดรถยนต์หรูหราและรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่ดูเหมือนว่ายอดการจำหน่ายยังเติบโตทั้งคู่ โดยตลาดรถยนต์หรูหราคาดว่าจะวิ่งผ่านหลัก 2 หมื่นคันในปีนี้ และรถบิ๊กไบค์ที่คาดว่าจะเติบโตกว่า 15% โดยมีเป้าหมายที่ระดับ 1.5 หมื่นคัน
นอกจากนี้ ของเล่นมหาเศรษฐีอย่างรถซูเปอร์คาร์ก็ยังมียอดจำหน่ายที่เติบโตอยู่เช่นกัน โดยคาดว่าจากการที่มีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่ม จะทำให้ตลาดรวมซูเปอร์คาร์อยู่ที่ระดับ 300-500 คัน ซึ่งแม้จะไม่เติบโตแต่ก็ไม่หดตัว
หลาย ๆ คนยังประเมินว่าในปีนี้จะเป็นปีแห่งการปรับฐานทางด้านเศรษฐกิจที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงไตรมาส 2 ของปีหน้า ซึ่งก็น่ายินดีที่ค่ายรถยนต์และค่ายรถจักรยานยนต์ยังไม่ถอดใจออกจากตลาดไปเสียก่อน
ทุกค่ายยังคงอยู่กันพร้อมหน้า แถมมีหน้าใหม่เข้ามาเสนอตัวเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ปีนี้ก็คงต้องยอมรับกันไปว่ามันไม่ใช่ปีของเรา...
ปีหน้าฟ้าใหม่ มาแข่งกันต่อนะ ทุกเซกเมนต์ ทุกยี่ห้อเลย!!!
ความคิดเห็น