นอกเหนือจากการแข่งขันในตลาดรถกระบะที่ทวีความร้อนแรงยิ่งขึ้นหลังจากการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ หันมาดูทางฝั่งพีพีวี รถอเนกประสงค์บนพื้นฐานกระบะก็น่าติดตามไม่แพ้กันด้วยการเผยโฉมเอเวอร์เรสต์ใหม่ที่หลายคนรอคอย
ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์รุ่นใหม่ปรากฏตัวหลังจากเชฟโรเลตเพิ่งเผยโฉมเทรลเบลเซอร์รุ่นปรับไมเนอร์เชนจ์ได้ไม่นาน ขณะที่อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ก็ถือเป็น “รถแฟล็กชิพ” ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวช่วงปลายปี 2013
เราขอนำรถทั้งสามรุ่นมาเปรียบเทียบกันพร้อมกับเฝ้ารอการเปิดตัวของโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์และมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ตโฉมใหม่ซึ่งคาดว่านักเลงรถชาวไทยจะได้เห็นหน้าค่าตากันในอีกไม่ช้าและเราจะนำมาเสนอให้รับชมกันอีกครั้ง
การออกแบบและอุปกรณ์
เทรลเบลเซอร์ได้รับการ “ปรับโฉมใหม่” แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากนัก มีเพียงสีตัวถังเฉดพรีเมียมอย่างสีเทา Satin Steel Gray ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ขณะที่ด้านหลังใช้ไฟท้ายแอลอีดีเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น LTZ และ LTZ1 เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยบนท้องถนนให้มองเห็นได้ชัดขึ้น ด้านท้ายยังติดตั้งกล้องมองหลังเพื่อความปลอดภัยขณะถอยจอด
มิติโดยรวม เทรลเบลเซอร์ยังคงมีระยะฐานล้อที่กว้างกว่าคู่แข่ง ขณะที่พื้นที่ในห้องโดยสารมีความกว้างขวางมากกว่า เบาะที่นั่งแถวที่สองและสามมีการจัดวางแบบที่นั่งโรงภาพยนตร์ช่วยให้ผู้โดยสารมองเห็นทัศนวิสัยได้รอบด้าน และสามารถพับให้แบนราบได้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและยืดหยุ่นในการใช้งาน เบาะที่นั่งแบบใหม่ของเทรลเบลเซอร์หุ้มด้วยหนังสี Brown Stone เน้นความหรูหรา เสริมด้วยวัสดุเสริมสีดำเงาหรือ Piano Black บนแผงแดชบอร์ด คอนโซลกลาง และพวงมาลัย นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถสัมผัสได้ถึงความเงียบในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียง ช่วยแยกเสียงรบกวนระหว่างห้องเครื่องยนต์และห้องโดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เบาะที่นั่งผู้ขับขี่เป็นแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ขณะที่ผู้โดยสารทุกที่นั่งจะรู้สึกเย็นสบายตลอดการเดินทางด้วยระบบปรับอากาศของเทรลเบลเซอร์ที่มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารทั้งสามแถว
ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบความประหยัดน้ำมันผ่านหน้าจอแสดงผลอีโค อินเด็กซ์ (Eco Index) ซึ่งมีหน้าจอสถิติที่แสดงอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงในช่วง 50 กิโลเมตรที่ผ่านมา หน้าจอจะแสดงรูปใบไม้หากมีการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันซึ่งวัดค่าจากการกดคันเร่ง นอกจากนี้ยังมีระบบเชื่อมต่อมายลิงค์แสดงผลผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วที่สามารถสั่งงานระบบการสื่อสารและความบันเทิง
เนื่องจากพัฒนามาพร้อมกับเทรลเบลเซอร์ ทำให้อีซูซู มิว-เอ็กซ์แบ่งปันดีไซน์หลายส่วนร่วมกับแฝดคนละฝาจากอเมริกาโดยเฉพาะด้านข้างตัวรถ แต่ดีไซน์ด้านหน้าและด้านท้ายแตกต่างกัน รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็มีแตกต่างกันตามรุ่นย่อย
ด้านหน้าของมิว-เอ็กซ์ใช้ดีไซน์แบบทูโทน สีตัวถังสลับดำเน้นความน่าเกรงขาม ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ออกแบบแนวเส้นรับกับกระจังหน้าที่มีดีไซน์หวือหวาตามสไตล์อีซูซุ ไฟตัดหมอกทรงกลมอยู่คู่กับเดย์ไลท์หรือไฟส่องสว่างเวลากลางวัน สว่างชัดแม้กลางแสงจ้าด้วยหลอด LED ด้านท้ายรถกล้องมองหลังพร้อม สปอยเลอร์หลังเพิ่มกลิ่นอายความโฉบเฉี่ยวกันเล็กน้อย ส่วนเสาอากาศเป็นแบบครีบฉลาม
ภายในห้องโดยสารใช้เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีอ่อนแบบเดียวกับเทรลเบลเซอร์ใหม่เช่นกัน แถมเบาะคนขับเป็นแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางเหมือนกันด้วย การตกแต่งแผงคอนโซลให้สีดำสลับเมทัลลิกและลายไม้ ไฟส่องสว่างเป็นแบบเรืองแสงสีขาวพร้อมตัวเลขสีขาว ถ้าเชฟโรเลตมีมายลิงค์ อีซูซุก็มี ISUZU MEDIA SOLUTIONS เครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบนำทาง i-Genii บนเพดานมีหน้าจอมอนิเตอร์ขนาด 10.5 นิ้ว ช่องแอร์ติดตั้งมาทั้งสามแถวนี่นั่งเช่นกัน
มิว-เอ็กซ์ยังนำเสนอ ISUZU GENIUS ENTRY ระบบกุญแจอัจฉริยะ อีกขั้นของชีวิตเหนือระดับ ควบคุมการเปิด-ปิดและล็อกประตูทุกบาน รวมถึงสตาร์ทรถด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิตช์เปิด-ปิดที่ประตูท้าย เพิ่มความสะดวกทุกการใช้งาน
การปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ให้รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ซึ่งเปิดตัวเมื่อวานนี้ถือว่าโดดเด่นสะดุดตาพอสมควร และเมื่อใบหน้าแบบเดียวกันนี้ถูกยกมาใส่ไว้ในฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ยิ่งทำให้รถพีพีวีรุ่นล่าสุดนี้ดึงดูดสายตายิ่งขึ้นไปอีก ด้านหน้าเน้นความบึกบึนและหรูหราไปพร้อมกัน มีแผงกันกระแทกใต้กันชนหน้า-หลังดูสมบุกสมบัน ขณะที่กรอบไฟท้ายออกแบบอย่างเรียบง่ายแต่หล่อเหลาเอาการ
ความสูงจากพื้นถึงตัวถังรถอยู่ที่ 225 มิลลิเมตร ถือว่าสูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน พร้อมลุยน้ำได้ที่ความลึกสูงสุด 800 มิลลิเมตรเท่ากับเรนเจอร์ ติดตั้งระบบเกียร์แบ่งกำลัง พร้อมระบบควบคุมการจ่ายแรงบิด ทอร์ค ออน ดีมานต์
ภายในห้องโดยสารรองรับ 7 ที่นั่ง เน้นความกว้างขวางและหรูหรา เบาะทั้งสามแถวพับเรียบได้ด้วยระบบไฟฟ้า ขณะที่ฝาประตูท้ายก็สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าครั้งแรกในรถระดับเดียวกันซึ่งตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไฮไลท์ของอ็อปชั่นภายในยังรวมถึงระบบเชื่อมต่อ SYNC II รุ่นใหม่ล่าสุด
ดูแล้วทั้งรูปร่างหน้าตาและอ็อปชั่นหลายอย่างที่ฟอร์ดจัดมาแบบ “First in Class” น่าจะถูกใจลูกค้ามากมาย เชื่อว่าถ้าคู่แข่งไม่ปรับตัวและอัพเกรดผลิตภัณฑ์ของตัวเองก็อาจจะเสียท่าให้พีพีวีอเมริกันคันนี้ก็เป็นได้
เครื่องยนต์
เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์
เชฟโรเลตชูจุดขายของเทรลเบลเซอร์อยู่ที่เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ เจนเนอเรชั่นที่สอง ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ รุ่น 2.8 ลิตร ให้พละกำลังสูงถึง 200 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ทำให้เทรลเบลเซอร์เป็นรถที่ทรงพลังที่สุดและมีแรงบิดสูงสุดในรถระดับเดียวกัน เครื่องยนต์ให้อัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจและสมรรถนะที่ต่อเนื่อง รวมถึงศักยภาพการลากจูงและการบรรทุกได้เต็มพิกัด ขณะที่รุ่น 2.5 ลิตรให้พละกำลัง 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที
เครื่องยนต์รุ่นนี้ควบคุมโดยซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดยจีเอ็มเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วยิ่งขึ้นและการทำงานที่แม่นยำในช่วงที่ให้พละกำลังสูงสุด พร้อมกับให้ความประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรและ 2.8 ลิตรผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 และสามารถรองรับยูโร 5 และมาตรฐานไอเสียของสหรัฐอเมริกาได้
ระบบส่งกำลังเป็นแบบ 6 สปีด มาพร้อมกับอัตราทดที่เน้นบุคลิกอันทรงพลังของขุมพลังดูราแม็กซ์ ทำให้เทรลเบลเซอร์มีสมรรถนะและความประหยัดที่เป็นเลิศ ซึ่งเทรลเบลเซอร์ถือเป็นรถอเนกประสงค์รุ่นแรกในตลาดที่ใช้ระบบเกียร์ 6 สปีด ทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ
เทรลเบลเซอร์ใหม่มาพร้อมเข็ดขัดนิรภัยคาดตักแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกระชากจากการรั้งของเข็มขัดนิรภัย ซึ่งจะทำงานร่วมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้า นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน
อีซูซู มิว-เอ็กซ์
มิว-เอ็กซ์มีขุมพลังสองรุ่นเหมือนกับเทรลเบลเซอร์ เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ ISUZU Ddi 3.0 พร้อม VGS Turbo ขุมพลัง 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที ขณะที่เครื่องยนต์ ISUZU Ddi 2.5 พร้อม VGS Turbo รีดพละกำลัง 136 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที
มิว-เอ็กซ์ใช้เครื่องยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานยูโร 4 ระบบเทอร์โบแปรผัน VGS Turbo เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดแบบ ZERO GAP ลดช่องว่างระหว่างใบพัดกับเสื้อเทอร์โบ เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้น ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบ SAFETY MODE ป้องกันระบบส่งกำลังเสียหายจากการเข้าเกียร์ผิด และประหยัดน้ำมันเหนือกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไปด้วยระบบ LOCK UP-TORGUE CONVERTER เพิ่มการส่งถ่ายกำลังเต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่ความเร็วต่ำ
ระบบความปลอดภัยอัดแน่นไม่แพ้คู่แข่ง ระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อก ระบบ DUAL G-SENSOR ควบคุมการทำงานของระบบ ABS อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก และระบบเสริมแรงเบรก BA เพิ่มแรงเบรกดันน้ำมันเบรกอัตโนมัติในกรณีเบรกฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ โครงสร้างห้องโดยสารแบบพิเศษเสริมด้วยเหล็กกล้าผลิตด้วยเทคโนโลยี TAILOR WELDED BLANK โดยใช้เหล็กหนาพิเศษมาประกอบเสริม ณ จุดที่ดูดซับแรงกระแทก เพิ่มความแข็งแกร่ง ปลอดภัยอย่างเหนือชั้น เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ทั้ง 7 ที่นั่ง แอร์แบ็คคู่ ช่วยลดความรุนแรงต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า โดยทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ แกนพวงมาลัยและแป้นเบรกแบบยุบตัวได้ ช่วยลดความรุนแรงขณะเกิดอุบัติเหตุ
ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์
เครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร ดูราทอร์ค แบบ 5 สูบ ที่ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร พร้อมด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ให้กำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิด 385 นิวตันเมตร
ฟอร์ดมาพร้อมโครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบทีเอ็มเอส (TMS-Terrain Management System) ที่่ช่วยให้ฝันฝ่าอุปสรรคได้ทุกสถานการณ์
เทคโนโลยีเซนเซอร์ในฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ใหม่ให้คุณจอดรถได้อย่างง่ายดาย ด้วยระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist ระบบจะช่วยบังคับพวงมาลัยจอดเองภายในไม่กี่วินาที นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นในการเปลี่ยนเลนหรือถอยหลังออกจากที่จอดรถ กับระบบตรวจจับรถในจุดบอดระบบ BLIS® (Blind Spot Information System) เทคโนโลยีที่ช่วยแจ้งเตือนเมื่อตรวจจับรถที่คุณไม่ทันสังเกตเห็น พร้อมด้วยระบบตรวจจับมุมอับสายตาซึ่งทั้งหมดเป็นระบบที่ติดตั้งในรถรุ่นนี้เป็นครั้งแรก
กค้าชาวไทยสามารถเลือกสีรถได้ 5 สี ประกอบไปด้วย สีขาวคูลไวต์ สีดำ แบล็ก ไมก้า เมทัลลิก สีเงิน อะลูมินัม เมทัลลิก สีทอง สปาร์คลิ่ง โกล์ด เมทัลลิก และสีแดง ซันเซต เมทัลลิก
สรุป
เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ใหม่มี 4 รุ่นย่อยให้เลือกสรร เริ่มจากรุ่น 2.5 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์ธรรมดาอยู่ที่ 1.095 ล้านบาทไปจนถึงรุ่น 2.8 ลิตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติที่มีราคา 1.465 ล้านบาท
ด้านอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ เคาะราคารุ่นเริ่มต้นและรุ่นท็อปถูกกว่าเทรลเบลเซอร์เล็กน้อยโดยอยู่ที่ 1.044 ล้านบาทถึง 1.419 ล้านบาท
ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์เปิดให้จองด้วยราคาจำหน่าย 1.269 ล้านบาทในรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ไทเทเนียม ขับเคลื่อน 2 ล้อ สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนียม ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1.459 ล้านบาท และรุ่นท็อปไทเทเนียม พลัส ราคา 1.599 ล้านบาท
แน่นอนว่าชั่วโมงนี้ไม่มีรถพีพีวีรุ่นใดจะร้อนแรงเท่ากับเอเวอร์เรสต์ซึ่งได้เปรียบทั้งความสดใหม่และอ็อปชั่นอำนวยความสะดวกที่จัดเต็มเกินหน้าคู่แข่ง แต่ก็ต้องแลกกับราคาจำหน่ายตัวท็อปที่แพงล้ำไปกว่าใครเพื่อน ขณะเดียวกัน “บริการหลังการขาย” ของฟอร์ดก็ยังเป็นจุดที่ต้องปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าในระยะยาว
ยังเหลือคู่แข่งสำคัญอย่างโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์และมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ตใหม่ที่ข่าวแว่วมาว่าเราจะได้เห็นภายในปีนี้แน่นอน แต่ลูกค้าที่กำลังมองหารถพีพีวีและไม่อยากรอแล้วก็สามารถเลือกจับจองได้ตามความต้องการ ถ้าสนใจเทรลเบลเซอร์และมิว-เอ็กซ์อาจไม่ต้องรอนานมากนัก แต่ถ้าจองเอเวอร์เรสต์จะต้องรออีกกว่าสามเดือน เพราะฟอร์ดจะเริ่มส่งมอบในช่วงไตรมาสที่สามเป็นต้นไป
ขอเน้นย้ำกันอีกรอบถึงความสำคัญของการทดสอบขับและสัมผัสตัวจริงให้ครบทุกรุ่นก่อนจับจองครับ
LINE
ความคิดเห็น