[ลองขับ] มาสด้า บีที-50 โปร บนเส้นทางมองโกเลีย ทางโหดแต่รถเอาอยู่ (ตอนที่ 1) Share this

[ลองขับ] มาสด้า บีที-50 โปร บนเส้นทางมองโกเลีย ทางโหดแต่รถเอาอยู่ (ตอนที่ 1)

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 10 September 2558

จากที่เราเคยบอกไปไว้ในคอลัมน์ What's Up! ประจำเดือนกันยายน ว่าเราได้รับเชิญจากมาสด้า ประเทศไทย ให้เดินทางมาร่วมทดสอบมาสด้า บีที-50 โปร รุ่นใหม่ล่าสุด บนเส้นทางอันแสนสนุกสนานในประเทศมองโกเลียตลอดการเดินทางเกือบ 4 วัน บนระยะทางกว่า 1,400 กิโลเมตร

บนเส้นทางที่มาสด้าจัดให้ทางสื่อมวลชนได้ทดสอบรถปิกอัพรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างมาสด้า บีที-50 โปร รุ่นปรับโฉมกันอย่างเต็มที่ ถือเป็นเส้นทางแปลกใหม่กับการขับรถผ่านทุ่งหญ้าและเนินทรายสลับถนนหลวง ซึ่งรถทุกคันสามารถทำหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ติ

และแม้ว่าจะเป็นการวิ่งผ่านถนนขรุขระแบบธรรมชาติแท้ ๆ ไม่มีการขุดแต่งปรับปรุงแต่อย่างใด บีที-50 โปรรุ่นใหม่ทั้ง 8 คันของกรุ๊ป บี ที่ขับกลับจากอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลียมาจนถึงเมืองชายแดนระหว่างจีนและมองโกเลียอย่างอีเรนฮอท ก็ทำหน้าที่อย่างดีไม่มีแม้แต้ต้องเปลี่ยนยางที่ติดมา

IMG_4531

รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร สีน้ำตาล เบอร์ 8 คือรถประจำการของผมและเพื่อนผู้สื่อข่าวอีก 2 ท่านตลอดระยะทางที่วิ่ง ตอนแรกนั้น เราคิดว่ารถที่นำมาทดสอบน่าจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เหมาะกับเส้นทาง แต่พอเจอรถตัวจริงแล้วก็แอบอึ้งไปสักเล็กน้อย

เพราะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อนั้นกว่าจะเปิดสายการผลิตก็ปาเข้าไปเดือนตุลาคม มาสด้าก็เลยจัดรุ่นท๊อปของรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้ออย่างไฮ-เรซเซอร์ ดับเบิลแค็บ เกียร์อัตโนมัติที่มาพร้อมเอบีเอสมาให้เราทำการทดสอบกัน ว่าแม้จะไม่ได้ขับสี่ แต่ก็มีดีพอที่จะวิ่งตะลุยได้อย่างสบาย

จริง ๆ แล้วก่อนที่จะปรับโฉมนั้น รถปิกอัพของมาสด้ารุ่นนี้ก็ไม่ได้ดูด้อยกว่าคู่แข่งสักเท่าไร จนเมื่อคู่แข่งหลายรายเริ่มทยอยเปิดตัวทั้งรุ่นใหม่ล่าสุดและรุ่นปรับโฉม มาสด้าก็เลยต้องทำการรีเฟรชด้วยการปรับหน้าตาทั้งด้านหน้าและด้านหลังกันบ้าง เพื่อให้มีความดุดันมากขึ้น

IMG_4545

เครื่องยนต์ดีไอ-ธันเดอร์ โปร 2.2 ลิตร ที่มาพร้อมระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 6 สปีด มาพร้อมระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรด ป้องกันล้อหมุนฟรี โดยมาสด้ายืนยันว่ารถรุ่นนี้สามารถลุยน้ำได้ที่ระดับความลึกถึง 80 เซนติเมตร

ตัวเครื่องยนต์นั้นมาพร้อมสมรรถที่ไม่เป็นรองใคร มาพร้อมกำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,700 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที โดยในรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นขายของมาสด้า ที่มีการวางราคาจำหน่ายเอาไว้ที่ 8.58 แสนบาท

เราเริ่มการทดสอบวันแรกจากอูลานบาตอร์ ที่เราบินจากกทม.ผ่านปักกิ่งมาปักหลักกันก่อนหน้านั้น 1 คืน สวนทางกับกรุ๊ปแรกที่เพิ่งเดินทางมาถึง ในช่วงเช้านั้น อากาศที่อูลานบาร์ตออยู่ที่ระดับประมาณ 10 องศานิด ๆ การสตาร์ทเครื่องยนต์รถที่จอดมาข้ามคืนในอากาศเย็นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

IMG_4607

มาสด้าคุยว่านี่คือรถปิกอัพที่ให้บุคลิกของรถยนต์นั่ง แต่ยังมีรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งบึกบึน การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ อยู่ที่กระจังหน้าลายใหม่ กรอบโคมไฟหน้าที่เปลี่ยนใช่เลนใสที่ไฟเลี้ยว และกรอบโคมไฟหลังที่เปลี่ยนจากกรอบใสมาเป็นกรอบสีแดงเข้มแทน

โดยรวม ๆ แล้วถือว่าตัวรถที่ด้านนอกนั้นให้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้น หน้าตาดูสดชื่นแจ่มใส ตำแหน่งการก้าวขึ้นรถก็ไม่ได้ยากเย็นด้วยการมีกาบบันไดข้างมาให้เรียบร้อย ขณะที่ห้องโดยสารแบบเดิม ๆ ก็ถือว่าติดตั้งมาให้เพียงพอต่อการใช้งานเป็นที่เรียบร้อย

ออกเดินทางจากอูลานบาตอร์ผ่านตัวเมืองหลวงเพื่อเดินทางมุ่งหน้าลงใต้ จุดมุ่งหมายของวันแรกอยู่ที่เมืองหลวงเก่าอย่างคาลาคอรัม บนเส้นทางกว่า 400 กิโลเมตรแรก ถนนในช่วงแรกเป็นทางหลวงที่เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย

IMG_4577

ยังมีคุยกันในรถว่าเดินทางไกลต่อเนื่องกันแบบนี้ น่าจะมีอาการปวดหลัง ปวดก้นกบกันเอาเรื่องเหมือนกัน เดี๋ยวก็รู้ครับ นั่งรถกันไกล ๆ แบบนี้ล่ะ ได้พิสูจน์กันหมดทุกเรื่อง ทั้งตัวรถ สมรรถนะ ช่วงล่าง ความสะดวกสบาย มากันให้ครบทุกอย่าง

ออกจากทางหลวงมุ่งหน้าลงทางฝุ่นเป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร คณะได้แวะพักที่ทะเลสาปโอกิ ทะเลสาปสีฟ้าอันขึ้นชื่อของมองโกเลียที่ถูกซ่อนเอาไว้ในอ้อมกอดของเทือกเขาอัลไต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของมองโกเลีย

การตอบสนองของรถในทางฝุ่นนั้น เครื่องยนต์ 2.2 ลิตรให้พละกำลังและแรงบิดมากเพียงพอที่จะพาเราบุกตะลุยไปในเส้นทางต่าง ๆ ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะมีอุปสรรคมากน้อยเพียงใด แรงบิดที่พอตัวในรอบต่ำ ทำให้การบุกป่าฝ่าดงไม่ใช่ปัญหาสำหรับรถปิกอัพคันนี้

IMG_4604

ระบบช่วงล่างที่แม้จะเป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่ก็ให้ความไว้วางใจได้เป็นอย่างดี การวิ่งในเส้นทางธรรมชาติที่คาดเดาต่อทางข้างหน้าได้ยากว่าจะมีก้อนหิน เนินทรายหรือหย่อมหญ้าลื่น ๆ นอกเหนือจากช่วงล่างจะยอดเยี่ยมแล้ว ในยามเกิดปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

เราปิดทริปวันแรกด้วยการแวะชมเมืองหลวงเก่าอย่างคาลาคอลัม ซึ่งเป็นศูนย์กลางของมองโกเลียในยุคของเจงกีสข่าน ผู้นำอันลือชื่อของประเทศแห่งนี้ เข้าชมความรุ่งเรืองในอดีตในพิพิธภัณฑ์ พร้อมทั้งแวะเยี่ยมชมวัดลามะที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน

ก่อนที่จะพักกายลงที่มังค์ เทงเกอร์ แคมป์ อันเงียบสงบ เพื่อเตรียมพละกำลังไว้สำหรับเส้นทางที่เหลือต่อไป...

IMG_4526

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ