[ลองขับ] มาสด้า บีที-50 โปร บนเส้นทางมองโกเลีย ทางโหดแต่รถเอาอยู่ (ตอนจบ) Share this

[ลองขับ] มาสด้า บีที-50 โปร บนเส้นทางมองโกเลีย ทางโหดแต่รถเอาอยู่ (ตอนจบ)

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 28 September 2558

จากที่เราเคยบอกไปไว้ในคอลัมน์ What's Up! ประจำเดือนกันยายน ว่าเราได้รับเชิญจากมาสด้า ประเทศไทย ให้เดินทางมาร่วมทดสอบมาสด้า บีที-50 โปร รุ่นใหม่ล่าสุด บนเส้นทางอันแสนสนุกสนานในประเทศมองโกเลียตลอดการเดินทางเกือบ 4 วัน บนระยะทางกว่า 1,400 กิโลเมตร

ในบันทึกการเดินทางฉบับแรก เราพาทุกท่านวิ่งขับรถจากเมืองหลวงล่าสุดของมองโกเลียอย่างอูลานบาร์ตอร์ ลัดเลาะเส้นทางธรรมชาติสลับทางหลวงมาจนถึงเมืองหลวงเก่าอย่างคาลาคอลัมเป็นที่เรียบร้อย พร้อมเข้าพักในกระโจมแบบมองโกเลียแท้ ๆ

จากนั้นเราได้พาทุกท่านเดินทางต่อในตอนที่ 2 ซึ่งนำทุกท่านล่องลงใต้เข้าสู่พื้นที่ของทะเลทรายโกบี ไปนอนพักกันต่อที่แคมป์ที่ขนาดเล็กลงมาจากคืนแรก ซึ่งแม้จะนั่งที่เบาะผู้โดยสารตอนหลังมาตลอดทั้งวัน ก็ไม่ได้มีอาการปวดหลังหรืออ่อนเพลียกว่าปกติ

KKK_3890

ตื่นเช้าขึ้นมาที่เออร์เดเน่ ยูคาร์ แคมป์ คว้าโทรศัพท์มือถือตัวเองที่วางไว้ข้างตัวขึ้นมาก็ถึงกับสะดุ้ง เพราะมือถือเย็นเฉียบเกือบจะเป็นน้ำแข็ง หน้าจอแสดงอุณหภูมิ 8 องศาในกระโจมที่พัก เดินออกมาข้างนอก พอจับสัญญานได้และรีเฟรชอุณหภูมิอีกรอบ ก็ลดลงไปอยู่ที่ 4 องศา

ภายใต้อุณหภูมิขนาดนี้ พวกผมเดินกันหนาวสั่นหงั่ก ๆ แบบไม่มีเสื้อผ้าหนา ๆ กันไม่ไหว แต่คนท้องถิ่นกลับเดินไปมากันสบาย ใส่แจ็คเกตแบบดูแล้วไม่หนาเท่าไรก็เอาอยู่ เพราะว่ากันว่าในพื้นที่เหล่านี้ ในหน้าหนาวอุณหภูมิปกติลงไปต่ำถึงติดลบ 40 องศาก็มี

เก็บข้าวของกันอีกรอบ การเดินทางวันนี้ยังมุ่งหน้าผ่านเนินเขาและทุ่งหญ้า เป้าหมายเพื่อพักผ่อนหย่อนกายใจกันที่ชายขอบของทะเลทรายโกบีอีกครั้งในคืนนี้ ก่อนที่วันรุ่งขึ้นเราจะมุ่งหน้าเข้าสู่ชายแดนประเทศจีนเพื่อนั่งรถบัสกลับไปที่ปักกิ่ง อันจะเป็นการปิดท้ายทริปนี้อย่างสมบูรณ์

KKK_3797

การเดินทางผ่านท้องหญ้าและผืนทรายที่มีแผ่นฟ้าทอดยาวตระการตา พาเราผ่านทางฝุ่นและถนนดำมากมายหลายพื้นที่ เราได้วิ่งผ่านตัวเมืองเล็ก ๆ ของมองโกเลียหลายต่อหลายแห่ง เพื่อที่จะแวะพักผ่อน รับประทานอาหารและซื้อของใช้ที่จำเป็นมากมาย

การจับจ่ายใช้สอยในมองโกเลียนั้นถือว่ายากลำบากเอาเรื่องกับอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินท้องถิ่นที่ค่าเงินมองโกลนั้นจะค่อนข้างเล็ก แนะนำให้พกเงินหยวนหรือดอลล่าร์ไปแลกได้ที่ชั้น 2 ของสนามบินเจงกีสข่าน แลกมาแล้วพยายามใช้ให้หมด เหลือกลับมาก็แลกคืนไม่ได้

ข้าวของเครื่องใข้ส่วนใหญ่ยังเป็นการนำเข้าทั้งจากรัสเซียและจีน แต่ก็พอมีสินค้าท้องถิ่นขึ้นชื่อ โดยเฉพาะวอดก้ามองโกเลียที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายในราคาน่าคบหา อย่างอื่น ๆ เท่าที่เดินดูแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรที่เป็นสินค้าในประเทศ

KKK_3793

ผมหยิบวอดก้ามองโกเลียยี่ห้อเจงกีสข่านขวดฉลากสีทองมาในราคาสามร้อยกว่าบาทไทยติดมือมาจากร้านขายของชำแห่งหนึ่ง สมาชิกบางรายที่ซื้อของรูดบัตรเครดิตไม่ผ่านก็มีนะครับ ใครคิดจะไปรูดดาบหน้าให้เผื่อเรื่องนี้เอาไว้ด้วย ส่วนผมมีแลกเงินมานิดหน่อยก็สบายไป

วันนี้เราเดินทางกว่า 400 กิโลเมตร จึงไม่ได้มีจุดแวะพักอะไรมากมาย แต่ระยะทางที่วิ่งผ่านจะต้องผ่านทุ่งหญ้าแห่งความรัก ทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตาที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีแดงขนาดเล็กปูประหนึ่งพรมจากธรรมชาติ ที่รังสรรค์เอาไว้อย่างพอเหมาะพอเจาะ

กลับรถกระโดดลงไปถ่ายรูปกันด้วยความสนุกสนาน แม้จะชื่อทุ่งหญ้าแห่งความรัก แต่ตัวต้นไม้ที่ให้ความสวยงามนั้น กลับมีความแข็งแรงและหนามเล็ก ๆ ที่คอยทิ่มแทงเราอยู่เรื่อย งานนี้ถ้าถ่ายรูปลงโพสต์ที่ไหน คงต้องใส่แฮชท์แท็กความรักก็เช่นกันแน่นอน

IMG_3828

เรามุ่งหน้าไปค้างคืนกันที่โกบี ซันไรซ์ แคมป์ หนึ่งในจุดอับสัญญานโทรศัพท์มือถือมากที่สุดของทริปในครั้งนี้ เล่นโซเชียลมีเดียไม่ได้ทั้งสิ้น ข้อดีก็คือมีแคมป์ปูนแบบใหม่ที่มีห้องน้ำในตัวให้เลือกนอนได้ เรียกว่าอบอุ่นจนลืมอุณหภูมิภายนอกกันเลยทีเดียว

เดินทางกันมาเรื่อย ๆ จนจะถึงวันปิดทริปกันแล้ว ตื่นเช้ามาเป้าหมายสุดท้ายอีก 250 เมตรจะถึงชายแดนจีน-มองโกเลีย แต่ระหว่างทาง ทีมงานได้พาไปแวะรับพลังงานกันที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเรียกกันอย่างเป็นทางการว่าเอเนอจี เพลซ

ตามตำนานนั้น สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุยาวนานกว่า 150 ปีแห่งนี้ ถูกค้นพบโดยนักบวชรูปหนึ่งที่เขาพบว่า ณ จุดแห่งนี้สามารถช่วยเพิ่มพละกำลังและยังเป็นจุดที่เขาสามารถเชื่อมต่อกับสวรรค์ได้ ณ สถานที่แห่งนี้ ทำให้ทุกปีจะมีประชาชนจำนวนมากมาร่วมงานประจำปีอันศักดิ์สิทธิ์

KKK_3227

ในช่วงที่เราไปถึงเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการจัดงานพอดี โดยเราได้สำรวมสมาธิ นอนกลางอิฐสีแดงเพื่อรับพลังงานเป็นระยะเวลา 15 นาที ของแบบนี้แล้วแต่ความเชื่อและความศรัทธา แต่ที่เราเห็นก็คือมีรถหลายคันเดินทางมาไกลแสนไกลเพื่อที่จะร่วมพิธีนี้

ออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เรามุ่งหน้ากันไปที่ชายแดนเพื่อทำพิธีผ่านแดน ส่งคนขึ้นรถทัวร์เดินทางเข้าปักกิ่ง ขณะที่รถนั้น จำเป็นต้องทิ้งไว้ที่ด่านหนึ่งคืนเพื่อทำเอกสารต่าง ๆ ก่อนที่ทีมงานผู้รับผิดชอบจะขับกลับคืนสู่มาตุภูมิอีกครั้ง

จบภารกิจแสนโหดเพื่อพิสูจน์สมรรถนะ ความแข็งแกร่งและความสะดวกสบายของมาสด้า บีที-50 โปร รุ่นปรับโฉมในท้ายที่สุด!!!


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ