อีเบย์ชี้พฤติกรรมผู้บริโภครายย่อยเริ่มสั่งชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์กันมากขึ้น เร่งกระตุ้นผู้ผลิตพัฒนาการจำหน่ายออนไลน์ พร้อมเร่งพัฒนาแพลตฟอร์มการจำหน่ายออนไลน์รองรับการขยายตัว
ศิลัดดา ทับปิ่นทอง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (อุตสาหกรรมยานยนต์) อีเบย์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอดการซื้อสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ อะไหล่ยานยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผลสำรวจล่าสุดของบริษัท
ทั้งนี้ กลุ่มยานยนต์เข้ามามียอดการสั่งซื้อจากประเทศไทยไปถึงลูกค้ารายย่อยสูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจากกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ที่มียอดการสั่งซื้อสูงสุด ตามมาด้วยกลุ่มสินค้าแฟชั่น ที่ประกอบไปด้วยเสื้อผ้า รองเท้า เป็นต้น
"การเติบโตที่น่าสนใจเป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้รถยนต์ได้เปลี่ยนไป โดย 47% ของผู้ใช้รถในสหรัฐอเมริกามีการสั่งซื้ออุปกรณ์รถยนต์ออนไลน์ และอีก 25% มีแนวโน้มที่จะปรับมาซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น"
นอกจากนี้ ยังพบว่า 64% ของกลุ่มที่ซื้อสินค้าออนไลน์ทำการติดตั้งสินค้าด้วยตัวเอง และอีก 22% ซื้อไปให้ศูนย์บริการติดตั้งให้ และอีก 14% นิยมทั้ง 2 แบบ นอกจากนี้ ยังพบว่า 2 ใน 5 ของกลุ่มลูกค้าผู้หญิงก็นิยมซื้อสินค้าออนไลน์เช่นกัน
ศิลัดดากล่าวต่อว่า อีเบย์พยายามที่จะสนับสนุนให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนทำการจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ทั้ง 2 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านการขายสินค้าผ่านอีเบย์ หรือการจำหน่ายสินค้าด้วยตัวเองพร้อมชำระคอมมิชชั่น 9%
"ในปีหน้า เราจะร่วมมือกับสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ในการผลักดันให้ผู้ประกอบการหันมาเน้นการทำการขายออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้มูลค่าการซื้อขายของกลุ่มนี้ผ่านอีเบย์เติบโตไม่น้อยกว่า 1 เท่าตัว"
นอกเหนือจากการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการขายสินค้าออนไลน์ให้เหมาะสมกับสินค้าแล้ว อีเบย์ยังมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้บริการให้คำปรึกษาผู้ประกอบการมากมาย โดยปัจจุบัน สินค้าจากประเทศไทยมีการส่งออกไปจำหน่ายยัง 46 ประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ อีเบย์คือผู้ให้บริการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ไปยังผู้บริโภครายย่อยขนาดใหญ่กว่า 25 ล้านคนทั่วโลก โดยมีสินค้าจำหน่ายในแพลตฟอร์มกว่า 800 ล้านชิ้น และมียอดรายได้จากการจำหน่ายสินค้ากว่า 8.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา
ความคิดเห็น