หลังจากที่ออโต้สปินน์ พาทุกท่านมาสัมผัสกับ 2016 เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส (2016 Mercedes-Benz E-Class) ที่ค่ายรถตราดาว เมอร์เซเดส-เบนซ์ พาสื่อมวลชนทั่วโลกมาร่วมทดสอบกันที่เมืองลิสบอน เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส
ในตอนที่ผ่านมา เราได้พาทุกท่านไปลองของแรงกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี400 4เมติก รุ่นท๊อปของเครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่มาพร้อมระบบมากมาย รวมทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยกับเขา
และด้วยความพยายามของเรา จิมมี่ บัดดี้ของเราในทริปนี้ก็สามารถจับจองเจ้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี220ดี ได้เป็นคนแรกของการทดสอบวันที่ 2 เรียกว่าจองกันตั้งแต่เปิดบูธกันเลยทีเดียว เพื่อให้ได้มาซึ่งรถทดสอบที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยคันนี้
ด้วยฟังชั่นส์การใช้งานบางอย่างอาจจะไม่ค่อยเหมือนกัน ทำให้เราจะไม่พูดถึงมันมากนักจนกว่าจะเห็นรถเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ที่กำลังจะมาถึง แต่เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของฟีลลิ่งการขับ การตอบสนองของเครื่องยนต์และช่วงล่างกันแบบสัมผัสแรกเบาเบา
เพราะยังไงเสียพอเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยเปิดตัวแล้ว เราก็น่าจะมีโอกาสได้นำรถรุ่นนี้เข้ามาขับกันอย่างจริงจังในประเทศไทยอีกครั้งค่อนข้างแน่นอน ไว้ค่อยเก็บรายละเอียดของรถทั้งหมดกันอีกรอบก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
ย้ำกันอีกรอบ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้ประกาศล่วงหน้าแล้วว่าจะทำตลาดรถยนต์รุ่นใหม่นี้ ตั้งแต่งานมอเตอร์โชว์ในช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป โดยจะมาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์เดียว 2 รุ่นย่อย ในช่วงเริ่มต้นของการทำตลาด
นั่นก็คือเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี. ที่ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 7.3 วินาที
อี-คลาส หัวใจดีเซลเคลมอัตราการสิ้่นเปลืองน้ำมันที่ 25.6 กิโลเมตรต่อลิตรและปล่อยไอเสียเพียง 102 กรัมต่อกิโลเมตร โดยวางราคาจำหน่ายรุ่นอี220ดี เอ็กซ์คลูซีฟที่ 3.99 ล้านบาทและรุ่นอี220 เอเอ็มจี ไดนามิกที่ 4.79 ล้านบาท
เครื่องยนต์ตัวนี้ไม่ได้เป็นเครื่องยนต์หลักในการทำตลาดในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่เป็นหัวใจหลักของอี-คลาส ใหม่ ในการทำตลาดทั่วโลก จึงไม่ต้องแปลกใจที่สื่อมวลชนทุกรายต่างเล็งเป้าหมายในการทดสอบไปที่รถรุ่นนี้กันเกือบทุกราย
ย้อนความกันนิดนึง ก่อนหน้านี้เราขับรุ่นท๊อปของคลาสมา แล้วเราพบว่ารถคันนี้มีพัฒนาการด้านการขับขี่ที่ดี เครื่องยนต์ตอบสนองปรู๊ดปร๊าดสะใจ ระบบช่วงล่างที่ไว้ใจได้ เรียกว่าน่าเสียดายเลยล่ะที่รถคันนี้จะไม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยซะงั้น
เมื่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัดสินใจเลือกทางเลือกเดียวให้กับเจ้าของอี-คลาสใหม่ กับเครื่องยนต์เบนซินที่ต้องเรียกว่าสมรรถนะก็ไม่ธรรมดารุ่นนี้ เราก็ต้องมาดูกันว่ามันน่าใช้งานมากขนาดไหน เมื่อตลาดรถหรูระดับกลางในประเทศไทยนั้น ก็ขึ้นชื่อเรื่องความดุเดือดเอาเรื่องอยู่
ณ ตำแหน่งของคนขับนั้น เรารู้สึกว่าพื้นที่วางขาค่อนข้างบีบแคบเล็กน้อย ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลจากความไม่คุ้นชินที่ต้องย้ายไปนั่งด้านซ้าย อันนี้ขอยกผลประโยชน์ให้จำเลยไปก่อนนะ เพราะการขับแค่ช่วงสั้น ๆ ไม่อยากเอาความคุ้นเคยไปจับอะไรเสียมากมาย
พอย้ายมานั่งฝั่งซ้ายเพื่อขับรถบนถนนที่วิ่งฝั่งขวา บอกเลยว่ายากเอาเรื่อง แม้จะผ่านอะไรแบบนี้มาหลายครั้งก็ยังไม่ค่อยชิน สตาร์ทรถออกจากจุดจอดคันเกือบสุดท้าย เพราะมัวแต่ถ่ายรูปที่ท่าเรืออันแสนสวยงามของลิสบอนกันอยู่นานสองนาน
พอออกจากจุดที่พักรถก็ต้องวิ่งผ่านพื้นถนนแบบอิฐก้อนที่นำมาวางเรียงกัน ทำให้รู้สึกได้ถึงการตอบสนองของช่วงล่างทันทีว่าไม่ได้นุ่มยวบสบายเกินไปเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้เสียแล้ว ตัวรถยังมีการรองรับแรงสั่นสะเทือนที่ดี แต่มีอาการโยกตัวบนพื้นผิวไม่สม่ำเสมอลดลงพอสมควร
กดคันเร่งเบา ๆ นำรถวิ่งออกจากถนนในเมืองเข้าสู่ทางหลวง เครื่องยนต์ให้การตอบสนองที่ดีแบบติดเท้า อยากจะเร่งเท่าไหร่ก็กดส่งไปเรื่อย ๆ แบบไม่เหนื่อย ไม่มีปัญหา ไม่ต้องมาลุ้นว่ารถจะวิ่งออกไปได้ไหวหรือไม่ ที่ต้องห่วงก็คือถึงความเร็วสูงสุดที่กำหนดไว้หรือยังมากกว่า
บนถนนเส้นใหม่ที่สร้างข้ามอ่าวขนาดเล็กของโปรตุเกสนั้น เราเริ่มรู้สึกได้ว่าสปีด ลิมิต ที่กำหนดไว้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงน่าจะเป็นเรื่องที่กำหนดขึ้นมาเล่น ๆ เพราะแม้เราจะวิ่งที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่รถท้องถิ่นก็วิ่งมาจี้และขับไล่เราแบบไม่ลดละ
เมื่อสถานการณ์บังคับเราก็ต้องกดหนี เพราะการไปวิ่งไล่ตามรถคันอื่นใกล้กับรถสิบล้อในพื้นที่ที่เราไม่ชำนาญคงไม่ใช่เรื่องดี การตอบสนองของเครื่องยนต์ดีเซลตัวนี้ ใกล้เคียงกับคำว่ากระชากมากในยามที่ต้องการพละกำลังเพื่อส่งต่อไปที่รถในการเร่งแซงบนท้องถนน
เผลอแพลบเดียว คุณจะเห็นตัวเลขความเร็วระดับ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ไมล์ดิจิตอลของคุณแบบไม่ยากเย็น ในขณะที่ตัวรถก็ยังล่องผ่านไปเรื่อย ๆ แบบไม่เหนื่อย ไม่เดือดร้อนอะไร จนเมื่อเริ่มรู้สึกตัวก็จะเริ่มปล่อยคันเร่งชะลอความเร็วลงมาเอง เมื่อคันที่กดตามเมื่อสักครู่หายไปจากกระจกหลัง
การเก็บเสียงของรถนั้นทำได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งในส่วนของเสียงลมปะทะและเสียงจากเครื่องยนต์ก็ล้วนแล้วแต่ถูกตัดทอนออกไปจนเกือบหมด ที่ความเร็วสูงอาจจะมีเล็ดรอดเข้ามาได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายจนก่อให้เกิดความรำคาญหรือกลบเสียงเพลงแต่อย่างใด
ออกจากถนนหลวงก็เข้าสู่ช่วงของการทดสอบพวงมาลัยและช่วงล่าง เมื่อทีมงานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เซตเส้นทางวิ่งพาเราสู่ทางขึ้นเขาแบบเลนสวนเลน แถมยังเป็นเลนขนาดพอดีกับ ที่บางช่วงของถนนนั้น ฝั่งขวาเป็นเหวขนาดใหญ่ที่พลาดนิดเดียวก็ลงไปนอนก้นเหวแน่นอน
ระบบบังคับเลี้ยวของอี-คลาสมีความกระชับและคล่องตัวเป็นอย่างมาก วงเลี้ยวที่แม่นยำทำให้รถผ่านถนนและเส้นทางคดเคี้ยวไปได้ไม่ยาก ขณะที่ตัวรถเองก็ไม่ได้โยนตัวอะไรมากมาย เรียกว่าผ่านเส้นทางขึ้นลงเขามาได้แบบไม่เวียนหัวก็ถือว่าใช้ได้เลย
ภายในห้องโดยสารตอนหน้านั้นให้ความสะดวกสบายและอุปกรณ์มากมายที่ใส่เข้ามาเต็มที่อยู่แล้ว ต้องมาดูว่าพอมาถึงเมืองไทยจะเหลืออยู่สักกี่ระบบ ส่วนด้านหลังนั้นมีพื้นที่วางขาที่เพียงพอ ตำแหน่งการนั่งของเบาะนั้นดูสบายและโอ่อ่าเอาเรื่อง
สรุปกันอีกรอบก่อนเปลี่ยนมือให้บัดดี้ได้ลองขับตามสไตล์ของเขาบ้าง เราเชื่อว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ใหม่จะเข้ามาทำให้การแข่งขันของตลาดรถยนต์หรูหราขนาดกลางสนุกสนานมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ใส่เข้ามา ต้องเรียกว่าเหนือชั้นกว่ารถที่ทำตลาดอยู่หลายรุ่น
การตอบสนองของเครื่องยนต์ดีเซลที่ถือว่าแมตช์กันลงตัวกับบอดี้ของรถ ระบบการควบคุมรถที่ให้ความแม่นยำและมั่นใจได้ ความสะดวกสบายของตัวรถที่ทำได้ตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยรวมแล้วถือว่าเป็นรถที่น่าสนใจคันหนึ่งที่จะเข้าตลาดประเทศไทยในปีนี้
แต่ที่เราอยากได้จริง ๆ ก็คือรุ่นท๊อปอย่างอี400 4เมติก ไม่สนใจเอาเข้ามาทำตลาดให้ลูกค้ากระเป๋าหนักที่ไม่อยากต้องไปแต่งรถเพิ่มขึ้นบ้างหรือ เชื่อว่าลูกค้าค่ายตราดาวหลายรายคงถือเงินรออยู่เหมือนกัน
เอาเป็นว่าเดี๋ยวพอรายละเอียดของรถในมอเตอร์โชว์เปิดออกมา ค่อยมาดูกันอีกทีว่าระบบไหนที่ประเทศไทยได้ใช้งาน และระบบไหนบ้างที่หายไปจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ใหม่ ไว้มาสรุปกันอีกรอบนะครับ!!!
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
LINE
ความคิดเห็น