[Test Ride] Royal Enfield Continental GT: หล่อคาเฟ่ เท่จากโรงงาน สั่นสะท้านทรวง

รอยัล เอ็นฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที คาเฟ่ขนานแท้จากโรงงานโดยกำเนิดไม่ต้องโมดิฟายเพิ่ม คือจุดขายของรถคลาสสิคหล่อแบรนด์อังกฤษผลิตที่อินเดียคันนี้ เราเคยบินข้ามฟ้าไปหาและขี่เล่นที่กัวประเทศอินเดียในงาน ไรเดอร์ มาเนีย 2016 มาแล้ว

ยอมรับว่าการลองขี่ที่อินเดียเราบอกอะไรได้ไม่มากด้วยสภาพถนน การจราจร และการใช้รถใช้ถนนของคนอินเดียที่เราแสนจะปวดเศียรเวียนเฮด พอดีมีโอกาสได้ร่วมทริปกับชาว รอยัล เอ็นฟิลด์ ในไทย ขี่ยาวๆ ออกต่างจังหวัดเลยต้องจัดรีวิวมาซะหน่อย

คลาสสิคไฟกลม หล่อง่ายๆ ไม่ต้องยุ่งยาก

รถคลาสสิคสไตล์ต้องใช้ไฟหน้ากลม มองแวบแรก รอยัล เอ็นฟิลด์ เหมือนพาเราย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ในยุคที่รถจักรยานยนต์คือรถจักรยานยนต์มีแต่ส่วนควบและอุปกรณ์ที่จำเป็นแต่ทว่ายังแอบแฝงความโมเดิร์นเอาไว้

รอยัล เอ็นฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที มีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แบบไม่มีใครเหมือนหรืออาจเพราะยังไม่มีใครลอก ด้วยความที่ก่อนหน้านี้เฟื่องฟูในอินเดียมากจนเพิ่งออกมาเซย์ฮัลโหลประชากรโลกเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ตามแผนการสร้างความรู้จักและขยายตลาดให้กว้างยิ่งขึ้น

แฮนด์ของรถเป็นแบบแฮนด์ขับโช้คมาให้จากโรงงาน เรือนไมล์คู่แบบอนาล็อคซ่อนกรอบดิจิตอลแจ้งระยะทริปและระดับน้ำมันคงเหลือถังน้ำมันยาวเปรียวเบาะนั่งตอนเดียวมีตูดมดสวยๆ ติดมาให้ซึ่งคุณซื้อเบาะที่ศูนย์เปลี่ยนสำหรับซ้อนสองหรือเท่กว่านี้ก็ยังมี

สัญญาณไฟและไฟส่องสว่างเป็นแบบฮาโลเจน โดยที่ประกับแฮนด์ด้านขวาจะมีสวิทช์สำหรับ เปิด-ปิด ไฟหน้าพร้อมด้วยไฟหรี่และสวิทช์สตาร์ทเครื่องยนต์แต่ก็ยังมีคันสตาร์ทติดมาให้ที่ด้านซ้ายของตัวรถ และที่ท้ายรถด้านซ้ายยังมีห่วงสำหรับใส่ของแต่งเข้ามา

สูบเดี่ยวสายชิลล์สุดสะท้าน

คอนติเนนทัล จีที ใช้เครื่องยนต์แบบสูบเดี่ยวหัวฉีด 535 ซีซี 29.1 แรงม้า แรงบิด 44 นิวตันเมตร เกียร์ 5 สปีด ที่มีอัตราเร่งที่ดี แต่ก็มีการทำงานของเครื่องยนต์สุดสะท้านและเป็นรุ่นที่มีแรงสะท้านสะเทือนมากที่สุดในรถทั้ง 3 รุ่นที่มีขายในไทย ณ ปัจจุบัน

ความเร็วสูงสุดของรถเท่าที่เราพอจะทำได้นั้นอยู่ที่ 140 กม./ชม. แต่ความเร็วสูงสุดที่ไม่รู้สึกว่าเค้นรถมากเกินไปหรือคนขี่เหนื่อยสู้มากเกินไปอยู่แค่ 120กม./ชม. เพราะหลังจาก 120กม./ชม. ขึ้นไปกว่าจะรีดขึ้นมาได้นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเลยทีเดียว

แรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ทำให้กระจกมองหลังของตัวรถแทบจะไร้ความหมายเพราะสั่นจนบอกอะไรไม่รู้เรื่องนอกจากเห็นไฟหน้าของรถคันที่ตามมาลางๆ ทุกอย่างพร่ามัวไปหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าบรรดาคันที่เปลี่ยนกระจกแต่งกระจกปลายแฮนด์มาจะดีขึ้นไหม างที่ดีระมัดระวังหันหลังเช็คสักหน่อยดีกว่า

เราพยายามจับอัตราสั่นสะท้านของเครื่องยนต์พบว่าตัวรถจะมีอาการสั่นหนักๆ ในรอบต่ำกว่า 2000 และ เลย 3000 กว่าขึ้นไป ช่วง 2000 รอบถึง 2000 กลางๆ อาการสั่นลดลงมาในแบบนุ่มๆ ขี่ง่ายๆ ชิลล์ๆ ส่วนที่ 3000 รอบต่อนาทีถึง 3000 นิดๆ ก็จะให้ความรู้สึกที่ตึงมือกว่าหากขี่เลยช่วง 2000 รอบต่อนาทีกลางๆ ขึ้นไปเครื่องยนต์จะกลับมาสั่นสะท้านจนต้องดันให้ถึง 3000 รอบต่อนาที

สำหรับนักเดินทางอาจไม่ชอบนักด้วยอาการสั่นสะท้านที่อาจทำให้เหนื่อยโดยไม่จำเป็นแต่เราว่าก็เป็นรถที่ใช้ขี่สนุก เดินทางสบายๆ ชิลล์ๆ ไม่รีบไม่ร้อนได้อยู่เหมือนกันแล้วยิ่งถ้าชิบกับเครื่องรอบแล้วเราก้จะหาวิธีหลบอาการสั่นของเครื่องยนต์ได้เอง

เคเฟ่จีที ไม่ได้มีดีแค่หล่อ

ถังน้ำมันทรงคลาสสิคดูเหมือนจะลำบากในการหนีบเพื่อโยกย้ายตัวรถ แต่ก็ไม่มากถึงขนาดนั้นเพราะเรายังโยกย้ายตัวรถได้คล่องตัวและใช้พละกำลังไม่มากในการบังคับให้รถล่อนไปตามโค้งหรือในการโยกหลบรถคันหน้า

แม้จะเป็นรถคลาสสิคคาเฟ่เหมือนเอาไว้ขี่หล่อเฉยๆ แต่ก็ทำให้เราสนุกได้ตอนที่ต้องไล่ขบวนให้ทันในเส้นเลียบชายหาดมุ่งหน้าคลองโคนมีโค้งกว้างๆ ให้ขยับแก้เมื่อย มีทางตรงยาวๆ ให้หมอบ เบรก พับ แม้จะไม่ได้มีพละกำลังในการออกจากโค้งอย่างรวดเร็วแต่ก็ทำให้คุณเพลินได้ประมาณหนึ่ง

อย่าเพิ่งหวังว่าด้วยเครื่องยนต์ 500 ซีซีกับสไตล์ที่ดูสปอร์ตจะทำให้เจ้านี่ซิ่งซ่าได้แบบรถญี่ปุ่น 500 ซีซี นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ในการสร้างรถคันนี้ขึ้นมา แต่เราเชื่อว่าคุณจะปลอดภัยและมีความสุขหากคุณรู้ตัวว่านี่คือสไตล์ที่ตอบโจทย์คุณมากกว่าเล่นรถที่อยู่ในกระแสหลัก

คอนติเนนทัล จีที คันที่เราขี่เป็นรุ่นมาตรฐานจากโรงงานไม่ได้ใส่อะไรเสริมเพิ่มเราจึงแอบรู้สึกถึงความต่างจากคันที่เราเคยไปขี่ที่อินเดียอย่างเสียงของท่อไอเสียที่คันที่อินเดียจะสนั่นลั่นทุ่งกว่า เปลี่ยนท่อสักหน่อยน่าจะเพิ่มอรรถรสในการขี่ขึ้นอีกมากเพราะท่อเดิมเพื่อให้ผ่านมาตรฐานประเทศไทยนั่นเงียบเชียบเหลือเกิน

เบรกแบรนด์ดัง ช่วงล่างยังแน่นหนึบ

หลายคนเบือนหน้าหนี รอยัล เอ็นฟิลด์ เพียงเพราะเป็นรถที่ผลิตในประเทศอินเดีย ทั้งๆ ที่มาตรฐานและประสิทธิภาพของงานผลิตก็จากที่เราปเห็นมาด้วยตัวเองนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าโรงงานของแบรนด์ใดบนโลกใบนี้ ยางที่ติดรถมาก็ยังเป็นพีเรลลี่ สปอร์ต เดมอน

ออพชั่นของ รอยัล เอ็นฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที เองก็ถือว่าทำได้ดีแฝงความเป็นคาเฟ่เรเซอร์สปอร์ตๆ ด้วยระบบเบรกชั้นดีจากเบรมโบ้ประกบจานเบรก 300 มม. ด้านหลังเองก็เป็นดิสก์เบรกประกบด้วยบายบรี แต่ต้องขอติเรื่องที่ดันไม่ให้ระบบเบรกเอบีเอสมาให้แต่นั้นก็ทำให้ คอนติเนนทัล จีที มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและตรงตามนโยบายของบริษัทมากที่สุด

รอยัล เอ็นฟิลด์ เชื่อในความรู้สึกของการได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่บริสุทธิ์หรือการขับขี่รถจักรยานยนต์แท้ๆ "Pure Motorcycle" ไม่มีออพชั่นใดๆ แบบรถสมัยใหม่อย่างระบบหัวฉีดเองก็จำเป็นต้องมีเพื่อนให้ผ่านมาตรฐานไอเสียในหลายๆ ประเทศ และระบบเบรกเอบีเอสเองก็จำเป็นต้องมีในโซนยุโรปเพื่อให้ผ่านมาตรฐานรถจักรยานยนต์ในโซนนั้น

ด้านช่วงล่างของรถเราว่าสู้กับถนนเมืองไทยได้แบบสบายๆ โช้คหน้าเทเลสโคปิคเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มม. ระยะยุบ 110 มม.โช้คหลังคู่แบบแก๊สระยะยุบ 80 มม. ปรับค่าพรีโหลดได้ ไม่ได้ให้ความรู้สึกแข็งกระด้างหรือย้วย แต่ให้ความรู้สึกที่หนึบแน่นแบบไม่ต้องมาหัวเสียคอยเบรกจนตัวโก่งเวลาที่ขี่แล้วเจอหลุมเจอเนิน

สำหรับอัตราความประหยัดเราใช้งานมาระยะทาง 226 กม. ด้วยความจุน้ำมันเต็มถัง 13.5 ลิตร ก่อนที่จะถึงที่พักตอนค่ำเกจน้ำมันแจ้งว่าเหลือ 2 ขีด แต่พอเช้ามาก็กลับเป็นว่าเกจน้ำมันกระพริบซะอย่างนั้นถ้ามองแบบเซฟๆ แล้ว 1 ถัง 250 กม. น่าจะเหลือๆ เลยล่ะ

หากถามถึงความน่าใช้ของ รอยัล เอ็นฟิลด์ ไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตามเราว่าลองถามใจตัวเองดูก่อนว่าใช่ทางของคุณรึเปล่า เพราะถ้านี่คือทางที่ใช่คุณก็จะมีคำตอบที่ไม่ต้องถามใครในใจอยู่แล้วและก็ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของใครเพราะถามถึงจุดประสงค์ในการสร้างรถคันนี้ขึ้นมา เราว่าเข้านี่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเลยทีเดียว

แม้ท้ายที่สุดคนไทยที่ดูรถที่ซีซีก็จะบอกว่ารถ 500 ซีซีอะไรทำไมขี่ได้แค่ 120 กม./ชม. ทำไมสั่นเป็นเจ้าเข้า ทำไมมีอัตราเร่งได้แค่นี้ นู่นี่นั่นไม่คุ้มเงินเลย ทำไมไม่ซื้อรถยุ่น ทำไมไม่เอารุ่นนั้น ทำไมไม่เอารุ่นนี้ คนที่เขาชอบทางนี้ก็มีเยอะนะจากที่เราได้สัมผัสกลุ่มลูกค้ามาก็กล้าบอกเลยว่าลูกค้า รอยัล เอ็นฟิลด์ น้อยคนนักที่จะมีรถจักรยานยนต์แค่คันเดียว

รายละเอียดทางเทคนิค 2016 รอยัล เอ็นฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที

ขอขอบคุณ บริษัท เจเนอรัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด

ขอบคุณภาพจาก นิตยสารโมโตครอส

บททดสอบโดย: Ken [Warodom C.] 

อ่านข่าววงการมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด คลิกที่นี่