ในงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ 2017 นั้น SAIC Motor ได้แสดงศักยภาพแบรนด์รถยนต์เบอร์ 1 ของประเทศจีน ด้วยการยึดฮอลล์ 1 ทั้งฮอลล์สำหรับการจัดแสดงรถยนต์ในเครือและพันธมิตรทุกแบรนด์อย่างพร้อมหน้า
นั่นก็หมายถึงฮอลล์แรกของงานแสดงรถยนต์ชั้นนำจะไม่มีรถยี่ห้ออื่นมาจอดเกะกะกวนใจ จะมีก็เพียงแต่เอ็มจี, โรวี่, แม็กซัส และแบรนด์พันธมิตรอย่างเชฟโรเลต, โฟล์กสวาเกน, สโกด้า และหวู่หลิง มาแสดงสินค้าใหม่กันอย่างคับคั่ง
แน่นอนว่าพระเอกของงานก็คือรถที่เรายกพื้นที่ให้ไปแล้วอย่าง เอ็มจี อี-โมชั่น คอนเซปต์ รถสปอร์ตที่พยายามฟื้นตำนานรถแข่งสุดอลังการของแบรนด์ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งก็เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาสื่อมวลชนที่เข้าชมงานวันแรกกันพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ไฮไลท์ในงานไม่ได้หมดแต่เพียงเท่านั้น เพราะหากจะมองผ่าน ๆ ตาที่น่าสนใจ ก็น่าจะมาจากแบรนด์อย่างแม็กซัสและโรวี่ ซึ่งต่างก็มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่แบบไม่มีใครยอมใครหน้าไหนทั้งสิ้น
ถ้าถามว่าอะไรที่น่าสนใจที่สุดนั้น คำตอบก็คงจะเป็นเจ้าแม็กซัส ดี90 (Maxus D90) รถยนต์พีพีวี 7 ที่นั่งที่เบสบนพื้นฐานของกระบะที60 และแน่นอนว่ารถยนต์ต้นแบบพลังไฟฟ้าอย่าวโรวี่ วิชั่น-อี คอนเซปต์ ก็ดูเท่ดีไม่หยอก
เริ่มกันที่แม็กซัส ที่หลังจากประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งจากการเปิดตัวรถปิกอัพหน้าตาดุดัน ก็ได้ทำการพัฒนาสินค้าต่อเนื่องให้เหมือนกับผู้ผลิตปิกอัพในตลาดโลก และมาลงตัวที่การพัฒนาพีพีวีบนพื้นฐานปิกอัพแบบที่คนไทยคุ้นชินกันดี
แน่นอนว่าแม็กซัสก็เรียกเจ้ารถคันนี้ว่าเอสยูวีแบบฟูลไซส์ ที่มาพร้อมหน้าตาแข็งแกร่ง บึกบึน กระจังหน้าได้รับการพัฒนาจากระรุ่นปิกอัพที่เป็นซี่แนวตั้ง หันมาใช้โครงกระจังแนวนอนหรือแบบดาวกระจายที่เหมือน ๆ กับเอ็มจีรุ่นใหม่ ๆ
แม้จะมีพื้นฐานมาจากรถปิกอัพ แต่ดี90 ก็ได้รับการออกแบบใหม่ในหลายจุด เพื่อให้ได้รถที่มีความหรูหราเพิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่ทิ้งความบึกบึนดั้งเดิม ได้รถที่หน้าตาออกมาลงตัว กระจังหน้าขนาดใหญ่เข้ากันดีกับกรอบโคมไฟที่ออกแบบมาอย่างเฉียบคม
ด้านหลังของรถนั้นดูเรียบไปสักนิด แต่ก็มาพร้อมท่อคู่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ห้องโดยสารภายในกระเถิบไปอีกมิติจากปิกอัพด้วยการติดตั้งจอแสดงผล 12.3 นิ้วที่ตรงกลางคอนโซลหน้าสำหรับระบบเอนเตอร์เทนเมนต์และการควบคุมระบบภายในตัวรถ
พื้นที่ห้องโดยสารภายในดูโอ่อ่ากว้างขวาง ซึ่งต้องบอกว่าตอนที่เป็นที60 นั้น ห้องโดยสารหลังก็กว้างกว่าคู่แข่งอยู่แล้ว ทำให้เชื่อใจได้ว่าจะสามารถรักษามาตรฐานเรื่องความกว้างเอาไว้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างที่บอกเอาไว้ตอนทดสอบว่าเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตรเทอร์โบอาจจะดูอืดไปสักเล็กน้อยสำหรับปิกอัพ แน่นอนว่าพอมาอยู่ในพีพีวีที่หนักกว่าเดิมก็น่าจะไม่แตกต่าง แต่ที่จีนขับรถกันไม่เร็วมากอยู่แล้ว ก็น่าจะเป็นรถที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่งหากจะเข้ามาทำตลาดไทยในอนาคต
ส่วนอีกคันที่บูธโรวี่ รถยนต์ต้นแบบโรวี่ วิชั่น-อี มาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่พร้อมจะพัฒนาออกมาเป็นคันจริงได้ในอนาคตอันใกล้ แถมโรวี่เองนั้นเป็นหนึ่งในผู้นำของรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว ด้วยการมีสินค้าหลายรุ่น ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะมีเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงตามมาภายใน 1 ปีนี้
กระจังหน้าแบบร่วมสมัยถูกพัฒนามาสำหรับรถต้นแบบคันนี้ กรอบโคมไฟหน้าก็ไม่ได้ดูยากเย็นเกินไป แต่ที่น่าสนใจก็คือกรอบโคมไฟหลังที่พัฒนามาอย่างเฉียบหรู และยังไม่เคยเห็นมาก่อนจากบรรดารถรุ่นต่าง ๆ ของเอสเอไอซี
ประตูเปิดแบบตู้กับข้าว ดูจากโครงสร้างแล้วสามารถทำได้ แต่ต้นทุนของการออกแบบโครงรถให้ไม่มีเสาบีคงแพงขึ้นพอสมควร ไม่รู้ว่าพอเอาเข้าจริง ๆ โรวี่จะยังเก็บประตูเปิดแบบนี้เอาไว้ในรถที่ทำการผลิตจริงหรือเปล่า หรือจะประหยัดด้วยประตูแบบธรรมดาก็ได้เหมือนกัน
ห้องโดยสารมาพร้อมพวงมาลัยทรงสี่เหลี่ยมแบบ 2 ก้าน จอแสดงผลตรงกลางขนาดใหญ่ที่ทำให้เราคาดการณ์ได้ว่าการสั่งงานทั้งหมดของรถคันนี้น่าจะเป็นระบบสัมผัสแบบเต็มรูปแบบ และแน่นอนว่ารถคันนี้มาพร้อมกับระบบไฟฟ้าแบบเต็มคัน
รายละเอียดไม่มีแสดงให้เห็น แต่บอกว่าเมื่อชาร์ตเต็มจะวิ่งได้ 500 กิโลเมตรสบาย ๆ พร้อมใช้เวลาน้อยกว่า 4 วินาทีในการวิ่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่สำคัญก็คือการติดตั้งระบบชาร์ตเร็วพิเศษ ที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 80% ภายในเวลา 15 นาทีเท่านั้น
ใครที่สนใจรถยนต์พวกนี้ ร้องเพลงรอเวลาที่เหมาะสมสำหรับตลาดประเทศไทยกันได้เลย!!!
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่และรถมือสอง ตรวจสอบราคา เชิญที่นี่
ความคิดเห็น