Autospinn ได้รับการเชื้อเชิญจาก SAIC Motors บริษัทแม่ของแบรนด์รถยนต์ MG และ Maxus ในปรเะเทศไทย ให้ร่วมเดินทางมาที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
เจาะหัวใจ SAIC Motors
Autospinn.com ได้รับการเชื้อเชิญจาก SAIC Motors บริษัทแม่ของแบรนด์รถยนต์ MG และ Maxus ในปรเะเทศไทย ให้ร่วมเดินทางมาที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อร่วมกิจกรรมมากมายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับการจัดงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2560 นี้
นอกเหนือไปจากการเข้าร่วมการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของเอ็มจีและแม็กซัสในงานแล้ว เรายังมีโอกาสที่จะได้ทดลองขับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่กำลังจะเข้ามาเปิดตัวในตลาดประเทศไทย รวมถึงได้มาเยี่ยมเยียนศูนย์วิจัย พัฒนาและออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ของเอ็มจีไปตลอดทริป
เอ็มจีและแม็กซัสอาจจะเป็นแบรนด์รถยนต์น้องใหม่ในประเทศไทย แต่ในตลาดจีนแล้ว เอสเอไอซีถือเป็นผู้เล่นเบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์แห่งนี้ ด้วยยอดขายและการร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ส่งผลให้ค่ายรถแห่งนี้แข็งแกร่งและเริ่มเดินหน้าบุกตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ประเทศไทยเองก็เป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่สำคัญของเอสไอเซี ด้วยการที่ค่ายยักษ์ใหญ่แห่งนี้ร่วมมือกับซีพีในการก่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาของเอสเอไอซี มอเตอร์ ต่อไปในอนาคต
เราจับเครื่องบินเป็นเวลา 4 ชั่วโมงครึ่งมาลงที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ ปู่ตง แล้วนั่งรถเอ็มพีวีแม็กซ้ส จี10 ที่กำลังจะเปิดตัวในไทยในฐานะเอ็มจีรุ่นใหม่อีก 1 ชั่วโมง เพื่อมานอนโรงแรมข้าง ๆ ศูนย์อาร์แอนด์ดีใหญ่ของเอสเอไอซีที่เซี่ยงไฮ้ ที่ใกล้กันระดับขับรถ 5 นาทีก็ไปถึงแล้ว
แอบแวบมาว่าด้วยเรื่องจี10 กันหนึ่งพารากราฟ ดูจากการออกแบบพื้นที่ภายในแล้วกว้างขวางนั่งสบาย เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรดูปรู๊ดปร๊าดเอาเรื่อง แถมระบบแอร์ก็เย็นสบาย เดี๋ยวขอทดลองขับในสนามอีกครั้ง น่าจะจับความรู้สึกมาเปรียบเทียบกับเจ้าตลาดได้ง่ายขึ้น
ศูนย์วิจัยและพัฒนาของเอสเอไอซีที่เซี่ยงไฮ้นี่ถือเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาสินค้าของกลุ่มในปัจจุบัน หากไม่นับเงินลงทุนมหาศาลแล้ว ศูนย์วิจัยแห่งนี้ประกอบไปด้วยวิศวกรกว่า 2,800 คน พร้อมด้วยนักวิจัยอีก 550 คน ที่ทำหน้าที่ในการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่
ทีมงานของเอสเอไอซีพาเราเดินชมเครื่องมือและอุปกรณ์ในการค้นคว้าและวิจัยหลายจุด โดยมีไฮไลท์หลักที่การโชว์ตัวของเอ็มจี ซีเอส (MG ZS) ที่เปิดตัวไปล่าสุด และแฟน ๆ ชาวไทยจะได้สัมผัสกันอย่างแน่นอนในช่วงปลายปีนี้ โดยจะเป็นรุ่นพวงมาลัยขวาที่ผลิตในประเทศไทย
แม้จะเดินเล่นในโรงงานและศูนย์อาร์แอนด์ดีของค่ายรถมานับไม่ถ้วนในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องบอกว่าการมาเยือนเอสเอไอซีในครั้งนี้ก็ถือว่าสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผมไม่น้อย เพราะนี่คือการรวมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการวิจัยและตรวจสอบมาอยู่ร่วมกันอย่างมากมาย
เทคโนโลยีที่เรารู้จักกันดีไม่ว่าจะเรื่องการตรวจสอบเครื่องยนต์ อุโมงค์ลม การทดสอบการชน หรือเทคโนโลยีใหม่กว่านั้น เช่น เทคโนโลยีการทดสอบทางด้านเสียงหรือซิมูเลเตอร์ ล้วนแบล้วแต่ได้รับการติดตั้งและใช้งานอย่างจริงจังในศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้
เริ่มทัวร์กันที่เทคโนโลยีซิมูเลเตอร์สำหรับการจำลองสภาพการขับขี่บนท้องถนน ทั้งเรื่องของการทดสอบระบบป้องกันการชนด้านหน้า ระบบการเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ทั้งหมดนี้สามารถทำการทดสอได้อย่างปลอดภัยด้วยรถยนต์ที่ติดตั้งระบบต่าง ๆ ในห้องซิมูเลเตอร์จำลองการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ
ต่อกันที่ห้องทดสอบการชน ซึ่งมีความหลากหลายในการทดสอบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการชนแบบเต็มคน การทดลองระบบที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนทั้งหมด ที่สามารถทดสอบได้ถึงการกลิ้งของรถในยามเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถือว่าครบครันและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง
นอกจากนี้ ในด้านการทดสอบการชนยังมีการทดสอบการชนคนเดินถนน ซึ่งสมมติสถานการณ์ของการที่รถจะชนกับคนเดินถนน และจับรายละเอียดทั้งหมดด้วยกล้องความเร็วสูง เพื่อนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ให้ได้ความปลอดภัยสำหรับคนเดินถนนที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป
เอสเอไอซีเพิ่งลงทุนในการก่อสร้างอุโมงค์ลม ซึ่งนอกเหนือจะทดสอบในเรื่องของแอร์โรไดนามิกได้แล้ว อุโมงค์ลมแห่งนี้ยังสามารถจำลองสภาพอากาศที่แตกต่างกันได้จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้สามารถทดสอบความทนทานของรถยนต์ที่ทำการผลิตใหม่ภายใต้สภาวะที่แตกต่างกันมากมาก
ทีมงานระบุว่าภายใน 1 วัน ห้องทดลองนี้สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -40 องศาเซสเซียสไปถึง 60 องศาเซลเซียส ที่ความชื้นสัมพัทธ์ 5-95% นั่นก็หมายความว่าเจ้าอุโมงค์แห่งนี้สามารถจำลองสภาพอากาศได้ทุกแบบ รวมถึงทำการทดสอบอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ความสามารถของระบบปรับอากาศได้เช่นกัน
นอกจากนี้ เรายังได้มีโอกาสเดินเล่นในห้องทดสอบคุณภาพของเสียงที่ได้รับการออกแบบอย่างดีเยี่ยม โดยมีทั้งการทดสอบเสียงภายนอกและเสียงภายในรถยนต์ ซึ่งเอสเอไอจียืนยันว่านี่คือห้องทดลองด้านเสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน
ในช่วงบ่ายเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์นั่งของแบรนด์รถยนต์ในเครือเอสเอไอซี ที่ผลิตรถยนต์หลักอยู่ 2 ยี่ห้อ ได้แก่ เอ็มจีและโรวี่ (Roewe) ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตหลักที่สำคัญสำหรับการทำตลาดทั้งในประเทศจีนและการส่งออกไปทำตลาดทั่วโลก
เอ็มจีนั้นเริ่มทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นที่จะทำตลาดทั่วโลกอย่างเอ็มจี ซีเอส ในประเทศจีนอย่างเป็นทางการ และจะเริ่มทยอยทำการตลาดไปทั่วโลก ขณะที่โรวี่เองนั้นก็เริ่มได้รับความสนใจในหลายตลาด หลังการเปิดตัวอาร์เอ็กซ์5 และอีอาร์เอ็กซ์5 ไปก่อนหน้านี้ไม่นาน
ทั้งนี้ เอสเอไอซีมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีก 5 รุ่น เอสยูวีรุ่นใหม่อีก 9 รุ่น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่กำลังขยายตัว รวมถึงการศึกษาเพื่อเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้พลังงานพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าหรือฟิวเซลล์อีก 10 รุ่นในอนาคตอันใกล้
ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องมีรากฐานอันแข็งแรงมารองรับ และเชื่อว่าการเป็นผู้นำในตลาดประเทศจีนก็จะเป็นแรงผลักดันที่ดีที่จะส่งเอ็มจีและโรวี่ออกสู่ตลาดโลก โดยมีฐานบัญชาการที่เข้มแข็งคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอย่างนี้ไปอีกนานเท่านั้น
พรุ่งนี้เราจะไปทำการทดสอบรถยนต์หลากหลายรุ่นที่สนามทดสอบแห่งใหม่ของเอสเอไอซี งานนี้ต้องบอกว่าทีมงานเตรียมรถยนต์ที่น่าสนใจมาให้ทดสอบเพียบทั้งรถยนต์นั่งและรถยนต์เชิงพาณิชย์ ก่อนที่จะไปร่วมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์กันอีกวันหนึ่ง
มีอะไรน่าสนใจให้ติดตามกันอีกเพียบในทริปนี้ ติดตามกันได้ทุกวันเลย...
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น