บุกสนามทดสอบกว่างเต๋อ ลองรถหลายรุ่น ทั้ง MG GV, MG ZS, Maxus T60 และ Roewe RX5 จากการเชื้อเชิญของ SAIC Motor ให้ร่วมเดินทางเข้าร่วมการทดสอบรถยนต์
SAIC Motor เชิญ Autospinn บุกสนามทดสอบกว่างเต๋อ
อย่างที่ทราบกันดีกว่า Autospinn ได้รับการเชื้อเชิญจาก SAIC Motor ให้ร่วมเดินทางมาที่เซี่ยงไฮ้ โดยที่หนึ่งในโปรแกรมสำคัญก็คือการเข้าร่วมการทดสอบรถยนต์หลากหลายยี่ห้อในหลากสถานีทดสอบที่สถานีทดสอบรถยนต์กว่างเต๋อ ซึ่งเป็นการร่วมทุนของเอสเอไอซีและจีเอ็ม
เมื่อวานนี้เราได้พาทุกท่านไปบุกเจาะหัวใจของการพัฒนารถยนต์ของเอ็มจีและแบรนด์อื่น ๆ ในเครือ ด้วยการพาชมศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ของเอสเอไอซีที่ตั้งอยู่ที่ชานเมืองเซี่ยงไฮ้ ก่อนที่วันนี้จะพามาที่สนามทดสอบกว่างเต๋อแห่งนี้
ด้วยชื่อชั้นของการเป็นสนามทดสอบยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียในปัจจุบัน กว่างเต๋อมีสถานีทดสอบที่สำคัญ 8 สถานี รวมไปถึงสนามรูปวงรี 4 เลน ที่รองรับการทดสอบความเร็วได้ถึง 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยความยาวรอบสนามกว่า 9 กิโลเมตร รองรับการทดสอบรถยนต์ได้ทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งน่าตื่นตามากมายที่เห็นได้ในสนามแห่งนี้ โดยเฉพาะสะพานสูงที่มีความสูงมากกว่าตึก 10 ชั้น ถูกสร้างเพื่อรองรับการทดสอบในพื้นที่ของศูนย์ทดสอบแห่งนี้ ที่มีพื้นที่มหาศาลถึง 5.67 ตารางกิโลเมตรต และมีเส้นทางวิ่งทดสอบรวมยาวกว่า 60 กิโลเมตร
แน่นอนครับว่าเมื่อเป็นการทดสอบรถยนต์ในบ้านของตัวเอง เอสไอเอซีก็เลยเตรียมรถกันมาแบบเต็มพิกัดไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เอ็มจี (MG) แม็กซัส (Maxus) หรือแม้แต่โรวี่ (Roewe) ก็มีมาให้เห็น จะได้ทดสอบคันไหนที่สถานีไหนก็มาว่ากันไปตามที่มีการวางไว้อีกที
หลัก ๆ เลยเราจะได้ทดสอบรถยนต์กันใน 4 สเตชั่น กรุ๊ปซีของพวกเราที่ประกอบไปด้วยนักข่าวไทยและมาเลเซีย เริ่มต้นกันที่สเตชั่นการทดสอบการวิ่งบนพื้นผิวที่แตกต่าง โดยมีรถยนต์ทดสอบไฮไลท์ก็คือแม็กซัส จี10 ที่กำลังจะแปลงร่างเป็นเอ็มจี จีวี เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยในอีกไม่นานนี้
สนามทดสอบที่ทำความเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในทางตรง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในทางโค้ง และมีพื้นถนนหลากหลายแบบให้เลือกทดลองได้ตามความต้องการ ทำให้เราได้รู้สึกถึงความรู้สึกของรถได้ระดับหนึ่ง แม้จะเป็นการขับเพียง 1 รอบก็ตาม
รูปร่างหน้าตาไม่ได้แตกต่างจากรถตู้กึ่งแวนที่จำหน่ายอยู่ในประเทศไทย แต่เน้นความเฉียบคมของไฟหน้า ไฟท้ายและเส้นสายรอบคันมากขึ้น รุ่นที่ทดสอบมาพร้อมประตูแบบไฟฟ้า 2 ด้านและเบาะที่นั่งแบบ 3 ตอน 7 ที่นั่ง ที่ให้ความหรูหราไม่น้อย แถมยังมีแผงคอนโซลหน้าที่น่าสนใจเอาเรื่อง
หลังคากระจกแบบพาโนรามิกลากยาวไปตลอดทั้งคันรถแบ่งเป็น 3 ตอน พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางระดับที่ติดเบาะเพิ่มอีกแถวให้เป็น 11 ที่นั่งก็ยังดูจะมีพื้นที่เหลือมากกว่าเจ้าตลาด ตำแหน่งการก้าวขึ้นรถไม่สูงเกินไป ผู้หลักผู้ใหญ่พอก้าวขึ้นได้แบบไม่ติดขัด
เครื่องยนต์ในรุ่นทดสอบเป็นรุ่น 2.0 เบนซิน เทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 225 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 345 นิวตันเมตร ให้การตอบสนองที่ไม่ปรู๊ดปร๊าดมาก แต่ไม่ใช่ประเด็น เพราะรุ่นที่จะจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 1.9 ลิตร ที่จะมาพร้อม 150 แรงม้าและ 350 นิวตันเมตร
การทรงตัวของรถทำได้ค่อนข้างนิ่ง การเข้าโค้งที่ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไม่ใช่ปัญหาในการควบคุม ขณะที่ช่วงล่างซับแรงสั่นสะเทือนไว้ค่อนข้างดี แม้ในที่นั่งเบาะด้านหลังสุด ยกเว้นเมื่อผ่านพื้นถนนแบบทางพัง ก็จะยังมีอาการสั่นสะเทือนให้ได้รับรู้อยู่บ้างตามปกติ
ทั้งหมดทั้งปวงรอไปเปิดตัวในประเทศไทยอีกรอบก่อนค่อยมาว่ากันเต็ม ๆ ขณะที่ในสนามนี้ เราได้ทำการทดสอบเอสยูวีรุ่นเทพอย่างโรวี่ อาร์เอ็กซ์5 และอีอาร์เอ็กซ์5 ซึ่งขายดิบขายดีในตลาดจีน และเราก็คิดว่าน่าจะขายดีเหมือนกันหากเอ็มจีตัดสินใจนำเข้ามาทำตลาด
ในรุ่นมาตรฐานเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ และรุ่นอีเป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรที่เสริมกำลังด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริด การตกแต่งภายในแตกต่างกันพอสมควร เพราะรุ่นไฮบริดมาพร้อมจอแสดงผลและจอควบคุมที่ใหญ่กว่า แต่ทั้ง 2 รุ่นก็เน้นความทันสมัยไม่แพ้กัน
ถือเป็นรถที่น่าสนใจในเรื่องการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่มาอย่างรวดเร็วทันใจ ช่วงล่างนุ่มสบายแต่กระชับ ไม่โยนตัวมากจนเกินไปเมื่อเข้าโค้งหรือวิ่งผ่านทางขรุขระ ขณะที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางโอ่อ่า และมีการตกแต่งที่สวยงามดูล้ำสมัยทั้ง 2 รุ่น
เรายังมีโอกาสได้ลองขับเจ้าแม็กซัส ที60 รถปิกอัพจากแม็กซัสที่มาพร้อมหน้าตาแข็งแกร่งบึกบึน อุปกรณ์ออพชั่นภายในที่จัดเต็มมาให้ และมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตรเทอร์โบ ที่เดาว่าน่าจะหยิบยืมมาจากพันธมิตรเก่าอย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส นั่นเอง
กดคันเร่งไปจะเห็นอาการตื้อ ๆ ของรถอย่างช้า ๆ ส่วนหนึ่งเพราะที60 นั้นมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ใครที่ชอบรถที่เคาะแล้วเสียงแน่น ๆ น่าจะชอบบอดี้ของคันนี้ การตอบสนองของเครื่องยนต์อยู่ในระดับค่อนข้างอืด แม้เกียร์จะทำงานกระฉับกระเฉงก็ไม่ได้ช่วยให้ลากเลื้อยอะไรได้มาก
ช่วงล่างน่าจะพอเป็นุดขายที่ดีสำหรับรถกระบะรุ่นนี้หากเอ็มจีตัดสินใจนำเข้ามาทำตลาดในไทย การเข้าโค้งเลาะไปที่ความเร็วปานกลางทำได้ไม่มีที่ติ แต่หากจะเข้ามาทำตลาดจริง น่าจะต้องพิจารณาเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ให้ดูปรื๊ดปร๊าดขึ้นกว่านี้อีกสักนิดน่าจะเป็นเรื่องดี
แอบแวบไปขับโรวี่ ไอ6 รถยนต์ซีดานหน้าตาปราดเปรียว ที่แม้จะไม่ได้เน้นความหรูหรา แต่ให้เครื่องยนต์และช่วงล่างที่เฉียบคม การตอบสนองต่อการกดคันเร่งเรียกว่ามาตลอดและต่อเนื่อง จนต้องบอกทีมงานว่า เอาคันนี้ไปขายเมืองไทยไหม ขาซิ่งปรู๊ดปร๊าดน่าจะชอบอยู่
ส่วนพระเอกของทริปนี้ที่เตรียมตัวจะเข้าไปร่วมรบในตลาดครอสโอเวอร์ช่วงปลายปีนี้ เอ็มจี ซีเอส นั้นมาพร้อมกับหน้าตาที่โดดเด่น เรียกว่าจับโยนไปบนท้องถนนก็ถือว่าเป็นรถที่สวยคันนึง โดดเด่นด้วยกระจังหน้าลายสวย พร้อมกรอบโคมไฟที่คมกริบเน้นความสง่าสงามไปจนกรอบไฟด้านหลัง
ภายในห้องโดยสารเน้นความกว้างขวาง เข้าไปในตัวรถได้อย่างง่ายดาย พื้นที่ของผู้โดยสารตอนหลังมีให้นั่งพักผ่อนสบายแบบหัวไม่ติดเพดาน ขณะที่ด้านหน้าในส่วนของการขับขี่ให้ความรู้สึกสปอร์ตด้วยอุปกรณ์ตกแต่งและแผงแสดงข้อมูลที่โดดเด่นและใหญ่โต
ยังไม่มีเวลาทดลองฟังชั่นส์อะไรกันมากนักเพราะมีเวลาได้สัมผัสรถน้อยมาก แต่ในสนามทดสอบรูปหยิน-หยาง ที่เน้นการทดสอบการเข้าโค้งและช่วงล่าง ก็พอจับอาการของรถที่น่าสนใจว่าเป็นรถที่ขับสนุกและไม่กลัวโค้งเล็ก-ใหญ่บนท้องถนนอย่างแน่นอน
การเข้าโค้งที่ความเร็ว 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถมีอาการดึงตัวเข้ากับโค้งพอสมควร ในโหมดสปอร์ตให้การตอบสนองของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังและระบบสั่นสะเทือนที่ดีกว่าโหมดธรรมดาชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจสำหรับตลาดนี้ในอนาคต
เอ็มจี ประเทศไทย เตรียมตัวที่จะเปิดตัวรถเอ็มพีวีอย่างจีวีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่วนคิวเปิดตัวซีเอสน่าจะเริ่มต้นช่วงปลายปี เนื่องจากเป็นการเปิดสายการผลิตในไทย งานนี้คงต้องรอลุ้นสเปกและราคาจำหน่ายที่จะเปิดตัวในประเทศไทยอีกครั้ง ว่าน่าสนใจขนาดไหน
พรุ่งนี้ไปเดินงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ ได้ยินว่ามีของเล่นใหม่มาจัดแสดงกันเพียบ รอติดตามกันได้เลย!!!
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น