พาเที่ยวลาวใต้ ส่องน้ำตกลับสุดอันซีน กับ Ford Everest 3.2 บุกป่า ฝ่าน้ำตก สบายหายห่วง Share this

พาเที่ยวลาวใต้ ส่องน้ำตกลับสุดอันซีน กับ Ford Everest 3.2 บุกป่า ฝ่าน้ำตก สบายหายห่วง

Coke Autospinn
โดย Coke Autospinn
โพสต์เมื่อ 26 December 2560

ทดสอบการขับขี่ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.2 ณ สปป.ลาว

Tour drive Ford Everest 3.2 Titanium+ in Laos

เรียกได้ว่าเป็นทริปใหญ่ส่งท้ายปี ก่อนจะหยุดยาวๆ กันเลยทีเดียวสำหรับ Extraordinary Adventure With Ford Everest 3.2 Titanium+ กับเส้นทางสุดสมบุกสมบันภายใน สปป.ลาว ที่มีเส้นทางให้ได้ขับทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ทางหิน ทางดิน ทางฝุ่น รวมไปถึงขับข้ามห้วยน้ำกันเลยทีเดียว

โดยครั้งนี้เราขับกันไปถึง ดินแดนลาวใต้ โดยการเริ่มต้นเดินทางจาก จังหวัดอุบลราชธานี ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก ก่อนมุ่งหน้าไปทำกิจกรรมสุด Adventure หลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกแซปองไล น้ำตกลับที่เพิ่งถูกค้นพบ รวมไปถึงการแคมป์ปิ้งกันในคืนแรก

ส่วนอีก 2 วันที่เหลือก็มีกิจกรรมเด็ดๆ อีกมากมายที่จะมาเล่ากัน รวมไปถึงคลิปสุดพิเศษที่คาราวานได้แวะระหว่างทางกับ หมู่บ้านตะโอย ที่จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับแหล่งปลูกต้นกาแฟ ที่ใหญ่ที่สุด และเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ น้ำตกตาดฟาน สุดสวยงามอีกที่หนึ่ง และสุดท้ายกับ ปราสาทหินวัดพู มรดกโลกอีกแห่งที่สายท่องเที่ยวห้ามพลาดถ้ามา สปป.ลาว อย่ารอช้าไปลุยพร้อมกันดีกว่า

เริ่มต้นออกเดินทางจาก สนามบินอุบลราชธานี โดยคาราวาน Ford Everest 3.2 Titanium+ ในส่วนพื้นที่การขับขี่พื้นผิวถนนของบ้านเรา อาจยังไม่ได้ทดสอบระบบอะไรมากมาย รวมไปถึงการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารที่ยังคงเงียบตามแบบฉบับ

ทันทีที่เดินทางถึงบริเวณพรมแดน ด่านช่องเม็ก สภาพแวดล้อมต่างๆ ระหว่าง สปป.ลาว และประเทศไทยบ้านเรา ก็เริ่มมีความแตกต่างให้เห็นกันไม่ว่าจะเป็นรูปแบบอาคารที่พักอาศัย และที่สำคัญคือพื้นถนนที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ถนนทางดำแบบบ้านเราเริ่มไม่มีให้เห็นส่วนใหญ่จะเป็นถนนเลนสวนที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ เนื่องด้วยการขับขี่ใน ลาว ยังใช้งานรถยนต์พวงมาลัยซ้าย ฉะนั้นต้องมีการปรับตัวกันสักเล็กน้อยเช่นเดียวกัน ตาม 2 ข้างทางงส่วนใหญ่จะเป็นธรรมชาติ ต้นไม้ต่างๆ ที่ค่อนข้างหน้าตา แต่อากาศค่อนข้างแห้งแล้ง แต่ความเป็นมิตรของชาวลาว ต้องบอกเลยว่ายิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ

เดินทางกันต่อมุ่งหน้าสู่เมืองปากเซ แวะรับประทานอาหารเที่ยงกันก่อนเดินทางต่อซึ่งหลังจากนี้ จนถึงจุดหมายปลายทาง จุดตั้งแคมป์บริเวณน้ำตกแซพระ จะเป็นทางออฟโรด และทางฝุ่นแทบจะ 95% กันเลยทีเดียว ระหว่างทางฝั่นจะพบลำห้วยที่เราต้องผ่านไปเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3 ห้วย

แต่ละห้วยก็จะมีความลึกที่แตกต่างกัน สภาพพื้นหินก้อนใหญ่ ที่สามารถเปลี่ยนไลน์ได้เสมอเมื่อรถขับผ่าน ก็จำเป็นต้องมีความระมัดระวัง ระหว่างการขับขี่ผ่านลำห้วยก็ได้ทดสอบระบบการขับขี่ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นทางโหมด โคลน/หิมะ หรือโหมดหิน พระเอกของทริปนี้

โดยระบบจะเปลี่ยนระบบการถ่ายกำลัง เน้นการขับขี่ปีนป่ายข้ามหิน เอาง่ายๆ โหมดนี้ก็เหมือนกับการขับแบบ 4L ที่เราคุ้นเคย ฉะนั้นหากจะใช้งานต้องกด 4x4 Low ก่อนเสมอ หลังจากนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของระบบต่างๆ รวมไปถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง

ด้วยขุมพลังดีเซล Duratorq TCDi VG Turbo แบบ 5 สูบ ขนาด 3.2 ลิตร 200 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 470 นิวตันเมตร แค่เราปล่อยความเร็วแบบวอคกิ้งสปีด หรือไม่ต้องเหยียบคันเร่ง แรงบิดก็ช่วยให้ไต่หินข้ามห้วยได้อย่างสบายๆ แต่จะมีบางจังหวะที่พบหินก้อนใหญ่ ก็เพียงแค่เติมคันเร่งไปเล็กน้อยเท่านั้น

ระบบต่างๆ ก็ช่วยให้ข้ามห้วยได้อย่างง่ายดาย แม้น้ำจะสูงขึ้นมาระดับกระจังหน้า ก็ขับผ่านได้แบบเหลือๆ นอกจากระบบจะช่วยให้ขับขี่ได้ง่ายดายแล้ว ช่วงล่างที่ถูกเซ็ตมาค่อนข้างพอดี ทำให้ตัวถังรถยนต์มีความหนึบ แน่น และแถมนุ่มมาอีกด้วย ก็นับว่าโดยสายค่อนข้างสบาย

ต้องบอกก่อนว่า Ford Everest มีโหมดการขับขี่ให้ใช้งานถึง 4 โหมด ไม่ว่าจะเป็น โหมดทางเรียบ - ที่เน้นการขับขี่บนถนนปรกติ แต่คอมพิวเตอร์ก็ยังช่วยเหลือในการขับขี่ หากพบเจอถนนรูปแบบอื่นๆ ตัวรถยนต์ก็จะปรับเองโดยอัตโนมัติ เหมาะกับผู้ใช้งานที่ไม่ค่อนสันทัดเรื่องโหมดมากมายนัก

โหมดโคลน/หิมะ -  โหมดนี้เน้นการขับขี่บนถนนทีมีพื้นผิวร่วน ลื่น ปกคลุมอยู่ และยังใช้ได้ดีกับ โคลนตื้น หญ้าเปียก และพื้นผิวลื่น , โหมดพื้นทราย - โหมดนี้ระบบถ่ายกำลังจะแตกต่างกับ โหมดโคลน/หิมะ โดยสิ้นเชิง เน้นการขับบนพื้นทราย และโคลนที่เหนียวและลึก และโหมดสุดท้าย โหมดหิน - พระเอกของทริปนี้ ใช้ข้ามห้วย ปีนหินมากที่สุด

เมื่อขับขี่บนทางออฟโรด การเก็บเสียงจึงได้ทดสอบกันอย่างเต็มที่ หากสังเกตุเสียงที่เข้ามาภายในห้องโดยสารต้องยอมรับว่าค่อนข้างเงียบจริง อันนี้อยากให้เพื่อนๆ ทุกท่านลองทดสอบกันด้วยตนเอง

เนื่องจาก Ford เคลมมาว่า เจ้า Everest คันนี้ติดตั้งเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนจากภายนอก (Active Noise Cancellation) ด้วยเหตุผลการพัฒนาที่ว่า ไม่ว่าจะบุฉนวนกันเสียงหนาขนาดไหน เสียงก็สามารถเข้ามาได้อยู่ดี จึงติดตั้งระบบปล่อยคลื่นสัญญาณมาตัดย่านเสียงที่จะรบกวนมนุษย์ได้เข้ามาแทนเลย ก็นับว่าเห็นผลจริงๆ จากการทดสอบเปิด-ปิดกระจก เพื่อฟังเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมและเสียงยางบดถนน

ก่อนถึงจุดหมายคาราวานก็ทำการแวะ น้ำตกแซปองไล น้ำตกแห่งใหม่ที่เพิ่งค้นพบ แม้ช่วงนี้น้ำจะน้อย แต่รับรู้เลยว่าสวยจริงๆ ใครอยากมาต้องรีบๆ มากันเพราะเค้าว่าอีกไม่นานจะถูกปิดไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้ามาเยี่ยมชมแล้ว (น่าเสียดายจริงๆ เพิ่งค้นพบไม่นาน แท้ๆ)

ต่อมาก็เดินทางด้วยเส้นทางออฟโรด ถึงจุดแคมป์บริเวณ ท้ายๆ น้ำตกแซพระ แม้ที่นี่จะไม่อลังการณ์เท่า น้ำตกแซปองไล แต่ด้วยสภาพแวดล้อม และอากาศ ต้องบอกเลยว่าสวยงาม ธรรมชาติเน้นๆ และหนาวมากกกก ที่สำคัญจุดนนี้ ไร้สัญญาณโทรศัทพ์ สัญญาณอินเตอร์เน็ตทุกค่าย ได้ตัดขาดโลก โซเชียลสัก 1 คืน ก็เบาหัวดีเหมือนกัน

วันที่ 2 วันนี้ยังคงเดินทางบนเส้นทางออฟโรดเช่นเคยเพื่อไปชมจุดชม น้ำตกแซพระ อลังการณ์ไม่เบาเช่นเดียวกัน อยากจะบอกว่าที่ลาวใต้ น้ำตกสวยๆ เยอะดีจริงๆ ใครชอบสายนี้อยากให้ลองมากันนะครับ หลังจากนั้นคาราวานได้เดินทางไปมอบของ และอุปกรณ์จำเป็นให้เด็กๆ นักเรียน โรงเรียนสมบูนไชย ดอนโขง น้องๆ น่ารัก ที่ขาดโอกาสยังมีมากมายจริงๆ พี่ๆ แต่ละท่านก็อิ่มบุญ อิ่มใจกันไปตามระเบียบ

ต่อมาเดินทางสู่ ตาดฟาน รีสอร์ท เพื่อพักชมจุดชมวิว น้ำตกตาดฟาน น้ำตกคู่ในตำนาน ที่สวยงาม และอลังการณ์ อีกแห่ง รวมไปถึงกิจกรรม ZipLine โหนสลิงข้ามเขากันเลยทีเดียว จุดนี้ก็ถือว่าเป็นไฮไลท์เมื่อมาเที่ยวลาวใต้เช่นเดียวกัน ใครมาห้ามพลาดนะครับ

และก่อนจบวันเราได้เดินทางไป เยี่ยมชมชีวิตของชนเผ่าตะโอย ชมเผ่าที่เลี้ยงชีพด้วยการปลูกต้นกาแฟ รวมไปถึงผลิตเมล็ดกาแฟออกมาเพื่อส่งออกไปทั่วประเทศเป็นหลัก เนื่องจากพื้นที่ดินและสภาพอากาศค่อนข้างเหมาะสม แอดมินโค้ก ก็มีคลิป เฮฮาๆ ของคณะสื่อมวลชนไทยระหว่างเยี่ยมชมชนเผ่าตะโอย และมีความรู้การเลือกดูสายพันธุ์กาแฟมาฝากกัน

เชิญชมด้านล่างได้เลยครับ :D

จบวันนี้ที่ ที่พักบริเวณ อิ่ตู้ รีสอร์ท ที่มีน้ำตกบริเวณด้านหน้าสวยไม่แพ้น้ำตกอื่นๆ ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน ต้องบอกว่าค่ำคืนที่นี่ ค่อนข้างหนาวสะใจเลยทีเดียว ในช่วงประมาณเที่ยงคืน ถึง 6 โมงเช้า อุณหภูมิอากาศบริเวณนี้จะอยู่ราวๆ 7-9 องศา เท่านั้น ขอบอกเลยว่าหนาวมาก หนาวจนแอดแทบไม่อยากจะอาบน้ำกันเลยทีเดียว 555

วันที่ 3 วันสุดท้ายก่อนกลับบ้าน ได้ไปเยี่ยมชม ปราสาทหินวัดพู มรดกโลกอีกแห่งที่ทาง Unesco ขึ้นบัญชีไว้เป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นครั้งแรกของแอดในการมาเยี่ยมชม ปราสาทหินวัดพู เช่นเดียวกัน ภายในพื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ อายุของปราสาทจากการสืบค้นจะอยู่ราวๆ 1,500 ปี เลยทีเดียว

ต้องบอกระหว่างเดินทาง (เดินเท้า) ขึ้นไปบนสุดบริเวณที่สักการะพระ เป็นทางชันยาวกว่า 1 กิโลเมตร เลยทีเดียว เดินกันปวดน่องก็งานนี้ แต่เมื่อขึ้นมาสุดจะพบความสวยงามของโบราณสถาน รวมไปถึงเมื่อมองไปด้านล่างจะพบตัวเมืองปราสาท และวิวทิวทัศน ที่เห็นแล้วหายเหนื่อยเลยจริงๆ แต่ตอนเดินลงก็หวาดเสียวไม่น้อยเช่นเดียวกัน

หลังจากนั้นคาราวานก็เดินทางออกจากปราสาท เพื่อมุ่งหน้าสู่สนามบินอุบลราชธานี เพื่อเดินทางกลับประเทศไทยบ้านเรากันในช่วงค่ำๆ ของวัน สุดท้ายนี้ต้องบอกเลยเป็นอีกทริปสุดลุย สุดประทับใจส่งท้ายปี 2560 กันเลยทีเดียว

ได้ความรู้ ได้ท่องเที่ยวจุดอันซีนต่างๆ ใน สปป.ลาวใต้ กันอย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ยังได้ทดสอบ Ford Everest 3.2 Titanium+ กันแบบจัดเต็มตลอด 3 วัน 2 คืน ชนิดที่เรียกได้ว่าหากเป็นรถยนต์ของเราเอง ยังแทบไม่กล้าจะทดสอบขนาดนี้ แต่ตัวรถยนต์ต้องบอกเลยว่า ไหวทุกสภาพการใช้งานจริงๆ

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ จัดเต็ม ใครที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการใช้งานรถยนต์จริงๆ จังๆ ก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย สามารถขับผ่านที่ยากได้ เช่นข้ามห้วย ข้ามทางทราย ทางออฟโรด เพราะระบบช่วยขับที่ทำให้การขับขี่เป็นเรื่องง่าย

การโดยสารสะดวกสบาย เก็บเสียงอยู่ในระดับที่โอเค หากเทียบกับตัวถังรถยนต์ที่ใหญ่ และเป็นขุมพลังดีเซลแบบนี้ แถมบริเวณที่นั่งด้านท้ายยังมีช่องเสียบปลั๊กไฟแบบ ปลั๊กไฟบ้านให้ได้ใช้งานอีกด้วย เรื่องพละกำลังหายห่วงแน่นอน กับขุมพลัง 5 สูบ 3.2 ลิตร 200 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร

สรุปแล้ว Ford Everest 3.2 Titanium+ ก็เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ครบครันทุกแบบ ทุกสไตล์ และเช่นเคยอย่างที่ผมบอกในทุกๆ การ รีวิว อยากให้ทุกท่าน ลองทดสอบการขับขี่ด้วยตนเอง การรีวิวของผมถือเป็นข้อมูลและตัวช่วยในการตัดสินใจเท่านั้น ลองด้วยตนเองเป๊ะกว่าแน่นอนครับผม

ทริปนี้น่าจะเป็นทริปรีวิวตัวสุดท้ายของปี ยังไงก็ขอ สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านนะครับ ขอให้เดินทางกลับภูมิลำเนากันโดยสวัสดิภาพ มีความสุขในเทศกาลปีใหม่นี้ทุกท่าน ขับขี่ปลอดภัย กลับมาพบกันใหม่ปีหน้าครับผมมมม / แอดโค้ก

ขอขอบคุณ Ford Thailand สำหรับทริปทดสอบ Ford Everest สุด Adventure ส่งท้ายปี 2560 ครั้งนี้ด้วยครับ

ร่วมทริปและทดสอบโดย แอดโค้ก : Peerapat.h

ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่

ค้นหารถยนต์มือสองสภาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ