[Test Drive]The All New FORESTER 2019 เอสยูวี พ่อบ้านสายลุยรุ่นล่าจากซูบารุ Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

[Test Drive]The All New FORESTER 2019 เอสยูวี พ่อบ้านสายลุยรุ่นล่าจากซูบารุ

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 11 August 2561

ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ นับเป็นการโมเดลเชนจ์ที่ยังคงรูปแบบภายนอกจากรุ่นเดิม สิ่งที่ปรับเปลี่ยนจะให้ความสำคัญไปกับการออกแบบภายในที่กว้างขวามขึ้นและปรับการขับขี่ให้ดีขึ้น


The All-New 2019 Forester มีด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น มี 2.0i-L ,2.0i-L EyeSight , 2.0i-S และ 2.0i-S EyeSight  ทุกรุ่น ติดตั้งระบบ  X Mode  โดยในรุ่น  2.0-iS   จะพิเศษกว่าด้วย Special X Mode   สามารถเลือกโหมดการลุยได้ 2 แบบ สนองต่อสภาพการณ์ในการับขี่ในทุกสภาพถนน ตามความต้องการของผู้ขับขี่  โดยใช้ระบบควบคุมเครื่องยนต์ทั้งการขับเคลื่อน All-Wheel Drive ระบบเบรก และระบบอื่นๆ ผู้ขับขี่สามารถเปิดใช้งาน X-MODE ได้ที่สวิตช์แบบหมุนในโหมด Select ที่สามารถสลับโหมดต่างๆ ได้อย่างง่ายดายกับสภาพถนนที่เปลี่ยนแปลงได้ทันที และฟังก์ชันควบคุมการขับรถลงเนินที่จะรักษาความเร็วรถให้ต่ำ ขณะลงเนินเขาที่ลาดชัน ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกอุ่นใจยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ สำหรับ นิว ฟอเรสเตอร์ บ๊อกเซอร์แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ปริมาตรกระบอกสูบ 1,995 ซีซี กำลังสูงสุด 156 แรงม้า PS ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ แบบสมมาตร X-MODE (Special X-MODE มีในรุ่น 2.0i-S กับ 2.0i-S ES)4  ระบบส่งกำลัง เกียร์ Lineartronic CVT ระบบกันสะเทือนหน้า/หลัง แม็คเฟอร์สันสตรัท/ดับเบิลวิชโบน ยางขนาด 225/60R17 (225/55R18 สำหรับ รุ่น 2.0i-S / 2.0i-S ES)

ระบบเบรกหน้า/หลัง ดิสก์/ดิสก์ ABS, EBD, Active Torque Vectoring, BA, Brake Override, VDC, Emergency Stop Signal

-ระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมยานพาหนะได้ดังใจสั่ง หลีกเลี่ยงอันตรายด้วยการเข้าโค้งที่ดีเยี่ยมและมั่นคง การควบคุมรถที่แม่นยำนี้เป็นผลมาจากการใช้เบรกกับล้อด้านใน ซึ่งกระจายแรงบิดไปยังล้อด้านนอกเมื่อจำเป็นต้องเข้าโค้ง
                    -ระบบช่วยในการขับขี่ EyeSight ประกอบไปด้วยระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน ระบบถอนคันเร่งก่อนการชน ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ ระบบบเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ ระบบเตือนเมื่อออกจากเลน และเมื่อขับรถส่าย
                   -ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (Auto Vehicle Hold) และระบบตรวจจับยานพาหนะด้านหลัง (SVRD) โดยระบบป้องกันการไหลของรถจะช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ ซึ่งจะรักษาให้ตัวนิ่งขณะที่ความเร็วรถช้าลงเมื่อคนขับถอนเท้าออกจากเบรก
                  -ระบบตรวจจับยานพาหนะด้านหลังใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังของรถ เพื่อตรวจจับวัตถุและยานพาหนะที่อยู่ด้านหลัง และจะแจ้งเตือนผู้ขับด้วยฟังก์ชั่นหลัก 3 อย่าง ได้แก่ การแจ้งเตือนในจุดบอด การช่วยเปลี่ยนเลน และการแจ้งเตือนเมื่อการจราจรข้างหลังเคลื่อนที่ด้วโดยรูปภาพบนหน้าปัดสว่างขึ้น หากมีการตรวจพบยานพาหนะในจุดบอด และเมื่อคนขับส่งสัญญาณการเปลี่ยนเลน ระบบบจะแจ้งเตือนหากมีรถจากเลนข้างๆ เคลื่อนที่ใกล้เข้ามา ทัศนวิสัยก็เพิ่มขึ้นด้วยกระจกมองข้างที่ช่วยให้มองเห็นจุดบอดรอบๆ ล้อหลังได้ดีขึ้น

                สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ที่ไต้หวัน ทางทีมงานซูบารุจัดให้ทดสอบในแบบสั้นๆเน้นให้เห็นถึงระบบใหม่ๆที่ใส่เข้าไปในรถ แบ่งเป็นสถานีต่างๆการทดสอบแบ่งเป็นสถานี ในการทดสอบทางทีมงานได้จัดรถหลากหลายยี่ห้อซึ่งเป็นรถในกลุ่มเดียวกัน เพื่อให้เห็นข้อแตกต่างในแต่ละยี่ห้อ รวมถึง ฟอเรสเตอร์ รุ่นเก่าด้วย นิว ฟอเรสเตอร์ ถ้าเทียบกับคู่แข่งในด้านรูปลักษณ์อาจจะด้อยไปหน่อยด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเป็นรถครอบครัวแนวออกไปทางผู้ใหญ่ แต่ถ้าด้านประโยชน์การใช้งาน ฟอเรสเตอร์ เต็มไปด้วยประสิทธิภาพในทุกด้านการขับขี่ เริ่มต้นออกตัว กดคันเร่งไปเต็มที่ รถตอบสนองต่อคันเร่งได้ช้าไปหน่อย เทียบกับคู่แข่งแล้วอาจจะช้าไปมากแต่การวางตำแหน่งของ ฟอเรสเตอร์ นั้นทางซูบารุมองว่าเป็นรถครอบครัวมากว่า ถ้าจะให้ถูกใจอาจจะต้องมองที่รุ่น XV มากกว่า ดังนั้นการตอบสนองคันเร่งจึงเป็นแบบเรียบๆนุ่มๆ  สถานีแรกกับ slalom ทำงานได้ดีในการควมคุมพวงมาลัยและช่วงล่างที่ให้การยึดเกาะถนนได้ดีมีอาการโค้งตัวที่น้อยทำให้มั่นใจในการขับขี่ สถานีต่อไป Wet Surface แสดงให้เห็นการทำงานของระบบ ต่างๆที่ช่วยให้รถไม่ลื่นออกนอกถนน

สำหรับ Forester ใหม่ ใน Track ทำให้เห็นถึงข้อเด่นในเรื่องของช่วงล่าง ถึงแม้จะเป็น SUV คันโตที่นุ่มนั่งสบาย อุปกรณ์ อำนวยความสะดวกเยอะ แต่ให้การขับขี่ที่ดีทั้งในโค้ง ควบคุมได้ทุกสภาพ การทำงานของระบบ Symmetrical AWD ที่ชาญฉลาด ช่วยให้การควบคุมรถได้ง่ายขึ้น

ส่วนบนทางออฟโรด กับสถานีจำลองแบบ ซูบารุถือว่าเป็นผู้นำเรื่องระบบขับเคลื่อน สี่ล้อก็ว่าได้ ยิ่งระบบ X โหมดด้วย โดดเด่นในด้านการทำงานในทุกสถาวะสภาพถนน เริ่มต้นด้วยเนิน สลับ ซ้าย-ขวา เป็นโชว์การทำงานของระบบขับเคลื่อน Symmetrical AWD อันเลื่องชื่อในการปีนป่าย ซึ่งตัวระบบ X-Mode นั้นจะเข้ามาช่วยควบคุมการถ่ายแรงบิดไปยังล้อแต่ละล้อให้เหมาะสม ผ่านไปอย่างง่ายดาย ตามไปที่สถานี Bumpy Road เป็นการจำลองสภาพถนนหิน ตัวรถจะมีอาการตลอด ส่งมาถึงตัวห้องโดยสารแต่โดยรวมแล้ว ระบบช่วงล่าง ถือว่าซับแรงกระแทกได้ดีมาก  ต่อด้วย Special X-Mode ในสถานีนี้ จำลองเป็นเนินสูงชัน ประมาณ 14 องศาให้เราขับขึ้นไป ลงอีกฝั่ง เพื่อซึ่งทดสอบระบบ Hill Start Assist และ Hill Descent Control ถัดมาที่ Off-Road Slalom จะเป็นการจำลองเส้นทาง Off-Road ให้เราขับด้วยความเร็ว ซึ่งในช่วงนี้ สิ่งที่ชัดเจนสำหรับ ฟอเรสเตอร์ ถึงแม้ถนนจะลื้นรถเสียอาการแต่รถก็ยังสามารถควบคุมได้ดี พวงมาลัยให้การตอบสนองได้อย่างเเม่นยำ นอกจากนี้ ระบบการซับแรงสะเทือน ถือว่าทำได้ดี

สำหรับ Forester ใหม่ ใน Off-Road เรียกว่าทำได้ดีมาก ซึ่งตัวระบบ X-Mode นั้นโดดเด่นมาก เพราะสามารถช่วยในสถานีต่างๆเพื่อให้ผ่านเส้นทางต่างๆได้อย่างง่ายดาย ช่วงล่างที่นุ่มนวลทำให้ผ่านถนนลูกรังได้อย่างนุ่มนวล แต่จะเสียอาการบ้างในการเข้าโค้งแต่ระบบความปลอดภัยต่างๆช่วยให้ตัวรถควบคุมได้อย่างง่ายดาย

สรุปง่ายๆเอาเป็นว่า Subaru ได้แบ่งคลาสของรถ SUV ของค่ายเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า ถ้าคุณเป็นวัยรุ่น และมองภาพลักษณ์ภายนอกเป็นหลักมากกว่าเรื่องของการใช้งานอเนกประสงค์ XV จะเป็นคำตอบที่ดีกว่า กลุ่มเป้าหมายสำหรับ Forester ใหม่ จะเน้นจับตลาดผู้ใหญ่ ที่มองใน เรื่องของพื้นที่การใช้สอยมากกว่า ความกว้างขวางสะดวกสบาย ช่วงล่างที่นิ่มนวลนั่งสบาย และด้วยการทำตลาดของทางซูบารุเน้นไปทางตลาดรถ suv มากขึ้น แต่ทั้งหมดนี้เราจะได้เห็นคันจริงปลายปีนี้และผลิตในประเทศไทยปีหน้านี้ แย้มมาว่าราคาดีงามมาก แฟนๆซูบารุอดทนรอกันอีกนิดนึง
 

 

 

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ