สืบเนื่องมาจากมาตรฐานไอเสียระดับ Euro-5 ที่กำลังจะเริ่มใช้งานภายในไม่กี่ปีนี้ ทาง Yamaha เองก็มิได้นิ่งนอนใจกับการพัฒนารถซุปเปอร์ไบค์รุ่นท็อปสุดของค่ายอย่าง Yamaha YZF-R1 จึงได้เตรียมการพัฒนาเจ้า R1 เพื่อรองรับค่ามาตรฐานไอเสียนี้ด้วย และยังจะนำเอาเทคโนโลยีการขับขี่ระดับสูงจาก MotoGP เข้าไปเสริมความแรงอีกขั้น
Yamaha YZF-R1 ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.1998 โดยถูกวางเป็นรถซุปเปอร์ไบค์ระดับท็อปจากประเทศญี่ปุ่น โดย Yamaha ก็ได้มีการอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปในตัว YZF-R1 มาตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยโฉมที่เราๆ ท่านๆ เห็นกันอยู่ทุกวันนี้คือโฉมปี 2015 ที่เรียกได้ว่าถอดแบบจากรถตัวแข่ง MotoGP Yamaha YZR-M1 มาเลยทีเดียว และเป็นซุปเปอร์ไบค์เพียงไม่กี่รุ่นที่มีแรงม้าสูงถึง 200 แรงม้า ด้วยขุมพลัง 4 สูบเรียงจากเครื่องยนต์แบบ Crossplane 4 ชนิดเดียวกับตัวแข่ง MotoGP
ทว่าด้วยค่ามาตรฐานไอเสีย Euro-5 ที่กำลังจะประกาศใช้งานในเร็วๆ นี้ ทำให้ Yamaha ต้องทำอะไรสักอย่างกับรถซุปเปอร์ไบค์รุ่นเรือธงของทางค่าย เพื่อให้สามารถวางจำหน่ายต่อไปได้ และยังต้องล้ำขึ้นเรื่อยๆ ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอีกต่างหาก
ระบบ Counter-rotating crankshaft เทคโนโลยีสุดล้ำจาก MotoGP
เทคโนโลยีจาก MotoGP ที่คาดว่าจะนำไปใส่ใน Yamaha YZF-R1 2021 คาดว่าจะเป็นระบบ counter-rotating crankshaft ซึ่งใช้งานกันโดยทั่วไปในรถแข่ง MotoGP อยู่แล้ว ทว่าในรถถนนที่เราเห็นกันทุกวันนี้ มีใช้งานอยู่ใน Ducati Panigale V4 เท่านั้น ซึ่งผลก็คือทำให้รถ Ducati แรงกว่าชาวบ้านชนิดที่ว่าไล่ตามไม่เห็นฝุ่น ดังที่เราเห็นในการแข่งขัน World SuperBike ที่ Ducati ได้นำเอา Panigale V4R มาลงทำการแข่งขัน ซึ่งขับขี่โดยเอเลี่ยนจาก MotoGP อย่าง อัลวาโร่ บัลทิสต้า ที่ตบแชมป์เก่า World SuperBike อย่าง โจนาทาน เรีย ชนิดที่ว่า ขี่ไล่ตามกันแบบไม่ได้ยินเสียงท่อคันหน้าเลย
สำหรับการทำงานของระบบ Counter-rotating crankshaft ใช้หลักการที่ว่า รถบิ๊กไบค์ที่เราเห็นกันโดยทั่วไปส่วนใหญ่ มักจะใช้เพลาข้อเหวี่ยงหมุนไปในทิศทางเดียวกันกับการหมุนของล้อ ทว่าในรถแข่ง MotoGP จะใช้เพลาข้อเหวี่ยงหมุนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับล้อ ส่งผลให้ตัวรถชดเชยแรงเฉื่อยที่เกิดขึ้นได้ในระหว่างการขับขี่ ส่งผลให้รถสามารถพลิกเปลี่ยนทิศทางการเข้าโค้งได้ดีขึ้น และทำได้ต่อเนื่องมากขึ้น ซึ่ง Ducati ใช้หลักการนี้ในเครื่องยนต์ของ Panigale V4 อยู่นั้นเอง โดยนำเอาเทคโนโลยีจาก MotoGP มาลงสู่รถถนนโดยตรง
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า Yamaha YZF-R1 2021 อาจจะมีระบบวาล์วแปรผันในเครื่องยนต์คล้ายกับ BMW New S1000RR 2019 อีกด้วย
ระบบ Seamless Gearbox
เชื่อว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่า Seamless Gearbox มันมีประโยชน์อย่างไร แตกต่างจาก Quick Shifter ที่ปกติแล้วก็เปลี่ยนเกียร์ไม่ต้องกำคลัชอยู่แล้วนิ?
แต่จริงๆ แล้ว ระบบ Seamless Gearbox จะช่วยให้ตัวรถนั้นมีการเปลี่ยนเกียร์ที่ไวขึ้น นุ่มนวลขึ้น ตอบสนองไวกว่า และลดอาการกระตุกขณะเปลี่ยนเกียร์ แตกต่างจากระบบ Quick Shifter อยู่มากโขเลยทีเดียว ซึ่ง Yamaha ได้ยื่นจดสิทธิบัตรเรื่องนี้ไว้แล้วสักพักใหญ่ๆ
ส่วนระบบ Seamless Gearbox ในการแข่งขัน MotoGP มีการใช้งานกันตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งทีมที่ใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบันก็คือทีมโรงงาน Honda และทีมโรงงาน Ducati ซึ่งระบบนี้นอกจากให้ความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์แล้ว ยังช่วยทำให้ตัวรถมีความเสถียร และมั่นคงมากยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เสริมเข้าไปแล้ว ยังมีการออกแบบแฟริ่งใหม่ เพื่อประโยชน์ทางด้านอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้นกว่าตัวเดิม ซึ่งคาดว่าจะนำเอาเทคโนโลยีจาก MotoGP มาใส่เช่นกัน (อาจจะเป็นปีกข้างรถแบบ Panigale V4R หรือเปล่านะ?)
อย่างไรก็ตาม Yamaha New YZF-R1 2021 คาดว่าจะมีการเผยโฉมตัวเป็นๆ ให้เห็นกันในช่วงปลายปี 2020 ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเป็นอย่างไรต้องติดตามกันต่อไปครับ
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น