Mercedes-Benz เตรียมหันไปทำรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมเลิกทำเครื่องสันดาป สืบเนื่องจากกระแสนิยมรถยนต์ไฟฟ้ามีสูงขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งความต้องการรถยนต์เครื่องสันดาปล้วน มีความต้องการลดลงทั่วโลก
Mercedes-Benz เลิกขายรถน้ำมันใน 9 ปี
Mercedes-Benz ผู้นำตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมสัญชาติเยอรมัน เผยแนวทางการทำตลาดในอีก 10 ปีที่จะถึงนี้ว่า ทางบริษัทฯ จะพัฒนาพร้อมผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น และพร้อมเลิกผลิตรถยนต์น้ำมันภายใน 10 ปีนี้
หลังจากที่ Mercedes-Benz ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่พร้อมกันถึง 5 รุ่น ภายในงาน IAA Mobility show เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในหลากหลายกลุ่มตลาด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ซีดานระดับกลาง, รถยนต์หรู, รถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงในแบรนด์ Mercedes-AMG กระทั่ง G-Class ไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นได้ว่า Mercedes-Benz มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่พร้อมจะเปลี่ยนผ่านจากยุคเครื่องยนต์สันดาป สู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า โดยปัจจุบัน ทางแบรนด์ตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่าในปีหน้า (ปี 2565) Mercedes-Benz จะต้องมีรถรุ่นที่ใช้งานระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อนทุกเซกเม้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด จนไปถึงรถยนต์ไฟฟ้า
ภายในปี 2025 Mercedes เล็งจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ถึง 3 โมเดลด้วยกัน โดยจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สร้างบนพื้นฐานโครงสร้างใหม่ทั้งหมดในชื่อ MB.EA Platform ซึ่งมีพื้นฐานมาจากรถยนต์นั่งขนาดใหญ่, AMG.EA รถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ทำการจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG และ VAN.EA รถตู้ไฟฟ้าขนาดกลาง รวมไปถึงรถตู้ไฟฟ้าสำหรับใช้งานเชิงธุรกิจ
นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ในรหัส MMA ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2024 นี้
2030 Mercedes-Benz จะขายรถยนต์ไฟฟ้าถึง 50%
Ola Källenius ซีอีโอของ Diamler และ Mercedes ได้กล่าวไว้ขณะกำลังเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น EQE ว่า "ขณะนี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตรวดเร็วมากๆ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์หรู, รถยนต์พรีเมี่ยม ซึ่งเป็นตลาดหลักของเราอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้จุดเปลี่ยนของตลาดเข้าใกล้มาทุกขณะ และเราพร้อมแล้วที่จะปรับเปลี่ยนทิศทางของเราไปสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวภายในปี 2030 นี้
โดยขณะนี้ เรามีการบริหารงานใหม่ ให้มุ่งเน้นไปยังการเปลี่ยนถ่ายจากระบบการผลิตรถแบบเดิม ไปสู่ระบบการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ทั้งนี้เรายังต้องประคับประคองบริษัทให้ยังทำกำไรได้ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ด้วย ซึ่งคาดว่าเราสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าในอัตราส่วนยอดขายรถ 2 คัน จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน ด้วยสภาพตลาดในปี 2030"
ทั้งนี้ เราก็ต้องมาจับตาดูกันว่าจะเป็นอย่างที่ Mercedes-Benz ได้ตั้งเป้าเอาไว้หรือไม่ว่า ภายในปี 2030 นี้ พวกเขาจะขายรถยนต์ไฟฟ้าได้มากถึงระดับขายรถไป 2 คัน ต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 1 คันเลย ท่ามกลางกระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตเป็นอย่างยิ่ง ณ ขณะนี้ ไม่แน่ว่าแผนการนี้อาจเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้นมากกว่านี้ในแถบประเทศที่นิยมใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ากันแล้ว
ทว่า ในโซนบ้านเรานั้น แม้ว่าจะมีความสนใจรถยนต์ไฟฟ้ากันค่อนข้างมากอยู่ ทว่าด้วยวัฒนธรรมการใช้งานรถยนต์ในบ้านเรานั้นยังอยู่ในรูปแบบ "คันเดียวจบ" คือใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นขับไปทำงาน, ใช้งานในเมือง, ขับทางไกล, ขับขี่ท่องเที่ยว เราก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าทิศทางการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐในไทย จะเป็นอย่างไร
เพราะเราก็ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่า ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังมีปัญหาเรื่องระยะเวลาการชาร์จพลังงานที่กินเวลานานอยู่พอสมควร อีกทั้งในบ้านเรายังมีจุดชาร์จไฟฟ้าครอบคลุมในพื้นที่จำกัดอยู่ โอกาสที่จะเห็นรถยนต์ไฟฟ้าเกิดในบ้านเรานอกจากเรื่องราคาของตัวรถที่ต้องเข้าถึงได้ง่าย ช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นแล้ว พวกสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ก็นับว่าเป็นอีกปัจจัยที่จำเป็นอย่างยิ่งในการคิดว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคัน
เพราะถ้าพูดกันตรงๆ ณ ตอนนี้ พ.ศ. 2564 มันยังไม่เหมาะสำหรับเป็นรถยนต์คันหลักประจำบ้าน ในประเทศเราครับ...แต่อนาคต รถยนต์ไฟฟ้านี่แหละคือสิ่งที่คู่ควร (หากภาครัฐให้การสนับสนุนพอ)
อ่าน รีวิว Mercedes-Benz GLC300e
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น