BMW R 18 Transcontinental และ R 18 B มี Adaptive cruise control พร้อมสเปคและราคาไทย Share this

BMW R 18 Transcontinental และ R 18 B มี Adaptive cruise control พร้อมสเปคและราคาไทย

Paknam536
โดย Paknam536
โพสต์เมื่อ 26 October 2564

เปิดตัว BMW R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ คู่หูทัวเรอร์สองสไตล์ ดีไซน์คลาสสิก อัดแน่นเทคโนโลยีทันสมัย ที่พร้อมทะยานสู่ท้องถนน ในราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท


BMW R 18 Transcontinental และ R 18 B

BMW Motorrad เผยโฉมมอเตอร์ไซค์ครูสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พร้อมออกโลดแล่นบนท้องถนน กับการเปิดตัว BMW R 18 Transcontinental และ BMW R 18 B “Bagger” ที่ผสมผสานความหรูหรา ความมีสไตล์ และสมรรถนะเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยมอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับพลังเต็มเปี่ยมจากเครื่องยนต์ "บิ๊กบ็อกเซอร์" ที่ใจกลางแชสซีสุดคลาสสิก ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของ BMW Motorrad

 

 

BMW R 18 Transcontinental ได้รับการออกแบบและวางโครงสร้างทางวิศวกรรมเพื่อรองรับการขับขี่ทางไกล เพียบพร้อมด้วยความสบาย ปราดเปรียว และลุคที่โดดเด่นที่จะยกระดับทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพียงลำพัง หรือพร้อมผู้โดยสารซ้อนท้ายและกระเป๋าสัมภาระก็ตาม

 

 

ส่วน BMW R 18 B ได้รับการออกแบบให้เป็นมอเตอร์ไซค์สำหรับผู้รักการขับขี่ มอบประสบการณ์ความพึงพอใจที่เหนือกว่าสำหรับแฟนมอเตอร์ไซค์พันธุ์แท้ เติมเต็มที่สุดแห่งการขับขี่บนท้องถนน 

 

 

มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “BMW R 18 Transcontinental และ BMW R 18 B นับว่าเป็นดาวดวงใหม่ในในครอบครัวมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งของเรา ด้วยการดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการขับขี่อย่างเพลิดเพลินทั้งทางใกล้และทางไกล

BMW R 18 ทั้งสองรุ่นใหม่นี้ จึงสะท้อนจิตวิญญาณเสรีของ BMW Motorrad ได้เป็นอย่างดี ด้านการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากระบบสรีรศาสตร์ ช่วยให้มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นเหมาะแก่การขับขี่แบบครูสซิ่งและทัวริ่งอย่างสะดวกสบายได้ในทุกสภาพอากาศ  และเช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์ BMW R 18 รุ่นก่อนหน้านี้

 

มาพร้อมกับสมรรถนะที่โดดเด่น ด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่งพลังสู่ล้อหลัง และด้วยทรวดทรงของตัวรถที่มาในมาดเข้มดุดัน ผมจึงมั่นใจว่ามอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นนี้จะสามารถสะกดทุกสายตาบนท้องถนนทั้งการขับขี่ในตัวเมืองและต่างจังหวัดได้อย่างแน่นอน” 

 

 

BMW R 18 Transcontinental ใหม่ โดดเด่นด้วยความเป็นมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งหรูหรา ขณะที่ BMW R 18 B ใหม่ มาพร้อมความเป็นมอเตอร์ไซค์สไตล์แบกเกอร์เต็มตัวด้วยรูปลักษณ์ที่ดูทั้งเรียบง่ายและปราดเปรียว พร้อมด้วยกระเป๋าสัมภาระข้างรถที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับฝาครอบไฟหน้ารถ

 

 

และสำหรับรุ่น R 18 Transcontinental จะมีกล่องสัมภาระท้ายรถ (top case) พร้อมพนักพิงผู้โดยสารอีกด้วย 

 

 

ส่วนประกอบเพื่อการใช้งานและดีไซน์ต่างๆ อาทิเช่น โครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำขนาด 24 ลิตร เพลาแบบเปิดเปลือย พร้อมลูกเล่นการทำสีแบบลายเส้นคู่ ล้วนสะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมอเตอร์ไซค์แบบทัวริ่งและครูสเซอร์ยอดนิยม และด้วยระบบสวิงอาร์มคู่ขนาบข้างและคานรับน้ำหนักแบบยื่น โครงสร้างตัวรถอันแข็งแกร่งจากมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานอย่างบีเอ็มดับเบิลยู R 5 จึงถูกถ่ายทอดสู่ยุคปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม

 

 

 

หัวใจหลักของมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ คือเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบที่เรียกว่า "บิ๊กบ็อกเซอร์” ซึ่งนับเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 สูบวางเรียงที่มีสมรรถนะสูงสุดในรถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตออกจำหน่ายในตลาดทั่วไป ด้วยความจุ 1,802 ซีซี ส่งพละกำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ (91 แรงม้า) ที่ 4,750 รอบต่อนาที ส่งแรงบิดมากกว่า 150 นิวตันเมตรตลอดในช่วง 2,000 ถึง 4,000 รอบต่อนาที พร้อมพลังขับเคลื่อนและเสียงเครื่องยนต์กระหึ่มเร้าใจ 

 

 

 

ด้านแชสซีของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ เป็นโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น พร้อมแกนหลักชิ้นส่วนขึ้นรูปจากแผ่นเหล็ก ทั้งยังโดดเด่นด้วยมาตรฐานการผลิตคุณภาพสูงและความประณีตในรายละเอียดต่างๆ เช่น การเชื่อมข้อต่อระหว่างโครงสร้างเหล็กและการขึ้นรูปชิ้นส่วนเหล็กหล่อต่างๆ  นอกจากนี้ สวิงอาร์มหลังยังยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียวแบบดั้งเดิม

 

 

 

ระบบช่วงล่างของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ ใช้ช่วงล่างแบบเทเลสโคปิก และระบบสวิงอาร์มที่ติดตั้งโดยตรงบนคานรับน้ำหนักแบบยื่นที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อให้ควบคุมล้อที่หล่อด้วยวัสดุอัลลอยน้ำหนักเบาชั้นเลิศได้อย่างแม่นยำ พร้อมมอบการขับขี่ที่นุ่มสบาย คานรับน้ำหนักด้านหลังสามารถปรับตั้งค่าความหนืดได้และมีระบบชดเชยโหลดอัตโนมัติเพื่อตอบสนองการขับขี่ที่เหนือระดับ  และเช่นเดียวกับรถรุ่นตำนานอย่างบีเอ็มดับเบิลยู R 5 แกนโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกของ R 18 ทั้งสองรุ่นก็มาพร้อมกับปลอกหุ้มโช้ค นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับระบบดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า และดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ และระบบเบรกเอบีเอสของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 

 

 

 

บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานอย่างครบครัน เช่น ระบบควบคุมการขับขี่แบบอิเล็กทรอนิกส์ DCC (Dynamic Cruise Control) และระบบควบคุมการขับขี่แบบ Active Cruise Control (ACC) ทั้งนี้ ระบบ DCC จะเป็นการควบคุมระดับความเร็วในการขับขี่อัตโนมัติที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าได้ด้วยตัวเอง ส่วนระบบ ACC จะช่วยให้สามารถขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายด้วยระบบควบคุมระยะห่างจากคันหน้า โดยระบบตรวจจับด้วยเรดาร์ที่ติดตั้งบนฝาครอบไฟหน้ารถจะช่วยกำหนดให้มอเตอร์ไซค์เร่งความเร็วเพื่อปรับระดับความเร็วได้โดยอัตโนมัติ หรือเปิดใช้งานระบบเบรกมาตรฐานใหม่เพื่อลดความเร็ว  นอกจากนี้ ระบบ ACC ยังช่วยเสริมความปลอดภัยในการเข้าโค้ง และในยามจำเป็น ระบบควบคุมการเข้าโค้งจะชะลอความเร็ว เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับมุมเอียงของถนนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่และเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ

 

 

 

มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental ติดตั้งเบาะที่นั่งที่นุ่มสบายพร้อมระบบอุ่นเบาะที่นั่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อความสบายในการขับขี่ทางไกลแม้มีคนนั่งซ้อนท้าย  ส่วนเบาะที่นั่งในรุ่น R 18 B เป็นเบาะที่นั่งสำหรับสองคนที่มีขนาดเล็กลง บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental ใหม่ มาพร้อมบันไดข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น R 18 B ใหม่ มากับที่พักเท้าที่กว้างขึ้นและสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่า R 18 รุ่นก่อนหน้า

ส่วนขับขี่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับมาตรวัดแบบอนาล็อก หน้าปัดทรงกลม 4 ช่อง และจอสีแสดงผลแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว พิมพ์ตัวอักษร "BERLIN BUILT" เสริมความคลาสสิกให้บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ จอสีแสดงผลแบบ TFT ยังสามารถอ่านได้ง่าย และสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน BMW Connected App เสริมความสะดวกในการใช้งานและแสดงข้อมูลการขับขี่อย่างเต็มที่

 

 

ออปชั่นเด่นของ BMW R 18 Transcontinental และ R 18 B

- Hill Start Control
- Headlight Pro ระบบไฟส่องสว่างในโค้ง
- เกียร์ถอยหลัง
- สัญญาณกันขโมย
- สลิปเปอร์คลัทช์
- กุญแจคีย์เลส
- ระบบกระจายแรงเบรก
- ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ เมื่อเบรกฉุกเฉิน
- Riding Mode Rain, Roll, Rock
- หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว
- ระบบเครื่องเสียง Marshall

 

 

บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ มาพร้อมกับประสบการณ์เครื่องเสียงคุณภาพ โดยพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตเครื่องเสียงสัญชาติอังกฤษอย่าง Marshall และลำโพงแบบ two-way (แยกซับวูฟเฟอร์) ที่ติดตั้งบนหน้าปัดของฝาครอบไฟหน้ารถ พร้อมด้วยหน้ากากลำโพงสีดำที่แต่งด้วยตัวอักษร Marshall สีขาว เสริมลุคคลาสสิกให้กับมอเตอร์ไซค์  โดยบีเอ็มดับเบิลยู R 18 B มาพร้อมกับระบบเครื่องเสียง Marshall Gold Series Stage 1 ซึ่งประกอบด้วยลำโพง 2 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental ติดตั้งระบบเครื่องเสียง Marshall Gold Series Stage 2 มาพร้อมลำโพง 4 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว ด้วยกำลัง 280 วัตต์

 

 

 

ในการเปิดตัวครั้งนี้ มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่จะวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ในรุ่น “First Edition” ที่ผสมผสานลุคมาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 เข้ากับเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการเลือกใช้สีดำคลาสสิกตัดกับลายเส้นคู่สีขาว โดดเด่นด้วยพื้นผิวที่ออกแบบเป็นพิเศษ (สีโครเมียม) เบาะที่นั่งปักลวดลายด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมอักษร "First Edition” นอกจากนี้ ลูกค้าที่ซื้อมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental “First Edition” หรือ บีเอ็มดับเบิลยู R 18 B “First Edition” ยังจะได้รับ Welcome Box สุดพิเศษ ที่มาพร้อมกับไอเท็มสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อต้อนรับการมาถึงของมอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นสู่ประเทศไทยอีกด้วย

 

เครื่องยนต์ 2 สูบวางนอนชนิด Boxer 4 จังหวะ 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ และน้ำมันหล่อเย็น
ขนาดกระบอกสูบ (มม.) 107.1 x 100
ความจุกระบอกสูบ 1,802 ซีซี
พละกำลังสูงสุด  91 แรงม้า ที่ 4,750 รอบ / นาที
แรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ / นาที
ความเร็วสูงสุด มากกว่า 180 กม./ชม.
อัตราส่วนกำลังอัด 9.6 : 1
ระบบเกียร์ 6 สปีด
ระบบขับเคลื่อน เพลาขับเคลื่อน

 

ตัวรถ

เฟรม Double-cradle steel frame with screwed-on underbeams
โช๊คหน้า เทเลสโกปิค
โช๊คหลัง โช๊คอัพสปริงเดี่ยว
เบรคหน้า ดิสเบรคคู่ ขนาด 300 มม. พร้อมปั้มเบรค BMW 4 พอต และระบบ ABS
เบรคหลัง ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 300 มม. พร้อมปั้มเบรค 4 พอต และระบบ ABS
ยางหน้า 120/70 R19
ยางหลัง 180/65 B16

 

มิติรถ

  R 18 B R 18 Transcontinental
ขนาด กว้าง x ยาว x สูง (มม.) 970 x 2,560 x 1,400 970 x 2,640 x 1,500
ความสูงเบาะ 720 มม.  740 มม.
ระยะฐานล้อ 1,731 มม. 1,731 มม.
น้ำหนักตัวพร้อมใช้งาน 398 กก. 427 กก.
น้ำมันเชื้อเพลิง 24 ลิตร 24 ลิตร

 

 

BMW R 18 Transcontinental และ R 18 B ไม่เหมือน R 18 รุ่นก่อนหน้า

ในยุคปัจจุบันที่หลายๆ แบรนด์ มักจะพัฒนาตัวเฟรมและเครื่องยนต์ออกมา แต่ปรับดีไซน์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อแบ่งเป็นรถรุ่นใหม่ๆ เรียกได้ว่าทำกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แม้ว่ามองดูแว้บแรกเราอาจจะคิดว่าทาง BMW นำเอา R 18 รุ่นก่อนหน้า มาติดแฟริ่งเพิ่มเข้าไป เพื่อเปิดไลน์ออกมาเป็นรุ่นใหม่

บอกเลยว่า ไม่ใช่

เพราะเจ้า BMW R 18 Transcontinental และ R 18 B แม้ว่าจะมีพื้นฐานที่ใกล้เคียงกับ R 18 รุ่นก่อนหน้า แต่ก็มีการปรับปรุงโครงสร้างของตัวรถใหม่ด้วย เพราะว่าลักษณะการใช้งาน รวมถึงดีไซน์ของรถรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ มีความแตกต่างจากรุ่นพี่อย่างสิ้นเชิง

 

 

ตำแหน่งจุดยึดของโช๊คอัพหน้า ที่มีการปรับใหม่ เพื่อรองรับกับชิ้นส่วน อุปกรณ์ต่างๆ ของตัวรถที่เพิ่มขึ้น ที่มาพร้อมกับน้ำหนักของตัวรถที่เพิ่มขึ้นด้วย และยังพัฒนาให้ตอบโจทย์การใช้งานขับขี่ทางไกลให้มีความเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

 

 

 

ราคา BMW R 18 Transcontinental และ R 18 B

ราคาวางจำหน่ายของ BMW R 18 Transcontinental “First Edition” ใหม่ เปิดที่ 1,640,000 บาท และ BMW R 18 B “First Edition” เปิดราคาจำหน่าย 1,500,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bmw-motorrad.co.th หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั่วประเทศ 

 


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ