หลีกเลี่ยงความขัดข้องของรถยนต์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลวันหยุดที่กำลังจะมาถึง มี 13 สิ่งที่ควรตรวจสอบรถยนต์อย่างละเอียดก่อนออกเดินทาง
13 สิ่ง ที่ควรเช็คก่อนออกเดินทางในเทศกาล Festive Road Trip
เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผู้ที่หลงไหลการขับรถไปเที่ยวกางเต้นท์ค่ำไหนนอนนั่น ต้องเตรียมตัววางแผนสำหรับการเดินทางในเทศกาลวันหยุดนี้ สิ่งหนึ่งที่ควรเช็คนอกจากเส้นทางการเดินทาง หรืออุปกรณ์สำหรับกางเต้นท์ต่างๆ ก็คือรถยนต์ของคุณว่ามีอุปกรณ์ภายใน อาทิ เบรก โช้ค ยาง สึกกร่อนหรือหลวมบ้างมั้ย เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุและป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมที่อาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในอนาคต เราจึงควรที่จะตรวจสอบ 13 สิ่งนี้ก่อนออกเดินทาง
1. ระบบเบรก
ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรตรวจสอบอันดับต้นๆ ในรถยนต์ ก็คือระบบเบรก น้ำมันเบรก ผ้าเบรก จานเบรก รวมถึงเบรกมือ ว่าอยู่ในสภาพดี ทำงานได้ปกติ โดยการทดสอบการหยุดฉุกเฉินเพื่อให้แน่ใจเป็น 2 เท่า หากพบว่าเกิดการสึกหรอหรือมีเสียงแปลกๆ ให้รีบแก้ไขก่อนการออกเดินทาง
2. ระบบไฟและระบบไฟฟ้า
ก่อนอื่นเลยต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าหลอดไฟทุกดวงในรถของคุณอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ปกติ เพื่อให้คุณสามารถมองเห็นทางในเวลากลางคืนได้อย่างชัดเจน รวมถึงสามารถส่งสัญญาณเตือนเพื่อนร่วมทางได้ในขณะขับขี่ แต่ต้องแน่ใจว่าลำแสงมีระยะการมองเห็นที่พอดี ไม่สูงจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาในการมองเห็นสำหรับผู้ที่ขับขี่สวนทางมา และตรวจสอบเครื่องมือ สวิตช์ต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถอ่านค่าความเร็วและระดับของเหลว ได้อย่างถูกต้อง
3. หน้าต่างและที่ปัดน้ำฝน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าต่างทั้งหมดอยู่ในสภาพดี มีรอยร้าวรอยแตกหรือชำรุดบ้างมั้ย เพราะมันคือสาเหตุสำคัญที่อาจจะบดบังทัศนวิสัยให้ลดลง รวมถึงที่ปัดน้ำฝนซึ่งอาจจะไม่สามารถปกป้องคุณในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ฝนตก หรือลูกเห็บ เป็นต้น ดังนั้นควนตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งเหล่านี้ใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่
4. ล้อและยาง
ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ายางแต่ละเส้นมีดอกยางเพียงพอ ซึ่งสำหรับความเหมาะสมสำหรับดอกยางที่ปลอดภัยก็คือ เหลือ 1 มม. ห้ามต่ำกว่า 3 มม. จึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรวจสอบว่ายางรถของคุณสึกหรอเท่ากันหรือไม่ เพราะการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมออาจส่งผลต่อ ระบบบังคับเลี้ยวหรือระบบกันสะเทือน ลมยางสูงหรือต่ำเกินไป หรือการจัดตำแหน่งล้อไม่ดี การทรงตัว รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่อาจทำให้ยางเสียหายก่อนเวลาอันควร และที่สำคัญตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถของคุณมีล้ออะไหล่อยู่ในสภาพดี มีแม่แรงและเครื่องมืออื่นๆ ที่ถูกต้องในการถอดเปลี่ยนล้อหรือยางที่ชำรุด
5. ระบบกันสะเทือน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโช้คอัพและระบบกันสะเทือนอื่นๆ ของรถทำงานอย่างปกติ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ยางเกาะถนนได้อย่างมั่นคง หากต้องเผชิญกับถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ หรือต้องการใช้ระยะทางที่ยาวขึ้นในการหยุดรถซึ่งถ้าหากมีการชำรุดของโช้คอัพและระบบกันสะเทือน อาจทำให้การยึดเกาะถนนเกิดปัญหาได้
6. แบตเตอรี่
ทดสอบแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่ายังมีแบตคงเหลือเพียงพอต่อการเดินทางของคุณหรือไม่ ซึ่งแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาระหว่างทาง แต่บางแบตเตอรี่นั้นจำเป็นต้องเติมน้ำ และเช็คบำรุงรักษา ดังนั้นควรเช็คให้ชัวร์ว่ารถยนต์ของคุณเป็นแบบไหน และหากเป็นรุ่นที่ต้องเติมน้ำก็ควรจะจัดการให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
7. สายพาน
ทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายพานปกติหรือไม่ รวมถึงไดชาร์จ พัดลม และส่วนประกอบอื่นๆ อยู่ในสภาพดี เพราะสายพานที่หักอาจมีการไปเกี่ยวกับเครื่องยนต์ทำให้เกิดความเสียหายได้
8. ระบบทำความเย็น
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือระบบระบายความร้อนของรถยนต์ของคุณ โดยเฉพาะหม้อน้ำและปั๊มน้ำ ว่ามีการทำงานได้ปกติอยู่หรือไม่ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าฝาหม้อน้ำปิดผนึกอย่างเหมาะสม รวมถึงน้ำยาหล่อต้องเย็นสะอาดและเติมให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง เพราะคุณคงไม่อยากขับรถไปเที่ยวด้วยเหงื่อที่เปียกโชก และเมื่อความร้อนขึ้นไม่เพียงแต่จะทำให้ระบบแอร์ของคุณโดนตัดแล้ว เครื่องยนต์ของคุณอาจจะเสียหายตามมาก็เป็นได้
9. ไส้กรองและของเหลว
ไส้กรองอากาศ และของเหลวต่างๆ ในรถของคุณ หากทุกอย่างที่พูดมานั้นสะอาดจะส่งผลให้เครื่องยนต์ของคุณทำงานได้ดี ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนดหรือไม่ และตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่าของเหลวนั้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมตามข้อกำหนดของผู้ผลิตรถยนต์
10. ระบบไอเสีย
ตรวจสอบรอยรั่วของระบบไอเสีย เพื่อป้องกันความเสียหายในด้านสมรรถนะของรถยนต์และการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงยังก่อให้เกิดความเสี่ยงและส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงอีกด้วย
11. ตัวถัง และอุปกรณ์เสริม
หากรถของคุณเป็นรถลากจูงหรือรถพ่วง ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการยึดอย่างหนาแน่นและเหมาะสม เพราะหากมีการบรรทุกน้ำหนักมาก และประกอบกับอุปกรณ์เชื่อมต่อหลวมอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำได้ ดังนั้นก่อนออกเดินทางควรตรวจสอบตัวล็อค สลัก และบานพับทั้งหมดว่าทำงานได้อย่างสมบูรณ์หรือไม่ และต้องระมัดระวังในเรื่องของน้ำหนักว่าไม่บรรทุกเกินกว่าความสามารถในการขนสัมภาระหรือไม่ เพื่อให้การเดินทางของคุณเรียบรื่น และถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
12. อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยต่างๆ
อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย อาทิ เข็มขัดนิรภัย การตั้งค่าถุงลมนิรภัย และไฟฉายหรือป้ายเตือนรถจอดเสีย เพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉินสำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์สวนทางมา และยังเป็นสัญลักษณ์แจ้งขอความช่วยเหลือได้อีกด้วย เพราะหากกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถใช้ไฟฉุกเฉินในรถยนต์ของคุณได้ คุณอาจจะต้องพึ่งพาการส่งสัญญาณเหล่านี้ เช่น กรณีที่ไฟฟ้าขัดข้อง / ปัญหาแบตเตอรี่
13. ประกันรถยนต์ / ประกันการเดินทาง
ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนการเดินทางว่าประกันรถยนต์ของคุณยัง Activate อยู่มั้ย และเตรียมข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินไว้ให้พร้อม ทั้งในมือถือและสมุดจดเผื่อในกรณีทีแบตโทรศัพท์หมด
การตรวจสอบทั้ง 13 ข้อนี้เป็นเพียงการช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการเดินทาง และคุณจะไม่ช็อตฟีลระหว่างการขับขี่ ช่วยให้คุณมีการเดินทางที่ปลอดภัยและสามารถผ่อนคลายความกังวล พักผ่อนได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น