8 สิ่งที่คุณควรสังเกตก่อนที่รถของคุณจะเกิดปัญหา และอาจจะเป็นเหตุทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายทั้งต่อตัวรถยนต์และตัวของคุณเอง
ผู้หญิงรู้เรื่องรถเซ็กซี่กว่าเยอะ
สืบเนื่องจากเหตุการณ์การก่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง 2 คน ถูกสังหารขณะเปลี่ยนยางใกล้กับเมือง Tongaat ประเทศ South Africa เมื่อปี 2020 และอีกเหตุการณ์คล้ายกัน มีคุณครูหญิงรายหนึ่งที่เดินทางในเมือง Ermelo ก็ถูกปล้นในขณะที่เปลี่ยนยางเช่นเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว และยังเกิดขึ้นในอีกหลายๆ ประเทศ จากกรณีที่มีหญิงสาวรถเสียและจอดขอความช่วยเหลือข้างทาง
แน่นอนว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกพื้นที่อย่างไม่คาดคิด ซึ่งวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คือการตรวจเช็คสภาพและความผิดปกติของรถยนต์อยู่ตลอดเวลา และนี่คือความผิดปกติ 8 ประการที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ
ยางรถยนต์ (Flat Tyre)
สำหรับในเรื่องของยาง สามารถสังเกตความผิดปกติได้จากการสั่นสะเทือนของพวงมาลัย รถจะถูกดึงไปยังด้านใดด้านหนึ่งและเริ่มมีเสียงแปลกๆ ออกมาจากยางขณะที่หมุน มีรอยแตกหรือรอยครูดบนผนังด้านข้าของยาง มีการนูนหรือพอง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนที่คุณผู้หญิงต้องระวังและแก้ไขในทันที
แบตเตอรี่ (Faulty Battery)
แบตเตอรี่เป็นสิ่งที่ให้พลังงานแก่ระบบหลักของยานพาหนะ สิ่งที่ควรสังเกตก็คือแป้งขาวๆ ที่เกาะเป็นก้อนอยู่บริเวณขั้วของแบตเตอรี่ ระดับน้ำต่ำ (ในกรณีที่เป็นแบตเตอรี่แบบต้องบำรุงรักษา) เครื่องยนต์หมุนอย่างช้าๆ เมื่อบิดสวิตช์กุญแจเพื่อสตาร์ทรถ หรือเสียงแตรมีเสียงที่แปลกๆ ไป เบาลง ทั้งหมดนี้คือสัญญาณเตือนจากอาการของแบตเตอรี่อ่อนแรง
ไดชาร์จ (Alternator Faults)
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ หรือ ไดชาร์จ คือส่วนประกอบสำคัญในรถยนต์ มีหน้าที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อจ่ายให้กับระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ความผิดปกติสังเกตได้จากไฟเตือนการทำงานของระบบต่างๆ จะขึ้นโชว์ที่หน้าปัด รวมไปถึงการทำงานต่างๆ ของระบบไฟในตัวรถที่เริ่มอ่อนแอลง เช่น ไฟหน้าที่สว่างน้อยลง รวมไปถึงระบบปรับอากาศในรถที่อาจจะเย็นน้อยลงกว่าเดิม อาจจะมีในส่วนของความร้อนเข้ามาเกี่ยวด้วย เพราะพัดลมไฟฟ้าหมุนได้ไม่แรงพอจะระบายความร้อน ตลอดจนสมรรถนะที่อาจจะตอบสนองไม่ดีเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นการเร่งแซง หรือ รอบเดินเบาที่อาจจะกระพือๆ ดับจนต้องเร่งเครื่องยนต์ช่วย ซึ่งหนักๆ เข้าก็อาจทำให้รถเครื่องดับกลางอากาศได้
มอเตอร์สตาร์ท (Starter Motor Faults)
ในส่วนของการทำงานของมอเตอร์สตาร์ท คือ ช่วยเหลือในการสตาร์ทเครื่องยนต์ ความผิดปกติสังเกตได้จาก เครื่องยนต์ไม่ทำงานแต่แบตเตอรี่ยังเต็มอยู่หรือเพิ่งเปลี่ยนมา คุณจะต้องทำการบิดกุญแจสตาร์ทใหม่เป็นครั้งที่ 2-3 ซึ่งปัญหานี้จะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในช่วงเริ่มต้นจนไม่สามารถสตาร์ทรถยนต์ให้ติดได้ในที่สุด
คลัตช์ (Clutch Faults)
จัดเป็นอุปกรณ์ประเภทระบบส่งกำลังของเครื่องยนต์ ที่เชื่อมต่อระหว่างเครื่องยนต์กับชุดเฟืองเกียร์ เพื่อช่วยให้เข้าเกียร์ได้ง่ายไม่กระตุก กล่าวอีกนัยก็คือเป็นอุปกรณ์ที่ทําหน้าที่ส่งพลังงานซึ่งถ่ายทอดมาจากเครื่องยนต์ ไปยังเกียร์ หรือตัดพลังงานนั้นตามต้องการ สิ่งผิดปกติที่สังเกตได้คือ การเปลี่ยนเกียร์ยากขึ้นและมีเสียงดัง รถยนต์ขยับเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยที่คลัตช์ยังกดเข้าจนสุดหรือเกือบเต็ม มีกลิ่นไหม้ (ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้จากการควบคุมคลัตช์ไม่ดี)
หัวเทียน (Spark Plug Problems)
อุปกรณ์เล็กๆ แต่มีค่าและสำคัญมากกับรถยนต์ เพราะการที่รถจะเคลื่อนที่ได้นั้นต้องใช้พลังงานความร้อน ด้วยการจุดระเบิดเพื่อขับเคลื่อนลูกสูบตลอดจนผ่านระบบส่งกำลังสู่ล้อ และการจุดระเบิดนั้นเกิดขึ้นจากหัวเทียน ซึ่งหัวเทียนจะทำหน้าที่ส่งกระแสไฟไปสู่เขี้ยว (GAP) โดยจะมีช่องว่างระหว่างปลายหัวเทียนกับเขี้ยวซึ่งตรงจุดนี้ก็คืออากาศ มันจึงทำให้เกิดการ Spark ขึ้น อาการผิดปกติของหัวเทียนสามารถสังเกตได้จากการสตาร์ท เพราะจะเกิดปัญหาในการสตาร์ท จะมีอาการเครื่องยนต์ดับ หรือได้กลิ่นน้ำมันแรง มีภาวะการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูง
ระบบไฟฟ้า (Electrical Faults)
ระบบไฟฟ้าที่เชื่อมโยงการทำงานของอุปกรณ์ภายในรถยนต์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแผงหน้าปัดจอแสดงผลที่จะบอกปริมาณของเหลวและความผิดปกติต่างๆ ของตัวรถ เบาะโดยสาร กระจก ที่ป้ดน้ำฝน ระบบถุงลมนิรภัย / ABS / EBD / ESC อาการผิดปกติของระบบไฟฟ้าจะสังเกตได้จากสัญญาณเตือนคลาดเคลื่อน เช่น มีสัญญาณไฟเตือนแต่รถยนต์ไม่ได้มีอะไรที่ผิดปกติ หรือ อุปกรณ์เริ่มมีอาการติดขัด กระจกไฟฟ้าเปิดแล้วปิดไม่ได้
ระบบส่งกำลัง (Transmission Problems)
เป็นระบบที่ช่วยควบคุมกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อผ่านระบบส่งกำลัง หรือ เกียร์ หากมีอาการหรือสัญญาณ เช่น เกียร์กระตุก เข้าเกียร์ยาก รถไม่เคลื่อนที่เมื่อเข้าเกียร์และปล่อยคลัตช์ รถมีอาการสั่นเมื่อเข้าเกียร์ มีของเหลวรั่วออกมาจากกระปุกเกียร์ มีเสียงรบกวนที่มากเกินไปเล็ดลอดออกมาจากบริเวณรอบๆ กระปุกเกียร์ แม้ว่าจะอยู่ในเกียร์ว่างก็ตาม หากมีอาการเหล่านี้คุณควรนำรถไปตรวจเช็คความผิดปกติอย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ที่สำคัญในรถยนต์ ที่หากเกิดความผิดปกติอาจส่งผลเสียหายให้แก่รถยนต์ของคุณได้ และแน่นอนว่าเป็นผู้หญิงก็ควรมีความรู้พวกนี้เอาไว้ใช้สังเกตในยามฉุกเฉิน เพื่อสื่อสารและแก้ไขได้อย่างตรงจุด ในมุมมองของเลดี้คิดว่าหากผู้หญิงที่มีความรู้เรื่องรถ และสามารถแก้ไขความผิดปกติในรถของตัวเองได้ จะดูเซ็กซี่ขึ้น และเป็นแรงดึงดูดที่ดีเลยแหละ และยังช่วยให้คุณแก้ไขสถานการณ์ริมถนนที่อาจก่อให้เกิดอันตรายที่ตามมาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปล้น การทำร้ายร่างกาย หรืออื่นๆ มากมาย
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ความคิดเห็น