รู้จักเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid จาก BYD ที่ทำให้ “รถปลั๊กอินไฮบริด” ขับขี่ได้เสมือนรถ EV Share this
EV Trends
โหมดการอ่าน

รู้จักเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid จาก BYD ที่ทำให้ “รถปลั๊กอินไฮบริด” ขับขี่ได้เสมือนรถ EV

Wongsupat
โดย Wongsupat
โพสต์เมื่อ 12 June 2567

BYD เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ได้เผยโฉมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่จะเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไทยไปในงานมอเตอร์โชว์ 2024 นำร่องโดย BYD SEALION 6 DM-i เอสยูวีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด 1.5 ลิตร ที่ใช้แพลตฟอร์ม DM-i เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะจาก BYD ที่ทำให้รถยนต์ PHEV มอบประสบการณ์ขับขี่ได้เสมือนรถยนต์ไฟฟ้า


รู้จักเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid จาก BYD

DM-i คืออะไร

DM–i Super Hybrid เทคโนโลยีขับเคลื่อนยานยนต์ที่ใช้ขุมพลังงานไฟฟ้าจากมอเตอร์เป็นหลัก โดยเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid เป็นเทคโนโลยีระบบพลังงานและชุดควบคุมการทำงานของรถยนต์ประเภท PHEV เอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ BYD โดยอักษรย่อ “DM” หมายถึง “Dual Mode” หรือระบบการทำงานที่ประสานขุมพลัง 2 รูปแบบ คือมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ส่วนอักษร “i” ย่อมาจากคำว่า “Intelligent" หรือเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ผสานการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอย่างลงตัว

รู้จักเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid จาก BYD

สิ่งที่ทำให้เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid โดดเด่นเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ คือ เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาภายใต้การขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก (Electricity-based) โดยหลักการคือจะใช้ขุมกำลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถรองรับการสร้างพลังงานด้วยการชาร์จไฟทั้งในรูปแบบกระแสตรง DC และ การแสสลับ AC จากภายนอก ซึ่งหากยังไม่เพียงพอในการใช้งานในชีวิตประจำวัน การสร้างพลังงานจากเครื่องยนต์ก็จะเป็นส่วนเสริมในการสร้างพลังงานหลักเพื่อการขับเคลื่อนให้กับ “มอเตอร์ไฟฟ้า” และเมื่อต้องการสร้างพลังงานสูงสุดเพื่อการขับเคลื่อนอย่างเต็มประสิทธิภาพ “เครื่องยนต์” จะสร้างพลังงานเสริมการขับขี่ เช่น การเร่งความเร็วกะทันหัน การแซง การขึ้นเนินสูง การขับขี่ทางไกลที่ใช้ความเร็วคงที่  เป็นต้น

ดังนั้นส่วนสำคัญของเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid คือ แพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญกับการใช้เชื้อเพลิงพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และมากกว่านั้นก็ยังพัฒนาเพื่อให้รถยนต์มีการปล่อยมลภาวะให้น้อยที่สุด กล่าวคือ ทุกๆ มลภาวะที่ปล่อยออกมาจะต้องมีอย่างจำกัดและถูกปล่อยออกมาเพื่อการใช้งานมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเปรียบเสมือนการขับเคลื่อนที่เสมือนรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด ซึ่งการขับเคลื่อนจะมีการส่งกำลังนิ่งเรียบและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและต่อเนื่องตลอดเส้นทาง

DM-i คืออะไร

ขับขี่นุ่มนวล เสมือนรถยนต์ไฟฟ้า 100%

เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ถือเป็นการพัฒนาภายใต้สถาปัตยกรรม DM พลังงานขับเคลื่อนเทคโนโลยีรูปแบบ Plug-In Hybrid เจนเนอเรชันที่ 4 ซึ่งทีมพัฒนาของ BYD เองนั้นสะสมประสบการณ์ในการวิจัยและพัฒนาต่อยอดตั้งแต่เจนเนอเรชันที่ 1 ถึง เจนเนอเรชันที่ 4 มาร่วม 15 ปี ซึ่งการพัฒนาเพื่อขีดจำกัดของประสิทธิภาพการขับเคลื่อนและเพื่อสอดคล้องกับการใช้รถพลังงานสะอาด เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ที่ปัจจุบันถูกใช้ใน BYD SEALION 6 DM-i หรือแม้กระทั่งรุ่นอื่นๆ ที่พัฒนาภายใต้สถาปัตยกรรม DM-i Super Hybrid นั้นจะขับเคลื่อนสภาวะขับเคลื่อน Hybrid รูปแบบต่างๆ ตามสถานการณ์ ดังนี้

  • EV Mode: โหมดการขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้า โดยเป็นการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ซึ่งมีการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูง เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและไร้เสียงรบกวนเสมือนกับการขับยานยนต์ไฟฟ้า 100%
  • Series Mode: หรือโหมด HEV แบบอนุกรม เป็นโหมดการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่กำลังการขับเคลื่อนของมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกสร้างพลังงานจากเครื่องยนต์ที่มีการเดินเครื่องที่เรียบเนียนจึงทำให้การสร้างพลังงานไร้รอยต่อและสร้างสรรค์การขับเคลื่อนให้มีความนุ่มนวล และด้วยการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักจึงทำให้การขับเคลื่อนนั้นเสมือนยนตกรรมไฟฟ้ามากที่สุด
  • Parallel Mode: หรือโหมด HEV แบบขนาน ซึ่งเป็นโหมดการขับเคลื่อนที่มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ประสานการทำงานกันแบบเต็มกำลัง จึงส่งมอบประสิทธิภาพในด้านพละกำลังการขับขี่ที่ดีที่สุด มักจะถูกใช้ในช่วงที่ใช้กำลังขับเคลื่อนสูง เช่น การเร่งแซง การขึ้นเขา เป็นต้น

ทั้งนี้เพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเสมือนกับการขับขี่ยนตกรรมไฟฟ้ามากที่สุด ทุกๆ การชะลอความเร็วและการเบรกนั้น ระบบ Regenerative Braking เก็บพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นสร้างพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ เพื่อเพิ่มระยะทางการเดินทางด้วยไฟฟ้าให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับปรุงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้ดีมากยิ่งขึ้นรวมถึงอัตราการปล่อยมลภาวะให้ลดน้อยลง และ เพื่อให้รถยนต์นั้นใกล้คำว่ารถยนตกรรมไฟฟ้ามากที่สุด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสถึงยนตรกรรมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่จะช่วยให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวมถึงผู้คนสาธารณะได้รับทั้งเรื่องของความปลอดภัยในการใช้ถนนสาธารณะ และ มลภาวะสภาพแวดล้อมสาธารณะที่สะอาดมากยิ่งขึ้น

DM-i Super Hybrid ถูกใช้ใน BYD SEALION 6 DM-i

จุดเด่นของเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid เป็นอย่างไร

ไฮไลต์ของเทคโนโลยี DM-i คือเป็นแพลตฟอร์มที่รวมเอานวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะไว้ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาเทคโนโลยีโดยใช้เครื่องยนต์ประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงซึ่งออกแบบเฉพาะสำหรับรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงพร้อมด้วยเทคโนโลยี Blade Battery เสริมด้วยระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่อัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ ฟังก์ชันการถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายที่มอบความสะดวกให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างมั่นใจ เช่น ระบบ VtoL ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid มีข้อได้เปรียบกว่าเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดอื่นๆ ในตลาดอยู่หลายประการ 

ข้อได้เปรียบกว่าเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดอื่นๆ ได้แก่

  • ประสิทธิภาพเชิงความร้อนของเครื่องยนต์ที่มากกว่า
  • ประสิทธิภาพการทำงานของระบบส่งกำลังไฮบริดที่มากกว่าเนื่องด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังสำหรับเทคโนโลยี Plug-In Hybrid โดยเฉพาะ
  • เทคโนโลยี Blade Battery ซึ่งปลอดภัยกว่า ทั้งยังมีความจุที่มากและเพียงพอ เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
  • เทคโนโลยี DM-i ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพทั้งด้านพละกำลัง ความนิ่งเรียบของการส่งถ่ายกำลังของขับเคลื่อน และการใช้อัตราสิ้นเปลืองของพลังงานและเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การทำงานของ NVH (ระดับเสียง ความสั่นสะเทือน และความกระด้างของรถยนต์) ที่มีประสิทธิภาพ

SEAL U DM-i 2024

พลังงานระบบไฮบริด เสมือนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%

เทคโนโลยี DM-i ได้รับการพัฒนาให้ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก และด้วยขนาดของแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาให้เพียงพอและเหมาะสมต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งหากเลือกขับรถด้วย EV Mode หรือโหมดการขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้า ในขณะที่แบตเตอรี่มีพลังงานคงเหลือปกติ ก็จะทำให้ขับขี่ได้โดยไม่สร้างมลพิษทางอากาศเลยแม้แต่น้อย เสมือนใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เพราะ EV Mode จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นระบบขับเคลื่อนหลักโดยสมบูรณ์ และไม่มีการใช้ขุมพลังจากเครื่องยนต์เลย

หรือหากขับขี่ขณะที่แบตเตอรี่มีพลังงานคงเหลือต่ำ (Low SOC หรือแบตเตอรี่น้อยกว่า 25%) ระบบก็จะยังคงใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก โดยใช้วิธีสร้างพลังงานจากเครื่องยนต์และส่งต่อมาที่มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยทั้งในเรื่องของการลดปริมาณการปล่อยมลพิษได้อย่างชัดเจน และยังเป็นการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เพราะเมื่อระบบมีพลังงานไฟฟ้าที่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนแล้ว เครื่องยนต์ก็จะหยุดทำงานแล้วเปลี่ยนกลับมาขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้พลังงานมาจากแบตเตอรี่คงเหลือแทน นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน ทำให้รถยนต์ไม่ต้องแบกภาระน้ำหนักรวมของตัวรถที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งจะทำให้เกิดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการสร้างพลังงานขับเคลื่อนมากขึ้น

บทความที่น่าสนใจ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 1.98% - 5.25% (เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 3.81% - 9.80% ต่อปี)
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 1.98% - 5.25% (เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 3.81% - 9.80% ต่อปี)

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ