สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ยางรถยนต์ของคุณแตกหรือระเบิดในระหว่างขับขี่? และเหตุการณ์ดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หากคุณไม่รู้วิธีรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันนี้
ยางรถยนต์ระเบิดเกิดจากอะไร? และจะรับมือยังไง?
อย่างที่เลดี้เคยเขียนบนความเรื่อง เทคนิคการควบคุมรถยางแบนในระยะสั้นๆ ซึ่งเป็นเทคนิคง่ายๆ เพื่อควบคุมรถยนต์ในแบบที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายไปมากกว่าเดิม แล้วถ้าหากเป็นกรณีของยางแตกหรือยางระเบิดเลยล่ะ? คุณจะรับมือกับมันยังไง? วันนี้เลดี้มี 7 สาเหตุหลักๆ ที่สามารถทำให้ยางรถยนต์แตกหรือระเบิดได้ และข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
สาเหตุของยางระเบิด / ยางแตก
1. ยางรถเสื่อมสภาพ
สาเหตุหลักอันดับต้นๆ เลยของการเกิดยางระเบิดหรือแตก ก็คือ "ยางรถเสื่อมสภาพ" ซึ่งหากยางของคุณเกิดเสื่อมสภาพวิธีสังเกตุคือ มักจะมีลมยางอ่อนกว่าปกติ ดังนั้นวิธีที่จะรู้ได้ว่ายางของคุณยังอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานอยู่หรือไม่ คือคุณจะต้องเช็คลมยางเป็นประจำ ไม่เพียงเท่านี้คุณยังต้องสังเกตุว่ามีรอยรั่ว รอบฉีกขาด หรือดอกยางเริ่มสึกแล้วหรือไม่ หากพบว่ายางของคุณเริ่มมีสภาพดังกล่าวให้รีบเปลี่ยนใหม่ในทันที
2. ยางรถเกิดความร้อน
การขับรถในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป หรือต่ำเกินไป เช่น ในพื้นที่ที่ร้อนจัดๆ หรือหนาวจัดๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์ระเบิดได้ หนักกว่านั้นอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้เลย ซึ่งหากคุณต้องเดินทางในพื้นที่เหล่านี้ คุณควรจอดพักรถยนต์เป็นระยะๆ เพื่อ Cool Down อุณหภูมิในยางไม่ให้เกิดฮีท
3. เลือกขนาดยางไม่เหมาะสม
ขนาดของยางรถยนต์ก็ต้องเป็นซีรีย์ที่เหมาะสมกับรถยนต์ เพราะหากมันไม่พอดี เช่นใหญ่ไปก็อาจเกิดไปเสียดสีกับซุ้มล้อ พอเสียดสีบ่อยๆ เข้า จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถยางระเบิดหรือแตกได้ และไม่ควรใช้ยางผิดประเภทด้วยเนื่องจากเป็นผลเสียต่อรถยนต์ในระยะยาว
4. ยางรถไม่มีคุณภาพ
การเลือกซื้อยางใส่รถยนต์ก็มีหลากหลายยี่ห้อหลากหลายรุ่น ซึ่งแน่นอนว่าในเรื่องของราคาก็ไม่เท่ากัน ยางดีได้มาตรฐานก็จะมีราคาสูง แต่บางคนก็อยากประหยัดจึงไปเลือกใช้ยางที่ไม่ได้คุณภาพ หรือเป็นยางเปอร์เซ็นต์ที่มีสภาพไม่เต็มร้อย นอกจากจะทำให้การยึดเกาะถนนไม่ดีแล้ว ยังเสี่ยงต่อการลื่นไหลอีกด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุให้ยางแตกได้ง่าย
5. เติมลมยางไม่เหมาะสม
การเติมลมยางอ่อนเกินไป หรือว่าเติมจนมันแข็งเกินไปก็ไม่ดี ซึ่งโดยปกติแล้วการเติมลมยางที่ดีควรเติมให้เหมาะสมต่อการใช้งาน รวมถึงสภาพพื้นผิวของถนนที่เราเดินทางไป ดังนั้นทางที่ดีควรเติมลมยางตามที่หนังสือคู่มือแนะนำการใช้งานของทางผู้ผลิตรถยนต์ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
6. บรรทุกน้ำหนักเกินมาตรฐาน
หากคุณเป็นผู้ประกอบการ หรือต้องขับรถเพื่อบรรทุกของให้แก่บริษัทต่างๆ จำไว้เสมอว่าหากคุณบรรทุกน้ำหนักเกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ จะทำให้ยางรถแบกรับน้ำหนักไม่ไหวโดยเฉพาะบริเวณแก้มยาง หรือบริเวณขอบยาง นั้งจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดยางระเบิดได้ ตามที่เคยเห็นเศษซากยางพวกนี้บริเวณท้องถนนหลายต่อหลายครั้ง
7. ขับขี่ด้วยความเร็วสูง
การใช้ความเร็วสูงก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ยางรถระเบิดได้ เนื่องจากอุณหภูมิของยางสูงและเกิดฮีท เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงเป็นระยะเวลานานๆ ที่สำคัญอาจก่อให้เกิดไฟไหม้รถลามมาได้ และยังเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงต่อทรัพย์สินและชีวิตด้วยเช่นกัน
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดยางรถระเบิก / ยางแตก
- ห้ามเหยียบเบรกแรงๆ โดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้รถหมุนไปชนกระแทกจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้
- ห้ามเหยียบคลัตช์ เพราะถ้าเหยียบคลัตช์แล้วรถจะไม่เกาะถนน ทำให้รถเหิน หรือลอยตัวได้
- ห้ามดึงเบรกมือเด็ดขาด แนะนำให้ประคองรถเข้าข้างทาง และค่อยๆ ถอนคันเร่งออก จับพวงมาลัยไว้ให้นิ่ง รวมไปถึงต้องดึงสติกลับมาให้ได้ ยิ่งถ้าหากคุณเป็นผู้หญิง ต้องยิ่งคุมสติให้ได้เป็นอันดับแรก
แน่นอนว่าเหตุการณ์ร้ายๆ เหล่านี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็สามารถป้องกันได้ หากคุณดูแลเอาใตใส่และตรวจสอบสภาพของรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ และควรเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินไว้ทุกขณะ เพราะอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้นสติจึงสำคัญ รวมถึงการมีความรู้เบื้องต้นในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วย
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น