บทความนี้ออโต้สปินน์ บินไปประเทศจีนกับ BYD ได้ลองขับเจ้า Sealion 6 Plug-in Hybrid ที่มาพร้อมเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ซึ่งรุ่นนี้เตรียมเปิดราคาในไทยอย่างเป็นทางการ ช่วงเดือนสิงหาคมนี้
ก่อนที่เราจะไปทดลองขับเจ้า BYD Sealion 6 เรามาทำความรู้จักกับเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid กันก่อนครับ ว่าคืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร
เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid จาก BYD
เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid พัฒนาภายใต้สถาปัตยกรรม DM พลังงานขับเคลื่อนเทคโนโลยีรูปแบบ Plug-In Hybrid ที่ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก (Electricity-based) โดยมี Blade Battery ที่รองรับการชาร์จไฟทั้งในรูปแบบกระแสตรง DC และ กระแสสลับ AC และเมื่อไฟในแบตเตอรี่อยู่ในระดับที่ต่ำ เครื่องยนต์จะสร้างพลังงานกลับไปเก็บที่แบตเตอรี่ เพื่อใช้ขับเคลื่อนให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า หรือแม้แต่ในช่วงที่ต้องการพละกำลังสูงสุด เช่นจังหวะที่เร่งแซง เครื่องยนต์ก็จะช่วยสร้างพลังงานเสริมทำให้รถมีพละกำลัง ปัจจุบันเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ถูกใช้ใน BYD Sealion 6 DM-i และรุ่นอื่น ๆ ของ BYD
เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid มีรูปแบบการทำงานตามสถานการณ์ ดังนี้
- EV Mode: หรือโหมดการขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้า เป็นการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ซึ่งมีการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูง ขับขี่ได้นุ่มนวลไร้เสียงรบกวน เหมือนกับการขับรถไฟฟ้า 100%
- Series Mode: หรือโหมด HEV แบบอนุกรม เป็นโหมดการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้พลังงานมาจากเครื่องยนต์ มีการเดินเครื่องที่เรียบเนียน ขับเคลื่อนได้นุ่มนวล และด้วยการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักจึงทำให้การขับขี่ ได้ความรู้สึกเหมือนขับรถไฟฟ้า
- Parallel Mode: หรือโหมด HEV แบบขนาน เป็นโหมดที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์เข้าด้วยกัน ให้พละกำลังการขับขี่ที่ดีที่สุด เช่น จังหวะการเร่งแซง การขึ้นเขา เป็นต้น
รับชมคลิปรีวิว BYD Sealion 6 DM-i ได้ที่นี่
สเปคเบื้องต้นของ BYD Sealion 6 DM-i (Plug-in Hybrid)
มิติตัวรถ BYD Sealion 6 DM-i (Plug-in Hybrid)
- ยาว 4,775 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,890 มิลลิเมตร
- สูง 1,670 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,765 มิลลิเมตร
ดีไซน์ภายนอก BYD Sealion 6 DM-i (Plug-in Hybrid)
BYD Sealion 6 DM-i (Plug-in Hybrid) โดดเด่นด้วยรูปทรงกระจังหน้าแบบไร้ขอบ โค้งมนคล้ายหยดน้ำ ดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ OCEAN X โฉบเฉี่ยวด้วยโคมไฟแบบตัว C และดีไซน์ด้านข้างที่เลือกใช้เส้นสายลากยาวต่อเนื่องถึงด้านหลัง เสริมแถบอลูมิเนียมเพิ่มความพรีเมียมเมื่อวิ่งบนท้องถนน
ออกแบบท้ายรถให้มีความกว้างที่ดูเป็นธรรมชาติและสอดคล้องกับด้านหน้า ช่วยเรื่องการลู่ล่ม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ MacPherson strut และและระบบกันสะเทือนดานหลังแบบ Multi-Link ให้ความนุ่มนวล และเกาะถนน
ดีไซน์ภายใน BYD Sealion 6 DM-i (Plug-in Hybrid)
ห้องโดยสารภายใน BYD Sealion 6 ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์การผสมผสานความทันสมัยและความเรียบง่ายอย่างลงตัว มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด ห้องโดยสารกว้างขวาง ตกแต่งได้หรูหราลงตัว
ขุมพลัง BYD Sealion 6 DM-i (Plug-in Hybrid)
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid 1.5 ลิตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า แบบ Permanent magnet synchronous motor พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 18.3 kWh
- กำลังสูงสุด 214 กิโลวัตต์
- แรงบิดรวมสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร
- ถังน้ำมัน 60 ลิตร
- แบตเตอรี่ 18.3 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
- ระยะทางรวมสูงสุด 1,100+ กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 92 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
ทดลองขับ BYD Sealion 6 DM-i (Plug-in Hybrid)
สำหรับการลองขับในครั้งนี้เราอยู่กันที่สนามทดสอบของ BYD ที่ประเทศจีน แม้จะเป็นการทดลองขับแบบสั้น ๆ แต่ก็ทำให้ได้ทราบถึงสมรรถนะในด้านต่าง ๆ
เริ่มกันที่อัตราเร่ง จากการลองขับ ผมว่าเจ้าคันนี้เป็นรถที่มีความแรงเพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งตอนที่ขับนั้นเราวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้า 100% พุ่งออกตัวไปแบบเงียบ ๆ ไร้แรงหน่วง ได้ยินเพียงเสียงวี๊ดของมอเตอร์เล็กน้อย ช่วงที่เป็นจุดเบรก น้ำหนักของแป้นเบรกกำลังดี เบรกแล้วปลอดภัยไม่เสียอาการ ในช่วงที่เป็นทางโค้ง หากขับเข้าโค้งที่ความเร็วทั่วไปก็ถือว่าเกาะถนนได้ดี แต่ถ้าเราสาดโค้งแรง ๆ จะมีอาการยวบยาบออกมาให้เห็น ซึ่งก็เข้าใจว่ารถทรงนี้เน้นเป็นรถครอบครัวมากกว่าที่จะเอามาสาดโค้งแรง ๆ แบบนี้ ถ้าใครที่เน้นขับซิ่งอาจจะต้องปรับเซตในเรื่องของระบบช่วงล่างให้เฟิร์มมากกว่านี้อีกเล็กน้อย
ในเรื่องของฟีลลิ่งพวงมาลัย ถ้าขับในเมืองที่การจราจรหนาแน่นผมว่าเบากำลังดี พวงมาลัยเบาหมุนง่ายไม่เมื่อยแขน แต่ถ้าใช้ความเร็วสูงผมว่าพวงมาลัยมันยังเบาไปหน่อย ในเรื่องของการเก็บเสียง จากการที่ได้ลองวิ่งระยะสั้น ๆ ที่ความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. ก็เก็บเสียงได้ดี ไม่มีเสียงที่ดังจากช่วงล่างหรือเสียงลมจากภายนอก แต่ด้วยความที่เราขับอยู่ในสนามจึงใช้ความเร็วได้ไม่มากนัก เลยไม่ได้ทดสอบเรื่องเสียงที่ความเร็วสูง
สรุปโดยรวม จากการลองขับ BYD Sealion 6 DM-i (Plug-in Hybrid)
ผมว่าเจ้า BYD Sealion 6 คันนี้ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีในระดับนึงครับ ตัวรถจะเน้นไปที่ความนุ่มนวล นั่งสบาย ขับซิ่งได้ในบางโอกาส แต่อาจจะไม่เหมาะมากนักกับการสาดโค้งแบบรุนแรง
ด้วยความที่ BYD Sealion 6 DM-i เป็นรถ Plug-in Hybrid ที่มีขนาดแบตเตอรี่ 18.3 kWh หากเราชาร์จไฟเต็ม 100% เคลมไว้ว่าจะวิ่งได้ที่ระยะทางประมาณ 90 กว่ากิโลเมตร วิ่งจริงผมเผื่อให้คร่าวๆก็น่าจะประมาณ 60-70 กิโลเมตร ซึ่งมันก็เพียงพอสำหรับการขับเดินทางไป-กลับที่ทำงาน หากใครที่ใช้รถต่อวันไม่เยอะ คุณสามารถใช้คันนี้วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้า 100% ได้เลย และที่สำคัญ BYD Sealion 6 DM-i (Plug-in Hybrid) ยังรองรับการชาร์จทั้งไฟกระแสสลับ AC และไฟกระแสตรง DC ใช้เวลาชาร์จแปบเดียวไฟก็เต็มแล้ว แต่ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาชาร์จไฟ ก็สามารถวิ่งได้ด้วยโหมดไฮบริด
เอาเป็นว่า หากใครที่กำลังมองหารถที่สามารถวิ่งได้ทั้งไฟฟ้าล้วน และน้ำมัน BYD Sealion 6 รุ่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจครับ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น