มาดูความคล้ายคลึงและความแตกต่างระหว่าง HYPTEC HT Luxury กับ XPENG G6 Long Range ซึ่งมีสมรรถนะจัดอยู่ในกลุ่มที่ใกล้เคียงกัน จะมีไฮไลท์อะไรที่น่าสนใจบ้างไปชมกันค่ะ
HYPTEC HT Luxury vs XPENG G6 Long Range
ทยอยเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับรถยนต์สัญชาติจีนพลังงานไฟฟ้า SUV สไตล์ลักซ์ชูรี ล่าสุด GAC ได้เปิดตัว HYPTEC HT ที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกับทาง XPENG G6 ซะเหลือเกิน จนอดไม่ได้ที่จะจับมาเทียบกันให้เห็นดีเทลที่ลงลึกทุกรายละเอียดของทั้งสองคัน ซึ่งวันนี้เลดี้ขอนำเอา HYPTEC HT ในรุ่น Luxury และ XPENG G6 ในรุ่น Long Range มาดูความเหมือนและความแตกต่างของทั้งสองรุ่นค่ะ
การออกแบบดีไซน์ภายนอก
เลดี้ขอเริ่มจากน้องใหม่อย่าง HYPTEC HT Luxury ในเรื่องของการออกแบบภายนอก พวกเขานำเสนอในเรื่องของเทคโนโลยีและความล้ำสมัย ออกแบบตามหลักแนวคิด "Aesthetics of mechanics and humanity" ด้วยเส้นสายที่โค้งมนและลื่นไหล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ไฟหน้าดีไซน์แบบ Diamond Cut ไฟท้าย Horizon ดีไซน์แบบรัน-ทรู ซึ่งไฮไลท์ของในรุ่นนี้ก็คือ ประตูปีกนก หรือ Gull wing doors ที่สร้างความโดดเด่นเป็นพิเศษและมอบความสะดวกสบายในการขึ้นลงจากรถ ด้วยความสูงถึง 2.3 เมตร จึงไม่ต้องก้มศีรษะหรือย่อตัวขณะขึ้น-ลง จากรถ หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วเวลาจะขึ้น-ลงรถในที่แคบๆ ล่ะ จะมีปัญหามั้ย? ขอให้เผื่อระยะด้านข้างเพียง 34 ซม. เท่านั้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางอัจฉริยะด้วยเรดาร์ 12 จุด มีระบบดูดประตูไฟฟ้า ช่วยให้ประตูเปิดและปิดได้อย่างเงียบสนิทโดยไม่ส่งเสียงรบกวน
HYPTEC HT Luxury มีมิติตัวถังยาว 4,935 มิลลิเมตร กว้าง 1,920 มิลลิเมตร สูง 1,700 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,935 มิลลิเมตร มีน้ำหนักรถเปล่า 2,250 กิโลกรัม มาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้ว และคาลิปเปอร์เบรกแบบคงที่
ทางด้าน XPENG G6 Long Range โดดเด่นในเรื่องของความอัจฉริยะ ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากนักเขียนนิยายไซ-ไฟ (Sci-Fi) ดีไซน์ด้านหน้าใช้ชุดไฟหน้า LED เต็มระบบ เปิด/ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ มีเซ็นเซอร์เตือนการชนมาให้มากถึง 12 จุด มีเรดาร์อีก 5 จุด และยังมีกล้องติดตั้งมารอบคันมากถึง 12 ตัว ผ่านการประมวลผลด้วย NVIDIA Orin-X อันทรงพลัง โครงสร้างของตัวถังเป็นแบบ Cell Integrated Body (CIB) เป็นการหลอมรวมตัวถังและแบตเตอรีเข้าด้วยกัน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าทันสมัยและดีที่สุดในปัจจุบัน ข้อดีของนวัตกรรมนี้คือช่วยให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วยลดน้ำหนัก และเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารให้กว้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อปกป้องแบตเตอรีจากการชนด้านข้างได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย โครงสร้างบริเวณประตูเป็นแบบ 3 ชั้น หลังคากระจก Panoramic Glass Roof มีฉนวนกัน ความร้อนและรังสี UV
XPENG G6 Long Range มีมิติตัวถังยาว 4,753 มิลลิเมตร กว้าง 1,920 มิลลิเมตร สูง 1,650 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,890 มิลลิเมตร มีน้ำหนักรถเปล่า 2,025 กิโลกรัม มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว
Editor Talk : ในส่วนของการออกแบบดีไซน์ภายนอก หากมองผิวเผินแล้วทั้ง 2 คัน มีความละม้ายคล้ายกัน แต่ต่างกันตรงที่การเปิดประตูหลังแบบ Gull Wing Doors ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าลูกเล่นนี้ของ HYPTEC HT โดดเด่นและว้าวมากสำหรับในบ้านเรา แต่หากมองกันในเรื่องของมิติตัวถัง HYPTEC HT จะมีความยาวกว่า XPENG G6 ประมาณ 182 มิลลิเมตร สูงกว่า 50 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อกว้างกว่า 45 มิลลิเมตร แต่มีความกว้างเท่ากันที่ 1,920 มิลลิเมตร
การออกแบบดีไซน์ภายใน
HYPTEC HT Luxury มาพร้อมกับความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส เบาะโดยสารหุ้มด้วยวัสดุหนัง Nappa คุณภาพสูง ที่พักแขนทำจากวัสดุไม้แท้ ติดตั้งเบาะรองน่องผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า ความลักซ์ชูรีอยู่ที่เบาะโดยสารตอนหลังที่สามารถปรับเอนได้มากถึง 143 องศา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Beach Chair ทำให้ผู้โดยสารสามารถนอนพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบาย และยังมีที่รองขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ที่สามารถเหยียดขานอนได้อย่างอิสระ ติดตั้งโต๊ะอเนกประสงค์ในเบาะหลังคนขับ ไว้สำหรับทำงานหรือทานอาหารได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบนวดไฟฟ้า 10 จุด สำหรับคู่หน้า ปรับโหมดการนวดได้ 5 รูปแบบ หลังคากระจกแบบพาโนรามาขนาด 2.6 ตารางเมตร ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยกระจกลามิเนตสองชั้นรอบคัน มาพร้อมกับพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 670 ลิตร พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บสัมภาระแบบสองชั้นขนาด 80 ลิตร และยังมีพื้นที่จัดเก็บด้านหน้ารถใต้ฝากระโปรงหน้าขนาด 55 ลิตร ให้อีกด้วย
ADiGO SPACE ห้องโดยสารอัจฉริยะของ HYPTEC HT Luxury มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงแบบ 4 ตำแหน่ง ไม่ว่าผู้ใช้อยู่ที่ใดภายในรถ ระบบสามารถรับรู้และดำเนินการตามคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว สัมผัสสุนทรียภาพด้วยระบบเสียง Dolby Atmos 7.1.2 พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 22 ตำแหน่ง ทำงานร่วมกับซับวูฟเฟอร์ให้เสียงเบสที่หนักแน่น นอกจากนี้ยังมีลำโพงอิสระในตำแหน่งไหล่ของผู้ขับขี่ ช่วยให้สามารถพูดคุยโทรศัพท์หรือฟังระบบนำทางโดยไม่รบกวนการฟังเพลงหรือภาพยนตร์ของผู้โดยสาร ติดตั้งหน้าจอละเอียดสูง 2.5K ขนาด 14.6 นิ้ว ประมวลผลด้วยชิป Qualcomm 8155 รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และแอปพลิเคชันอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับระบบน้ำหอมปรับอากาศ ที่สามารถสั่งการผ่านหน้าจอกลาง ซึ่งสามารถเลือกกลิ่นได้ถึง 3 รูปแบบ ฟังก์ชันอันชาญฉลาดอื่นๆ อาทิ ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าหรือเสียสมาธิขณะขับขี่ และ ฟีเจอร์การปรับที่นั่งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าแบบคลิกเดียวบนจอคอนโซลกลาง
ภายในห้องโดยสารของ XPENG G6 Long Range มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 10.2 นิ้ว ติดตั้งบริเวณด้านหน้าผู้ขับขี่ และมีหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 14.96 นิ้ว ติดตั้งบริเวณกลางคอนโซล มีระบบสั่งการด้วยเสียง Full scenario voice assistant 2.0 รองรับ Real time continuous voice command recognition รองรับการใช้งานแบบมัลติโซนและการใช้งานแบบออฟไลน์ สามารถอัพเดทตัวรถทั้งเฟิร์มแวร์และซอฟท์แวร์โดยอัตโนมัติ ผ่านระบบออนไลน์ (OTA-Over The Air) รวดเร็วทันสมัยก่อนใครได้ตลอดเวลา ในส่วนของเบาะโดยสารด้านหลังมีช่องแอร์ให้ 2 ช่อง สามารถปรับเอนเพิ่มเติมได้ มาพร้อมกับที่วางแขนตรงกลาง และที่วางแก้วน้ำ 2 ช่อง Wireless Charger mujรองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 50w.
เอาใจสายแคมป์ปิ้งด้วย Camp Mode สามารถปรับเบาะนอนเป็นเตียงขนาดใหญ่ภายในรถได้ โดยการถอดหัวหมอนเบาะแถวหน้าออก และกดไปที่โหมดแคมป์ ตัวรถจะปรับเบาะให้พอดีกันโดยอัตโนมัติ ซึ่งเลือกได้ว่าจะให้พับเฉพาะฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า หรือพับเบาะนั่งทั้งหมดในรถ
Editor Talk : การออกแบบภายในห้องโดยสาร ถ้าพูดถึงในเรื่องการดีไซน์ของทั้ง 2 คันอาจจะไม่แตกต่างกันมาก ก็คือหลักๆ จะมีเพียงหน้าจออินโฟเทนเมนท์ สำหรับสั่งการระบบปฏิบัติการต่างๆ ของตัวรถ มีลำโพงส่วนตัวบริเวณหมองรองศีรษะในที่นั่งของผู้ขับขี่ มีระบบสั่งการด้วยเสียงแบบมัลติโซน ในส่วนที่แตกต่างกันจะเป็นพวกฟังก์ชันต่างๆ ซึ่งทาง HYPTEC HT นั้นมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ เบาะโดยสารตอนหลังแบบ Beach Chair, โต๊ะอเนกประสงค์ และระบบน้ำหอมปรับอากาศ
ขุมพลังการขับเคลื่อน
สำหรับสมรรถนะของ HYPTEC HT Luxury ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 250 กิโลวัตต์ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ทำงานควบคู่กับแบตเตอรี Magazine Battery 2.0 ขนาดความจุ 83.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ด้วยสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ และเทคโนโลยี “ซูเปอร์ชาร์จ” รองรับการชาร์จเร็ว สามารถชาร์จไฟจาก 10-70% ได้ภายใน 15 นาที มีระยะทางขับขี่สูงสุด 620 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 5.8 วินาที Top Speed สูงสุดอยู่ที่ 183 กิโลเมตร /ชั่วโมง มาพร้อมกับระบบจ่ายกระแสไฟสู่อุปกรณ์ภายนอก V2L ให้กำลังสูงสุด 3,300 วัตต์
ในส่วนของ XPENG G6 Long Range มาพร้อมกับขุมพลัง มอเตอร์ไฟฟ้า 210 กิโลวัตต์ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 285 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ทำงานควบคู่กับแบตเตอรีขนาด 87.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ โดย SiC Architecture มีระยะทางขับขี่สูงสุด 625 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 6.2 วินาที Top Speed สูงสุดอยู่ที่ 200 กิโลเมตร /ชั่วโมง และมีระบบจ่ายกระแสไฟสู่อุปกรณ์ภายนอก V2L ให้กำลังสูงสุด 3,000 วัตต์
Editor Talk : HYPTEC HT มีแบตเตอรีที่เล็กกว่าทาง XPENG G6 แต่มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดมากกว่า 40 กิโลวัตต์ เลยส่งผลให้มีแรงม้ามากกว่า 55 แรงม้า ซึ่งทั้ง 2 คันมาพร้อมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ สำหรับระยะทางในการขับขี่สูงสุด XPENG G6 ทำตัวเลขได้มากกว่า แต่ห่างกันเพียง 5 กิโลเมตร เท่านั้น
เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัย
HYPTEC HT Luxury ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม AEP 3.0 ที่มีรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.6 เมตร ช่วยให้การควบคุมเป็นเรื่องง่าย ให้ความคล่องตัวสูง ได้รับการจูนช่วงล่างแบบรถซูเปอร์คาร์ ทำให้มีการตอบสนองที่แม่นยำ ปรับแต่งโหมดการขับขี่ได้อย่างอิสระ โดยที่ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbones) และด้านหลังเป็นแบบอิสระ 5-Link ลดการโคลงและสะเทือนในขณะจอดหรือเลี้ยว เสริมด้วย ASTC (Eagle Claw) ระบบรักษาเสถียรภาพอัจฉริยะ ช่วยปรับสมดุลของตัวรถโดยอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงจากการลื่นไถลของรถในสภาพฝนตก หรือเมื่อรถเสียการควบคุม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ยังได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจากสถาบัน C-NCAP และได้รับคะแนนระดับ G (ระดับสูงสุด) ในด้านการปกป้องผู้โดยสาร, การปกป้องคนเดินถนน และความปลอดภัยเชิงรุก จากสถาบัน Zhongbao Research มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะมากมาย ดังนี้
- ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านหน้า (SRS Airbags)
- ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านข้างตอนหน้า
- ม่านถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านข้าง
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน (LDP)
- ระบบไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
- ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้ (RAW)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (ACC-S&G)
- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICA)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบควบคุมความเร็วในขณะเข้าโค้ง (CSC)
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DMS)
- ระบบเสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS)
- ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
สำหรับ XPENG G6 Long Range มีระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยทั้งระบบ XPILOT Driving และระบบ XPILOT Parking ที่ช่วยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางและการช่วยจอดรถ ประกอบด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
- ระบบรักษาตัวรถให้อยู่กึ่งกลางช่องทาง
- ระบบควบคุมการเข้าโค้งอัตโนมัติแบบแปรผัน
- ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ
- ระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติตามป้ายสัญญาณจราจร
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติแบบไร้คนขับ
- ระบบออกจากช่องจอดรถอัตโนมัติ
- ระบบช่วยจอดพร้อมกล้อง 360 องศา
- ระบบจำลองการมองเห็นใต้ท้องรถ
- ระบบนำรถออกจากช่องจอด
- ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่
- ระบบตรวจสอบระยะห่างด้านหน้า
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบเตือนมุมอับสายตา
- ระบบเตือนการเปิดประตู
- ระบบเตือนรถออกนอกเลน พร้อมควบคุมให้อยู่ในช่องทาง
- ระบบเตือนการชนด้านหลัง
- ระบบเตือนมุมอับสายตาขณะถอยหลัง
Editor Talk : สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐาน ทั้งคู่ติดตั้งมาให้แบบไม่แพ้กัน แต่ในส่วนของระบบช่วยเหลือการขับขี่ต้องขอยกให้กับทาง XPENG G6 ซึ่งใส่มาให้แบบล้นๆ เรียกว่าเกือบจะ Full Self-Driving เลยก็ว่าได้ รวมถึงมีระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติแบบไร้คนขับและ Summon ระบบออกจากช่องจอดรถอัตโนมัติ
HYPTEC HT Luxury มาพร้อมกับราคาจำหน่าย 1,749,000 บาท ส่วน XPENG G6 Long Range มาพร้อมกับราคาจำหน่าย 1,599,000 บาท ทั้ง 2 รุ่นเป็นตัวท็อปสุด ซึ่งทาง HYPTEC HT น่าจะแพงกว่าเพราะประตู Gull Wing Doors มุมมองของเลดี้ ในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ของ HYPTEC HT ยังพูดได้ไม่เต็มปากเพราะยังไม่ได้ทดลองขับ แต่ถ้ามองภาพรวม อาทิ ความจุของแบตเตอรี, ระยะทางขับขี่สูงสุด, อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็ถือว่าสูสีกันมากเลยทีเดียว ก็ต้องขอสรุปในความคิดเห็นส่วนตัวว่า หากใครที่ชื่นชอบความโดดเด่น ลักซ์ชูรี และความสะดวกสบาย ให้เลือก HYPTEC HT แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบความชาญฉลาดของ Software ที่อัดแน่นไปด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ ให้ไปเลือก XPENG G6 ค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น