เปรียบเทียบสมรรถนะ ฟังก์ชันการใช้งาน เทคโนโลยีความปลอดภัย รวมถึงดีไซน์และความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย ระหว่างรถยนต์ไฟฟ้า JAECOO 6 4WD EV และไฮบริดเลือดผสม GWM TANK 300 Ultra Hybrid
ขาลุยว่าไงดี? JAECOO 6 รถยนต์ไฟฟ้า หรือ GWM TANK 300 ไฮบริดเลือดผสม
พามาดูรถยนต์สายลุยเพื่อนร่วมสัญชาติอย่าง JAECOO 6 EV Long Range 4WD และ GWM TANK 300 Ultra Hybrid เปรียบเทียบความสามารถในเชิงสมรรถนะของการขับขี่แบบออฟโรด ว่ารถยนต์ไฟฟ้าหรือไฮบริดเลือดผสม ใครจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกว่ากัน รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานและเทคโนโลยีต่างๆ และความคุ้มค่าในราคาที่ต้องจ่าย ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย
มิติตัวถังและดีไซน์ภายนอก
เริ่มต้นกันด้วย JAECOO 6 EV Long Range 4WD รถยนต์ไฟฟ้าทรง Kei Car ยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น หรือที่บ้านเราคุ้นเคยกันในชื่อรถยนต์ทรงกล่อง โครงสร้างตัวถังเป็นแบบอะลูมิเนียม ตัวถังออกแบบแบบ One Box Design ที่มีระยะยื่นหน้า-หลังสั้นมาก ซึ่งมีมิติตัวถังยาว 4,406 มิลลิเมตร กว้าง 1,910 มิลลิเมตร สูง 1,715 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 2,715 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้น 195 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักรถเปล่าเท่ากับ 1,949 กิโลกรัม มี Approach Angel 28 องศา และ Departure Angel 32 องศา ทำให้สามารถขับขี่ในน้ำที่ลึกระดับ 60 ซม. ได้แบบสบายๆ มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ Matrix Adaptive ทำงานอัตโนมัติสามารถปรับระดับได้ง่ายด้วยระบบไฟฟ้า มีไฟส่องสว่างรูปตัว i สำหรับขับขี่เวลากลางวันแบบ LED พร้อมกับฟังก์ชั่นไฟส่องนำทางหลังดับเครื่อง ในส่วนของไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแบบ LED โดยที่ในรุ่น 4WD จะใช้ยางขนาด 19 นิ้ว มีระบบปิดบานประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้า รวมถึงฝาปิดช่องชาร์จไฟก็เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าเช่นเดียวกัน
ต่อกันที่ภายนอกของ GWM TANK 300 Ultra Hybrid โดดเด่นด้วยรูปทรงสไตล์ออฟโรด คลาสสิคแบบร่วมสมัยด้วยการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งมีมิติตัวถังยาว 4,760 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร สูง 1,903 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้น 224 มิลลิเมตร ไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลมเปิด-ปิดอัตโนมัติ สามารถปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ มาพร้อมกับฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow me home) และ Daytime Running Light รวมถึงไฟตัดหมอก LED ที่ออกแบบมาสอดรับกับกระจังหน้าดีไซน์ Rectangle ที่ดูแข็งแกร่งและบึกบึน ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
Editor Talk : สรุปในเรื่องของมิติตัวถังกันก่อน หากเทียบขนาดกับทาง JAECOO 6 จะเท่ากับว่า TANK 300 ยาวกว่า 354 มิลลิเมตร กว้างกว่า 20 มิลลิเมตร สูงกว่า 188 มิลลิเมตร ฐานล้อกว้างกว่า 35 มิลลิเมตร และมีระยะห่างจากพื้นมากกว่า 29 มิลลิเมตร ส่วนการดีไซน์ภายนอกก็ต้องยอมรับว่าทาง JAECOO 6 นั้นมีการออกแบบที่สวยกว่าทันสมัยมากกว่า รวมถึงสัดส่วนที่ถ้าถามเลดี้ เลดี้มองว่า JAECOO 6 ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า ด้วยไซส์ที่ขับได้แบบสบายๆ ทั้งในเมืองและนอกเมืองไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย
ความสะดวกสบายและการออกแบบภายใน
JAECOO 6 EV Long Range 4WD มาพร้อมกับความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่ขัดกับหน้าที่ทะมัดทะแมงแบบสายลุยสุดๆ เพราะเค้าติดตั้งเบาะนั่งปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทางแบบ Super Comfort ที่ปรับยืดได้สำหรับผู้ขับขี่และที่รองน่องสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง มีฟังก์ชันนวดเพื่อความผ่อนคลายสำหรับผู้โดยสารคู่หน้า และสามารถปรับอุณหภูมิเบาะโดยสารได้ทุกที่นั่ง ติดตั้งกระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบลดเสียงภายนอก มาพร้อมกับเครื่องเสียง Infinity และลำโพง 12 ตำแหน่ง และฟังก์ชันชาร์จโทรศัพท์มือถือ 50 วัตต์ สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ภายนอก (V2L) ขนาด 3.3 กิโลวัตต์ เหมาะกับสายแคมป์ปิ้งสุดๆ มีหมอนรองศีรษะที่สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ทุกที่นั่ง และสำหรับฝั่งคนขับสามารถปรับความกระชับได้ด้วย ประตูด้านนอกเป็นแบบ Pop-up ส่วนด้านในเป็นแบบปุ่มกด
ทางด้าน GWM TANK 300 Ultra Hybrid ก็ไม่แพ้กัน ภายในนี่คือ Premium Off-Road ของแทร๊ คอนโซลหน้าหรูหรา ทันสมัย เบาะโดยสารกว้างขวางทำจากวัสดุหนัง NAPPA ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง มาพร้อมระบบนวดและระบบดันหลังไฟฟ้าสำหรับที่นั่งคนขับ ส่วนเบาะโดยสารของผู้โดยสารตอนหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง ตัวเบาะนั่งสบายนุ่มกำลังดี ฐานเบาะใหญ่ ขับทางไกลไม่รู้สึกเมื่อย นอกจากนี้เบาะโดยสารคู่หน้ายังมาพร้อมกับระบบเป่าลมใต้เบาะ ตกแต่งด้วยแสงไฟ Ambient Light สร้างบรรยากาศอันสุนทรีในทุกการเดินทาง มีหน้าจอแดชบอร์ดแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาดเท่ากัน 12.3 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อติดกันเป็นจอเดียว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth มีลำโพงรอบคันจำนวน 8 ตำแหน่งพร้อมซับวูฟเฟอร์ มาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบกรองอากาศ PM2.5 และ Ionizer ติดตั้งะนาฬิกาแบบคลาสสิกที่สวยงามลงตัว รวมถึงยังมีระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า/หลัง พร้อมช่องจ่ายไฟสำรอง 220V แบบเต้ารับ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 มาพร้อมพนักพิงปรับได้ 2 ระดับ
Editor Talk : ในส่วนของภายในต้องขอยกให้กับทาง TANK 300 เค้าค่ะ ด้วยความหรูหราประกอบกับใส่ออปชั่นให้แบบล้นๆ ไม่มีกั๊ก ให้ฟิลเหมือนรถหรูแบรนด์ยุโรปเลยทีเดียว แต่สำหรับ JAECOO 6 ก็ไม่แย่นะ แต่จะดูเพลนๆ สบายตาแบบ Minimal ตามสไตล์ของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งที่เลดี้ชอบที่สุดใน JAECOO 6 นั้นก็คือกระจกทุกบานใหญ่มาก ช่วยให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม และพวงมาลัยก็เบามากเช่นกัน
ขุมพลังการขับเคลื่อน ระหว่าง EV และ Hybrid
รถยนต์ JAECOO 6 EV Long Range 4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผลิตพละกำลังสูงสุด 279 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร ด้วยแบตเตอรี่ LFP 69.77 kWh ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 364 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP ท็อปสปีดสูงสุดล็อคไว้ที่ 150 กิโลเมตร / ชั่วโมง ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ภายในเวลา 6.5 วินาที มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 9 โหมด ได้แก่ Eco, Normal, Sport, Custom, All Road, Slippery, Beach, Muddy และ Bumpy ซึ่งจากการทดสอบขับขี่สนามแบบ Off-Road ต้องบอกเลยว่าประทับใจมาก เหมือนกับใช้ชีวิตง่ายขึ้น คิดอะไรไม่ออกปรับโหมดเป็น All Road น้องจะคิดและคำนวณให้หมดว่าในสถานการณ์แบบนี้ควรใช้โหมดอะไร และได้ลองขับลุยน้ำที่สูงถึง 55 เซนติเมตร คือขับผ่านไปได้แบบสบายๆ ถึงแม้เซ็นเซอร์จะเตือนรอบคัน แต่ก็มีกล้องที่แสดงผลแบบ Real Time ให้เราดูสถานการณ์รอบๆ ได้ตลอดเวลา ไม่เพียงแต่ขับดีบนถนน Off-Road เท่านั้น แบบ On-Road ก็ดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน การเข้าโค้งโดยที่ใช้ความเร็วในระดับเกือบๆ 70-80 กิโลเมตร / ชั่วโมง ถือว่าน้องทำได้สุดมากเอาอยู่ไม่มีปลิ้น
มาดูทางฝั่ง GWM TANK 300 Ultra Hybrid ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ให้กำลังสูงสุด 244 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร เป็น Flat Torque ในช่วง 1,700-4,000 รอบต่อนาที ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 1.7 kWh ให้กำลัง 106 แรงม้า และแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้า 268 นิวตันเมตร ติดตั้งระบบเกียร์แบบ 9 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด, โหมดพื้นหิมะ, โหมดพื้นโคลน, โหมดพื้นทราย และโหมด 4L ซึ่งการขับขี่บนเส้นทาง Off-Road ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงไปได้แบบพริ้วเลย การถ่ายแรงขับเคลื่อนหน้า-หลัง จะขึ้นอยู่กับสภาพเส้นทางและโหมดการขับขี่ที่ใช้ รวมถึงยังมีโหมดการขับ 4x4 Lo ให้เลือกอีกด้วย และยังมาพร้อมกับระบบ Cruise Control ออฟโรด เพื่อช่วยออกตัวบนทางลาดชัน โดยที่เราไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับเบรกเลยะบบจะทำให้เอง เรามีหน้าที่แค่บังคับควบคุมพวงมาลัยเท่านั้น ในส่วนของการขับขี่แบบ On-Road ถึงแม้จะมีตัวถังที่ค่อนข้างใหญ้แต่ก็เป็นรถที่คล่องตัวดีเลยทีเดียว
Editor Talk : ต้องบอกก่อนว่าสำหรับขุมพลังการขับเคลื่อนของทั้งสองคันนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราเลยไม่สามารถเทียบกันได้ ยิ่งในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ที่ดีทั้งคู่อยู่แล้ว เลดี้ขอชวนคุยในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองโดยเริ่มจาก JAECOO 6 ที่มีอัตราการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 190 วัตต์ / ชั่วโมง หรือคิดเป็น 19 กิโลวัตต์ชั่วโมง / 100 กิโลเมตร ส่วน TANK 300 อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7.6 ลิตร / 100 กิโลเมตร (จากมาตรฐานของ ECO Sticker) ซึ่งก็ไม่ได้ประหยัดทั้งคู่ ดังนั้นแล้วขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของแต่ละคน ว่าจะไปทางรถยนต์ไฟฟ้าหรือไฮบริดดี
เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัย
JAECOO 6 EV Long Range 4WD มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย ดังต่อไปนี้
- ระบบช่วงล่างด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท
- ระบบช่วงล่างด้านหลังมัลติลิงค์
- เข็มขัดนิรภัยผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าแบบรั้งกลับ
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทางแบบ 540 องศา
- กล้องบันทึกภาพแบบ Bulit-in
- เซ็นเซอร์ช่วยจอดรถด้านหน้า-ด้านหลัง
- ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS
- ระบบป้องกันรถไหลเมื่อขึ้นทางลาดชัน
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
- ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา
- ระบบเตือนเพื่อเปลี่ยนเลน และการออกจากเลน
- ระบบป้องกันการออกนอกเลน
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำ
- และอื่นๆ
GWM TANK 300 Ultra Hybrid มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย ดังต่อไปนี้
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก
- ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน
- ระบบช่วยลงทางลาดชัน
- ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน
- และอื่นๆ
Editor Talk : JAECOO 6 EV Long Range 4WD มาพร้อมกับราคาจำหน่าย 1,249,000 บาท ส่วน GWM TANK 300 Ultra Hybrid มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,799,000 บาท ส่วนตัวเลดี้มองถึงความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป ดังนั้นถ้าเป็นเลดี้จะขอเลือก JAECOO 6 เพราะด้วยความสามารถประกอบการสมรรถนะการขับขี่ แลกกับราคา 1.2 ล้านบาท เลดี้ว่ามันคุ้มค่ามากกว่า ส่วน TANK 300 ดีหมดทุกอย่างแต่ราคาแรงไปเยอะเลย เพราะในความเป็นจริงแล้วที่จีนขายดีมากๆ เลยนะ แต่พอมาไทยราคาแอบแรงไปหน่อย ส่วนในเรื่องขุมพลังไฟฟ้าของ JAECOO 6 สายขึ้นเขา กางเต้นท์ ก็อาจจะต้องแวะชาร์จไฟบ่อยหน่อย ยังไงก็อย่าลืมวางแผนการเดินทางดีๆ นะคะ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น