โครงการ TJRI (โครงการศึกษาวิจัยการลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย) ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนไทย-ญี่ปุ่น วิเคราะห์ Insight จากนักลงทุนญี่ปุ่น เกี่ยวกับประเด็นบริษัทยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่นเริ่มถอนการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าเกิดจากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีน ผนวกกับยอดขายลดจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้น TJRI เห็นว่าควรเร่งหารือเพื่อรักษา Supply chain พร้อมแนะใช้สื่อภาษาญี่ปุ่น “THAIBIZ” เป็นช่องทางสื่อสาร ดูแลสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อนักลงทุนญี่ปุ่น หวังช่วยยกระดับความร่วมมือ ดึงญี่ปุ่นลงทุนประเทศไทยเพิ่ม
TJRI แนะผลักดันความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น ดึงลงทุนเพิ่ม
รัฐยกเลิกการส่งเสริม ECO Car
กันตธร วรรณวสุ ผู้ดำเนินโครงการ TJRI กล่าวว่า ซูซูกิได้เข้ามาลงทุนในไทยจากการนโยบายส่งเสริมรถยนต์อีโคคาร์ในปี 2550 ซึ่งไทยคาดหวังว่าอีโคคาร์จะมีโอกาสพัฒนากลายมาเป็น ‘โปรดักส์แชมเปี้ยน’ ลำดับที่สองของประเทศรองจากรถกระบะ ซึ่งปัจจุบันนโยบายนี้จะไม่สำเร็จตามที่คาดไว้ ดังนั้น รัฐบาลจึงยกเลิกการให้ความสนับสนุน และทางซูซูกิเองก็ต้องยอมรับที่ไม่สามารถทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้ ดังนั้นการถอนการลงทุนออกจากประเทศไทยจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ขณะเดียวกัน ในประเด็นการปิดโรงงานของค่ายญี่ปุ่นในอนาคตนั้น ปัจจุบันโรงงานของค่ายซูซูกิและซูบารุเน้นการจำหน่ายในประเทศ โดยนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบและจำหน่ายในประเทศ (CKD) ต่างกับค่ายอื่นที่เน้นผลิตเพื่อส่งออกเป็นธุรกิจหลักด้วย จึงได้รับผลกระทบจากมาตรการณ์สนับสนุนรถ EV ง่ายกว่าค่ายอื่นๆ
ทั้งนี้ ทั้งสองค่ายดังกล่าวมีจำนวนการผลิตที่น้อยจึงยังไม่กระทบต่ออัตราการผลิตยานยนต์โดยรวมของประเทศไทยมากนัก ทว่าการที่ซูบารุ ซูซูกิ รวมถึงฮอนด้าได้ถอนหรือลดการผลิตลงนั้น หากมองย้อนกลับมาจากอนาคตในอีก 10-20 ปีข้างหน้า จะพบว่าการตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นการจัดกำลังการผลิตของโรงงานต่างๆ ในโลกของตนได้อย่างรวดเร็วและชาญฉลาดแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นกับพานาโซนิคที่ตัดสินใจปิดโรงงานเก่าในไทยและย้ายไลน์การผลิตไปควบรวมที่โรงงานใหม่ในเวียดนามแทน ถือเป็นวงจรของธุรกิจตามปกติที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับยานยนต์ญี่ปุ่นในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากไม่มียอดขายสินค้าในประเทศไทยที่มีนัยยะสำคัญให้ตัดสินใจไปต่อ
อีกทั้งค่ายญี่ปุ่นอื่นๆ ที่เหลือนั้นเบื้องต้นในอีก 5-10 ปี คาดว่าจะไม่ไปจากไทยอย่างแน่นอน เพราะยังมียอดการผลิตเพื่อการส่งออกจึงไม่สามารถตัดสินใจได้เร็ว แต่ในอนาคตอินโดนีเซียหรือเวียดนามก็อาจมีขนาดตลาดในประเทศที่ขยายตัวขึ้นมาก และเพียงพอที่จะทำให้ค่ายญี่ปุ่นตัดสินใจย้ายออกจากประเทศไทยในที่สุด
เกรงสงครามราคา EV ทำธุรกิจดีลเลอร์ไม่ยั่งยืน
สิ่งที่ทำให้ธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์มีกำไรคือ การที่ผู้ผลิตช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้มีลูกค้ามาใช้บริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การซื้อซ้ำในอนาคต ทว่าสิ่งที่น่ากังวลคือ “สงครามราคา” ซึ่งค่ายจีนกำลังลดราคาอย่างหนักในปัจจุบัน ส่งผลให้คนทำธุรกิจดีลเลอร์อยู่รอดได้อย่างไม่ยั่งยืน เนื่องจากการลดราคาอย่างหนัก ทำให้ตลาดรถยนต์มือสองราคาตกหนักตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อผู้บริโภคไม่สามารถขายรถคันเก่าเพื่อเทิร์นไปซื้อรถคันใหม่ได้ง่ายมากนักจึงกระทบต่อการซื้อซ้ำในอนาคตไปด้วย
ดังนั้นสิ่งเหล่านี้อาจทำให้ธุรกิจดีลเลอร์มีแนวโน้มการขาดทุนในระยะยาว ซึ่งแตกต่างกับแนวคิดที่ค่ายญี่ปุ่นทำมาตลอดหลายสิบปี เนื่องจากญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับเจ้าของธุรกิจดีลเลอร์ทั่วประเทศเป็นอย่างมาก
ไทยชงส่งเสริม Hybrid
จากการรวบรวมข้อมูลในกรณีที่บอร์ดอีวีออกมาตรการสนับสนุนสำหรับรถยนต์ Hybrid เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมานั้น พบว่าค่ายญี่ปุ่นหลายรายได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไทยที่คำนึงถึง Supply chain รถยนต์สันดาปที่ไทยและญี่ปุ่นร่วมกันสร้างมานานกว่า 60 ปี อีกทั้งญี่ปุ่นเองไม่ได้ปฏิเสธรถ EV แต่อย่างใด ทว่าเล็งเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างนั้นต้องใช้เวลาที่เหมาะสม
โดยงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา หลายค่ายดีใจมากที่มีโอกาสนำเสนอรถ Hybrid กับผู้บริโภคไทย เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในอนาคตสำหรับผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งได้รับกระแสตอบรับรถ Hybrid ดีเป็นอย่างมาก ดังนั้นบางค่ายจึงมีแผนที่จะนำเข้าหรือผลิตรถ Hybrid ในประเทศไทย เพื่อจำหน่ายในประเทศในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน
“สาเหตุที่ยานยนต์ญี่ปุ่นเริ่มถอนการลงทุนในประเทศไทยมีหลากหลายปัจจัย เช่น ค่ายญี่ปุ่นปรับตัวต่อการเข้ามาของ EV ได้ช้า ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลง ไปจนถึงการยกเลิกการสนับสนุนนโยบายเก่า และยกระดับการสนับสนุนรถ EV ซึ่งเอื้อต่อค่ายจีนมากกว่าก็จริง ทว่า Supply chain ที่ไทย-ญี่ปุ่นร่วมกันสร้างนั้นมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งสำคัญต่อไทยอย่างยิ่งจึงควรมองเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาและควรร่วมคิดแก้ไขปัญหานี้กับนักลงทุนญี่ปุ่นโดยเร็ว
นอกจากนี้หลายค่ายญี่ปุ่นกำลังเน้นเรื่องการพัฒนา “ทรัพยากรมนุษย์” เป็นอย่างมาก ซึ่งหลายค่ายเน้นพัฒนาพนักงานไทยโดยสนับสนุนการไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น ผลักดันคนไทยให้ขึ้นมาเป็นผู้บริหารขององค์กร รวมถึงให้คนไทยมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก เพื่อการ Localization วัฒนธรรมองค์กรญี่ปุ่นให้เหมาะกับไทยและสอดคล้องกับเทรนด์ของโลกมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีอย่างมาก”
TJRI เปิดสื่อ “THAIBIZ” หวังชี้แจง ดึงญี่ปุ่นลงทุนหนุนเศรษฐกิจไทย
โครงการ TJRI พยายามใช้จุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญเรื่องธุรกิจญี่ปุ่นของตัวเอง เพื่อช่วยแก้ปัญหาของประเทศด้วยเช่นกัน เนื่องจากบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบการส่งพนักงานคนญี่ปุ่นไปประจำยังต่างประเทศ โดยมีการโยกย้ายประเทศทุกๆ 3-5 ปี ทำให้ผู้บริหารญี่ปุ่นขาดความเข้าใจบริบทการทำธุรกิจและการบริหารงาน โครงการฯ จึงอยากช่วยให้พวกเขามีความเข้าใจธุรกิจไทย รวมถึงวิธีการทำงานร่วมกับคนไทยโดยเร็วที่สุด
ดังนั้นจึงได้เปิดตัวสื่อ “THAIBIZ” เมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอเนื้อหาในแวดวงธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น ประกอบด้วยเว็บไซต์ จดหมายข่าวประจำวันที่ส่งให้แก่สมาชิกทางอีเมล และนิตยสารรายเดือน โดยปัจจุบันเครือข่ายสมาชิก THAIBIZ มีทั้งนักธุรกิจที่อาศัยอยู่ในไทยและญี่ปุ่นมากกว่า 12,000 คน จึงอยากให้ภาครัฐและเอกชนไทยใช้สื่อภาษาญี่ปุ่น THAIBIZ เสมือนนักลงทุนสัมพันธ์ (IR) เป็นช่องทางการสื่อสารโดยตรงต่อนักลงทุนญี่ปุ่นเพิ่มเติม
“ความตั้งใจที่จะให้ญี่ปุ่นยกระดับการลงทุนนั้น รวมถึงการสร้างความร่วมมือและนวัตกรรมใหม่ๆ ร่วมกับบริษัทไทยนั้น เป็นวัตถุประสงค์ที่โครงการ TJRI ผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง THAIBIZ มุ่งมั่นเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ คอยดูแลนักลงทุนชาวญี่ปุ่นทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเรามีเครือข่ายนักธุรกิจที่อาศัยอยู่ทั้งไทยและญี่ปุ่นซึ่งมีความสนใจธุรกิจของบริษัทไทยอย่างมาก จึงเป็นช่องทางที่ตอบโจทย์สำหรับบริษัทไทยที่อยากเข้าถึงนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น”
บทความที่น่าสนใจ
- วางแผนอย่างไร ก่อนถอยรถป้ายแดง
- ซื้อรถป้ายแดง ดาวน์เท่าไหร่ดี?
- 2 วิธีตรวจสอบคะแนนใบขับขี่ด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน
- จองทะเบียนรถ ด้วยวิธีจองเลขทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น