Toyota HiLux GR Sport ที่หลายคนบ่นว่าแพงแต่สุดท้ายขายดีกว่าที่คิด แล้วทำไมถึงขายดี รุ่นที่ขายในไทยแตกต่างจากรุ่นที่ขายใน ออสเตรเลีย อย่างไรบ้าง
Toyota HiLux GR Sport
HiLux GR Sport ต้องบอกว่าเป็นกระแสที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากเมื่อเปิดตัว เพราะหลายคนรู้สึกว่าก็แค่ปลายโมเดล ก่อนเปลี่ยนโฉม และด้วยราคาค่าตัวที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,509,000 บาท กระบะที่แพงที่สุดของโตโยต้า เป็นกระแสอย่างมาก แต่สุดท้ายทุกอย่างได้พิสูจน์จากยอดขายที่เกินคาดตอนนี้น่าจะมีหลัก 5,000 คันได้แล้วเรียกว่ารอรถกันยาวเลย ซึ่งทางโตโยต้าก็ไม่ได้คาดเอาไว้ว่าจะขายดีขนาดนี้
แล้วทำไมถึงได้ขายดีขนาดนี้เรียกว่า "คนซื้อไม่บ่น คนบ่นไม่ซื้อ" อันนี้ถ้าจะจริงแต่โดยหลักคือด้วยหน้าตาที่ต้องบอกว่าขับขี่ไปบนถนนมันจะดูโดดเด่นกว่า HiLux ปกติเป็นอย่างมาก ทุกอย่างดูดุดันเป็นอย่างมากเหมือนคนกล้ามโตวิ่งอยู่บนถนน และก่อนหน้านี้ทางทีมงานได้เดินทางไปจนถึงต้นกำเนิดของ Toyota HiLux GR Sport ที่ออสเตรเลีย ต้องบอกว่าเขาไม่ใช้แค่เอาชุดแต่งมากระกอบร่างเดิมแต่อย่างไร เขาได้พัฒนาอย่างจริงจังเหมือนสร้างรถอีกหนึ่งรุ่นก็ว่าได้ ทุกอย่างเกิดจากการแข่งขันดาการ์ แรลลี่
Toyota HiLux GR Sport ก็แค่รถที่ถูกตกแต่งเพิ่มจาก Toyota HiLux ในรุ่นปกติ ชุดแต่งที่มีขายตามตลาดทั่วไป อันนี้จริงเรียกว่าแต่งแล้วดูภายนอกก็เหมือนๆกัน แต่สิ่งที่ทำไม่ได้และก็ไม่คุ้มที่จะทำคือช่วงล่างที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่หลายตำแหน่งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ก่อนหน้าทีมงานได้ทดสอบ Toyota HiLux GR Sport ในออสเตรเลีย และยังไม่ได้ทดสอบรุ่นที่ขายในประเทศไทย ความแตกต่างนั้นต้องบอกว่ามีเพียงจุดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ช่วงล่างการขับขี่นั้นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย เอาจริงรุ่นที่ขายในไทยดูสวยกว่าด้วยกับชุดแต่งต่างๆภายในหน้าจอก็สวยกว่า
วันนี้ได้มีโอกาสทดสอบ Toyota HiLux GR Sport รุ่นที่ขายในไทย จุดที่ทำให้รู้สึกว่าสวยกว่าคือ สปอร์ตโรลบาร์ ที่ทำให้รถดูมีของมากกว่า ภายในจุดที่ทำให้รู้สึกต่างคือหน้าจอของไทยเป็นแบบยาวดูเข้ากับรถและชัดกว่า
การทดสอบ Toyota HiLux GR Sport
จริงๆแล้ว Toyota HiLux GR ก็มีขาย รุ่นก่อนหน้านี้แล้วที่มีชุดแต่งที่เบาๆและช่วงล่างที่ถูกปรับมาเช่นเดียวกัน
เรามาเริ่มจากรุ่นก่อนหน้านี้เพราะในรุ่นที่ขายในออสเตรเลียนั้นต้องบอกว่าขับขี่ไม่ได้แตกต่างกัน รุ่นก่อนหน้านี้กับ Toyota HiLux GR Sport นั้นแตกต่างกันชัดเจน ถ้าบอกว่า HiLux GR Sport รุ่นเล็กมีความแข็งมากกับพื้นถนนเมืองไทยแต่ในควาเร็วสูงจะควบคุมได้ดี มีความนิ่งด้วยช่วงล่างแบบ Monotube แต่สำหรับ HiLux GR Sport ใหม่ นุ่มนวลกว่าเยอะด้วยการปรับปรุงจุดยึดต่างๆใหม่หมดพร้อมด้วยฐานล้อที่กว้างขึ้นยิ่งทำให้การทรงตัวดีกว่า HiLux ทั่วไปเป็นอย่างมาก แต่นุ่มเท่าคู่แข่งที่หลายคนเอาไปเทียบคือ ford raptor ต้องบอกตามตรงว่าไม่เท่า ทาง Ford ทำได้ดีกว่า เพราะช่วงล่างที่แตกต่างกันชัดเจน
นุ่มนวลขนาดไหนนุ่มกว่ากระบะทั่วไปและในความเร็วสูงก็ให้การเกาะถนนที่ดีด้วย แต่สิ่งที่ HiLux GR Sport ทำได้ดีคือเมือเราต้องการบรรทุกของหนักกับช่วงล่างที่เป็นแหนบซึ่งจะบรรทุกได้ดีกว่าช่วงล่างที่เป็นคอยสปริงอย่างแน่นอน
เครื่องยนต์ ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร ถูกปรับจูนเป็น 224 แรงม้า 550 นิวตันเมตร เพียงพอต่อการใช้งานแล้วหลายท่านอาจจะรู้สึกว่าเอาไปทำข้างนอกก็ได้ความแรงมากว่า ทำได้ครับ แต่การรับประกันก็อาจจะหายไปแรงโรงงานน่าจะสบายใจกว่า 224 ม้าอาจจะดูไม่มากแต่การปรับจูนเน้นความแรงในรอบต่ำทำให้เราใช้คันเร่งน้อยกดเบาๆรถก็ทะยานเพิ่มความเร็วแบบต่อเนื่องไม่เน้นกระชากเน้นใช้งานแบบสบายๆ ประกอบกับช่วงล่างที่ดีทำให้ขับขี่ได้อย่างสบายน้ำหนักพวงมาลัยกำลังดีในความเร็วสูง แต่การใช้งานในเมืองน้ำหนักพวงมาลัยค่อนข้างหนักหรือเวลากลับรถวงเลี้ยวกว้างกว่ารุ่นปกติดทำให้ต้องเพื่อตลอด
ออฟชั่นที่ให้มาต้องบอกว่ามีอะไรใส่ให้หมดทุกอย่างเพราะเป็นบ้านปลายแล้วก็จัดเต็มทุกอย่าง
สรุป Toyota HiLux GR Sport
ทำไมขายดี แม้ว่าจะอยู่กับรถทดสอบเพียงแค่ 2 วัน คำตอบที่ได้คือ คุ้มค่าแน่นอน เพราะเป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกแบบในเมืองไม่ใหญ่เกิน (เสียเรื่องน้ำหนักพวงมาลัย วงเลี้ยวกว้างไป) หน้าตาดูบึกบึน
แล้วรถปลายโมเดลก็จะเปลี่ยนรุ่นแล้วนิ? แน่นอนว่าเปลี่ยนแน่นอนแต่ไม่ใช้ปีสองปีนี้แน่อน เพราะต้องออกรุ่นปกติก่อนถึงจะต่อด้วย GR และเชื่อว่ารุ่นใหม่ของท่วมแน่นอน
คุ้มไหมปลายโมเดล? คุ้มเพราะของที่ให้มานั้นเรียกว่าจัดเต็มสุดแล้ว
เทียบกับคู่แข่งอย่าง ford raptor? ต้องยอมรับว่า ford raptor พัฒนามาตั้งแต่การผลิตเรียกว่าเป็นรุ่นพิเศษจริงดังนั้นจึงเทียบยาก ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าเราต้องการแบบไหนชอบแบบไหนมากกว่ากัน
ความคิดเห็น