รถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นรถ EV แต่ถ้ามามองดูดีๆ เราจะพบว่ารถ EV ขนาดใหญ่นั้นมักจะมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น จนหากนำมาเทียบกับรถน้ำมันแล้ว อาจจะประหยัดไม่ได้มากนัก แถมวิ่งได้ไม่ไกล
รถไฟฟ้าคันใหญ่ วิ่งไม่ไกล
รถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เป็นจำนวนไม่น้อยเลยที่มีระยะทางขับขี่ไปได้ไม่ไกลมากนัก โดยอาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องน้ำหนักตัวรถที่มาก, ระบบขับเคลื่อนของรถ ยิ่งเป็นรถมอเตอร์ 2 ตัว จะยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก, การออกแบบตัวรถที่มีความต้านลมสูง, ระบบจัดการพลังงาน ฯลฯ
ซึ่งเหตุปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีส่วนทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนั้นๆ ขับขี่ได้ระยะทางไม่ไกลเท่าที่ควรจะเป็นในหลายๆ รุ่นที่ทาง Autospinn ได้ทดสอบมาก่อนหน้านี้ โดยเราเคยพบกับรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติยุโรปรุ่นหนึ่ง แม้ว่าจะมีขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ทะลุ 100 kWh แต่ด้วยเหตุปัจจัยข้างต้นทั้งหมดรวมกัน มันกลับทำให้ระยะทางขับขี่ไปได้เพียง 400 กม./ชาร์จเท่านั้น
และยิ่งคิดออกมาเป็นอัตราสิ้นเปลือง กับโจทย์การขับเดินทางไกล พบว่ามันจะมีค่าพลังงานตกเฉลี่ยกม. ละ 2 บาทเลยทีเดียว ซึ่งแทบไม่ได้ต่างจากรถยนต์สันดาปที่มีความประหยัดน้ำมันสูง
และด้วยเทคโนโลยี ณ ปัจจุบันนี้ ต้องยอมรับว่า รถยนต์ไฟฟ้าพยายามพัฒนาเรื่องอัตราสิ้นเปลืองให้ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ตัวรถมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ต่ำลง และที่สำคัญคือจะได้ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุสูงมากนัก เนื่องจากแบตเตอรี่ความจุสูง มักจะมีราคาสูงตามไปด้วย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อราคาจำหน่ายรถที่มักจะสูงตามขึ้นไป จนอาจไม่จูงใจเพียงพอสำหรับซื้อมาใช้งานในมุมมองของผู้บริโภค
รถปลั๊กอินไฮบริด ส่วนผสมที่ลงตัว
ด้วยโจทย์การใช้งานรถยนต์ในแต่ละวันไม่เหมือนกัน บางวันไม่ได้ต้องการขับไกล แต่บางวันจำเป็นต้องขับเดินทางไกล ซึ่งแน่นอนว่าอัตราสิ้นเปลืองพลังงานย่อมแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ในการขับโซนเขตเมืองนั้น หากขับรถด้วยความเร็วต่ำ เป็นปกติมากๆ ที่รถยนต์ไฟฟ้าจะประหยัดพลังงานมากกว่ารถยนต์สันดาปล้วน กลับกัน การขับด้วยความเร็วสูง ด้วยความเร็วคงที่ การใช้รถยนต์สันดาป จะประหยัดพลังงานมากกว่าการขับในเขตเมือง เนื่องด้วยเครื่องยนต์ทำงานด้วยความคงที่ ทำให้ประหยัดน้ำมัน
กลับกัน หากใช้รถยนต์ไฟฟ้าขับขี่ด้วยความเร็วสูง จะมีอัตราสิ้นเปลืองที่สูงขึ้น มิหน่ำซ้ำ ยังทำให้ระยะทางขับขี่สั้นลงด้วย ทำให้รถยนต์ลูกผสมที่สามารถขับได้ทั้งระบบไฟฟ้าล้วน และเครื่องยนต์สันดาปที่สามารถผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าได้ จึงตอบโจทย์ส่วนนี้
JAECOO 7 PHEV
JAECOO 7 PHEV เป็นรถยนต์ไฮบริดขนาดกลาง พิกัด B-SUV มาในรูปแบบตัวถังของรถที่สามารถออกไปลุยในเส้นทางใหม่ๆ ได้ โดยมันมีโจทย์การสร้างขึ้นมาว่า มันจะต้องลุยไปได้ไกลมากกว่า JAECOO 6 รถยนต์ไฟฟ้าทรงกล่องสายลุยที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งในประเทศไทย
โดยสามารถเดินทางไปได้ไกลกว่าด้วยขุมพลังจากทั้ง 2 ส่วน ทั้งระบบไฟฟ้า และระบบไฮบริด เพื่อทำให้รถคันนี้ไปได้ไกลกว่าต่อการเติมพลังงานเพียง 1 ครั้ง สามารถเดินทางไปได้ไกลถึง 1,200 กิโลเมตร
การออกแบบ JAECOO 7
JAECOO 7 ออกแบบในสไตล์แบบรถ SUV พิกัด B-SUV มีขนาดตัวรถใหญ่กว่า JAECOO 6 EV เล็กน้อย แต่รูปทรงของตัวรถจะออกแบบมาลู่ลมมากกว่า โดยขุมพลังที่ใช้งานจะเป็นแบบปลั๊กอินไฮบริด สามารถขับได้ทั้งระบบไฟฟ้าล้วน และระบบไฮบริด
ระบบไฟส่องสว่างของตัวรถเป็นไฟ LED ทั้งหมด ส่วนระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกให้มาแบบจัดเต็ม อาทิเช่น
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ระดับ L 2.5
- Adaptive Cruise Control
- ระบบเตือนมุมอับสายตา
- ระบบเตือนการชนด้านหลัง
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
- กล้องรอบคัน
- เซ็นเซอร์เตือนการชนรอบคัน
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน
- แท่นชาร์จมือถือไร้สาย
- ฝาท้ายไฟฟ้า
- ลำโพง Sony
ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว รัดยาง 235/50 R19
ใบปัดน้ำฝนด้านหลัง ซ่อนอยู่ใต้สปอยเลอร์
ภายใน JAECOO 7 PHEV
ภายในห้องโดยสารของ JAECOO 7 PHEV ออกแบบมาแบบเรียบๆ แต่ดุดัน เน้นโทนสีดำเป็นหลัก มาพร้อมกับออปชั่นอำนวยความสะดวกแบบครบครัน
ผิวสัมผัสของเบาะหนังถือว่ามีความพรีเมี่ยมพอควร เนื้อสัมผัสนุ่มสบาย นั่งแล้วไม่เมื่อยทั้งโซนด้านหน้าและด้านหลัง
หลังคากระจกแบบพาโนรามิก มาพร้อมม่านบังแดดระบบไฟฟ้า
มีพื้นที่เก็บสัมภาระใต้คอนโซลกลาง พร้อมช่องเสียบ USB-A, USB-C และช่องเสียบไฟ 12V อย่างละ 1 ช่อง
ชุดลำโพง Sony
เบาะนั่งด้านหลัง มีที่พักแขนกลางมาให้ พร้อมช่องแอร์
สามารถแยกพับแบบ 40:60 ได้
มีช่องเสียบ USB-A และ USB-C อย่างละ 1 ช่อง
ห้องเครื่องยนต์ของ JAECOO 7 PHEV
สเปค JAECOO 7 PHEV
เครื่องยนต์ | เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ |
มอเตอร์ | 1 ตัว |
พละกำลังสูงสุด (แรงม้า) | 346 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร) | 525 |
ระบบขับเคลื่อน | 2WD |
ความจุถังน้ำมัน | 51 ลิตร |
ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.) | 200 |
ชนิดแบตเตอรี่ | LFP |
พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh) | 18.3 |
แรงดันไฟฟ้า (V) | 400 |
รองรับการชาร์จ AC Type 2 (kW) | 6.6 |
รองรับการชาร์จ DC CCS 2 (kW) | 45 |
ระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าสูงสุด มาตรฐาน WLTP (กม.) | 88 |
2WD | ||
พวงมาลัย | พวงมาลัยไฟฟ้า | |
ระบบกันสะเทือนหน้า / หลัง | แมคเฟอร์สันสตรัท / มัลติลิ้งค์ | |
ระบบเบรคหน้า/หลัง | ดิสเบรค | |
ขนาดยางล้อ | 235/50 R19 |
มิติรถ
2WD | ||
ขนาดตัวรถภายนอก ยาว x กว้าง x สูง (มม.) |
4,500 x 1,865 x 1,670 |
|
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,672 | |
ระยะห่างจากพื้น (มม.) | 160 | |
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) |
1,870 |
|
พื้นที่เก็บสัมภาระ (ลิตร) | 326 |
JAECOO 7 PHEV ขับดีไหม
ในส่วนของการทดสอบขับขี่ของเรา เราได้ทำการทดสอบขับขี่ในประเทศจีนเป็นหลัก เพื่อดูประสิทธิภาพของรถว่าเป็นอย่างไร โดยสิ่งแรกที่ต้องชื่นชมคือเรื่องช่วงล่างของตัวรถที่จัดว่ายอดเยี่ยม ทรงตัวได้ดี ซับแรงกระแทกได้ดี พวงมาลัยถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งาน
แต่อันนี้ต้องขอออกตัวก่อนว่า พื้นถนนประเทศจีน "เรียบมาก" ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทยโดยสิ้นเชิง ถ้าหากเรามีโอกาสได้ทดสอบเจ้ารถคันนี้ในประเทศไทยอีกครั้ง จะนำมารายงานให้ทราบ
ด้านการทำงานของระบบไฮบริดถือว่าเรียบเนียนมากพอสมควร แต่นั่นคงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญมากนักเมื่อเรามาประเมินเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยหลักการทำงานของ JAECOO 7 PHEV จะเน้นการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักก่อน โดยการขับขี่เจ้ารถคันนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนกับขับรถยนต์ไฟฟ้าแทบจะทุกประการในช่วงย่านความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
แต่ถ้าเรามีการกดคันเร่งลึกขึ้น หรือมีการใช้ความเร็วสูงขึ้น ตัวรถจะเรียกให้เครื่องยนต์มาช่วยมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนด้วย ซึ่งช่วยลดภาระการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าไปได้ค่อนข้างมาก โดยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร จะเข้ามาช่วยในการส่งกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รถประหยัดไฟฟ้ามากขึ้น และยังประหยัดน้ำมันด้วย เนื่องจากเครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานอย่างโดดเดียว แต่มีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยทำงานด้วยนั่นเอง
JAECOO 7 PHEV กินน้ำมันเท่าไหร่
อัตราสิ้นเปลืองของ JAECOO 7 PHEV จากการทดสอบของนักทดสอบกว่า 7 ประเทศ จากภารกิจขับรถมาราธอนโดยไม่เติมน้ำมันกลับเข้าไป พบว่าทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ที่ 20.4 กม./ลิตร และสามารถขับได้ไกลมากกว่า 1,300 กิโลเมตร ต่อการเติมพลังงาน 1 ครั้ง โดยฝีมือของนักทดสอบชาวอังกฤษ หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ยได้ว่า รถคันนี้สามารถขับได้ไกลถึง 1,200 กม. ต่อการเติมพลังงาน 1 ครั้ง
ซึ่งถ้าเรามาคำนวณดูจากถังน้ำมัน 51 ลิตร กับน้ำมันลิตรละ 36 บาทแบบบ้านเรา พร้อมกับการชาร์จแบตเตอรี่ 18.3 kWh ให้เต็ม พบว่าจะมีค่าพลังงานอยู่ราว 2,000 บาท กับระยะทางที่ขับได้โดยเฉลี่ย 1,200 กม. นั่นหมายความว่าค่าพลังงานของรถคันนี้อยู่ราวๆ กิโลเมตรละ 1.67 บาทเท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริง "จ่ายค่าพลังงานพอๆ กับ JAECOO 6 EV รุ่น AWD รุ่นที่เราเคยทดสอบไปก่อนหน้านี้ซะอีก*"
*คำนวณจากการชาร์จไฟที่ตู้ DC ช่วง On Peak ของ PTT EV Station ที่หน่วยละ 7.7 บาท
JAECOO 7 PHEV เปิดตัวในไทย
กำหนดการเปิดตัว JAECOO 7 PHEV ในประเทศไทย จะมาให้ทุกท่านได้สัมผัสตัวจริงในงาน Motor Expo 2024 ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น