วิธีติดตั้งคาร์ซีท เบาะหน้าและหลัง แบบถูกวิธี  Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

วิธีติดตั้งคาร์ซีท เบาะหน้าและหลัง แบบถูกวิธี 

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 04 October 2567

แชร์ไอเดียการเลือกซื้อคาร์ซีทให้ได้ประสิทธิภาพ ให้ถูกประเภท รวมถึงวิธีติดตั้งคาร์ซีท เบาะหน้าและหลัง แบบถูกวิธี และเกร็ดความรู้ในเรื่องของกฎหมายคาร์ซีท อัพเดทประจำปี 2567 


วิธีติดตั้งคาร์ซีท เบาะหน้าและหลัง แบบถูกวิธี 

คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจจะมีความชุลมุนวุ่นวายกับการเลี้ยงเบบี้อยู่บ้างในช่วงแรกๆ ทั้งในเรื่องของความสะอาด สุขลักษณะต่างๆ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือในเรื่องของความปลอดภัย ยิ่งถ้าหากคุณแม่มีความจำเป็นต้องขับรถด้วยแล้ว ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นแล้วอุปกรณ์อย่าง "คาร์ซีท" จึงมีความสำคัญมากในการเดินทางเพียงลำพังกับเบบี้ตัวน้อย วันนี้เลดี้จะมาแชร์ วิธีติดตั้งคาร์ซีท ทั้งเบาะหน้าและหลัง แบบถูกวิธี ให้กับคุณแม่มือใหม่กันค่ะ  

วิธีติดตั้งคาร์ซีท เบาะหน้าและหลัง แบบถูกวิธี (2)

 

กฎหมายเกี่ยวกับคาร์ซีทที่ควรรู้ 

ในความเป็นจริงแล้วไม่ควรใช้คำว่า "ควร" แต่ "ต้องติดตั้งคาร์ซีท หรือที่นั่งนิรภัย หรือ ที่นั่งพิเศษ สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิด 6 ปี" ถึงจะถูก เพราะว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการออกกฎหมายมีผลบังคับใช้ เพื่อป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2566 หรือที่เราเข้าใจกันในชื่อ กฎหมายคาร์ซีท (Car Seat) ซึ่งหากละเลย ฝ่าฝืน มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท โดยระบุข้อความไว้ว่า

"กฎหมายฯ กำหนดให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ที่นั่งในรถ ต้องมีคาร์ซีท ซึ่งมี 2 แบบ ได้แก่ 1. ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหลังรถและที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหน้ารถ 2. ที่นั่งพิเศษแบบที่นั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง (Booster Seat) โดยที่นั่งทั้ง 2 แบบข้างต้น ต้องมีระบบยึดเหนี่ยวตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม"

"ข้อยกเว้นกรณีไม่มีคาร์ซีท แต่มีเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี นั่งในรถด้วย จะต้องปฏิบัติตามหลัก 3 ข้อที่กำหนด ดังนี้ 1. ขับรถด้วยความเร็วช้า โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และต้องขับชิดซ้าย 2. ให้เด็กนั่งในที่นั่งโดยสารตอนหลัง / กรณีรถกระบะ หรือกึ่งกระบะให้นั่งโดยสารตอนหน้าได้ แต่ห้ามนั่งท้ายกระบะ 3. จัดให้มีผู้ดูแลเด็กในขณะโดยสาร หรือให้เด็กรัดเฉพาะเข็มขัดรัดหน้าตัก (อย่างใดอย่างหนึ่ง)"

***กรณีรถรับจ้าง รถสาธารณะ ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก***

วิธีติดตั้งคาร์ซีท เบาะหน้าและหลัง แบบถูกวิธี

 

วิธีการเลือกซื้อคาร์ซีทให้ได้ประสิทธิภาพ

  • การเลือกคาร์ซีทที่ดีควรเลือกให้ตอบโจทย์การใช้งาน หากคุณต้องการใช้งานแบบระยะยาวและมีความปลอดภัยสูง ให้เลือกแบบติดตั้งถาวรที่ไม่ต้องถอดเข้าถอดออก แต่ข้อเสียของการติดตั้งแบบนี้ก็คือไม่สามารถหมุนได้และมีราคาที่ค่อนข้างสูง ส่วนหากคุณชอบการใช้งานที่หลากหลายแบบอิสระ แนะนำให้เลือกแบบเคลื่อนย้ายได้ เพราะสามารถถอดแล้วนำไปใช้กับรถเข็นได้ แต่ข้อเสียก็คือใช้เวลานานในการติดตั้ง และคุณจะต้องตรวจสอบการใช้งานให้ถี่ถ้วนทุกครั้งก่อนออกเดินทาง
  • เลือกที่มีสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยแบบสากล เช่น ECE R44/04 มาตรฐานของสหภาพยุโรปหรือ FMVSS 213 มาตรฐานประเทศสหรัฐอเมริกา และเลือกคาร์ซีทที่มีระบบติดตั้งมาตรฐาน UN หรือที่เรียกว่า ISOFIX ซึ่งเป็นรูปแบบคาร์ซีทที่ยึดติดกับตัวรถได้อย่างปลอดภัยที่สุด มีลักษณะเป็นแกนเหล็กที่ติดตั้งมาจากโรงงาน สามารถเสียบยึดติดกับรถที่รองรับ ISOFIX ได้เลย เพระาการติดตั้งคาร์ซีทแบบนี้ปลอดภัยกว่าแบบยึดติดโดยเข็มขัดนิรภัยเฉยๆ แต่ไม่ใช่ว่ารถทุกรุ่นจะมีที่นั่งที่รองรับระบบนี้ ดังนั้นแล้วควรเช็คอุปกรณ์ก่อนการเลือกซื้อ
  • เลือกที่เหมาะกับรถยนต์ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การเช็คอุปกรณ์ติดตั้งว่าคาร์ซีทที่คุณต้องการออกแบบมาสำหรับเข็มขัดนิรภัยกี่จุด และรถของคุณสามารถติดตั้งได้ตามนั้นหรือไม่ ยิ่งถ้าเป็นคาร์ซีทมาตรฐาน ISOFIX ด้วยแล้วก็ต้องยิ่งเช็คว่ารถของคุณรองรับการติดตั้งแบบนั้นหรือไม่

วิธีติดตั้งคาร์ซีท เบาะหน้าและหลัง แบบถูกวิธี (4)

 

คาร์ซีทแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

การเลือกใช้คาร์ซีทที่ดีควรเลือกให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละวัย จึงจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเบบี้ตัวน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาร์ซีทแต่ละประเภทถูกออกแบบมาให้รองรับกับช่วงสรีระ น้ำหนัก และความสูง โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบดังต่อไปนี้ 

  • คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้า หรือ ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหลังรถ สำหรับเด็กอายุแรกเกิด ถึงอายุ 2 ปี มีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม ซึ่งตัวของคาร์ซีทจะหันหน้าไปทิศทางด้านหลังรถ สามารถช่วยปกป้องศีรษะ ลำคอ และกระดูกสันหลังได้
  • คาร์ซีทแบบหันหน้าออก หรือ ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหน้ารถ สำหรับเด็กอายุ 2-7 ปี มีน้ำหนักไม่เกิน 9 กิโลกรัม 
  • บูสเตอร์ซีท สำหรับเด็กอายุ 4-12 ปี มีน้ำหนักไม่เกิน 15-18 กิโลกรัม คาร์ซีทประเภทนี้จะช่วยเสริมความสูง ลำตัวสามารพิงหลังเข้ากับพนักพิงได้ 

วิธีติดตั้งคาร์ซีท เบาะหน้าและหลัง แบบถูกวิธี (3)

 

ติดตั้งคาร์ซีทบริเวณเบาะหน้า

จริงๆ แล้วการติดตั้งคาร์ซีทไว้ที่บริเวณเบาะหน้า ไม่ค่อยได้รับความนิยมซักเท่าไหร่ เนื่องจากคุณจะต้องเช็คว่าที่นั่งข้างคนขับมีการเปิดใช้งานถุงลมนิรภัยไว้แบบไหน โดยปกติแล้วคุณจะต้องปิดการทำงานของถุงลมนิรภัยแล้วเท่านั้น ถึงจะสามารถติดตั้งได้ ห้ามติดตั้งคาร์ซีทบริเวณเบาะหน้า หากคุณยังไม่ได้ปิดการใช้งานถุงลมนิรภัย หรือไม่สามารถสั่งการการทำงานของถุงลมนิรภัยได้ แต่ถ้าหากจำเป็นต้องติดคาร์ซีทสำหรับเด็กไว้ที่นั่งด้านหน้าหรือด้านข้างคนขับ ให้ปรับเบาะรถยนต์ให้ห่างจากถุงลมนิรภัยให้มากที่สุด (ทำตามคู่มือการติดตั้ง) และใช้สายรัดตามน้ำหนักของเด็ก ดังนี้ สำหรับเด็กน้ำหนัก 9 – 12 กก. ควรใช้สายรัดแบบ 5 จุด สำหรับเด็กน้ำหนัก 15 – 25 กก. ควรใช้สายรัดแบบ 5 จุด และสำหรับเด็กน้ำหนัก 22 – 36 กก. ควรใช้สายรัดแบบ 3 จุด

ติดตั้งคาร์ซีทบริเวณเบาะหลัง

การติดตั้งคาร์ซีทไว้เบาะหลัง เป็นการช่วยให้เบบี๋ปลอดภัยที่สุด เพราะถ้าหากติดตั้งที่นั่งนิรภัยไว้เบาะหน้า เวลาเกิดอุบัติเหตุ อาจทำให้ถุงลมนิรภัยด้านหน้าอัดกระแทกเข้ากับน้อง และทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ดังนั้นแล้วส่วนใหญ่จะแนะนำให้ติดตั้งคาร์ซีทไว้ที่เบาะหลัง โดยเลือกประเภทของคาร์ซีทให้ถูกต้องตามอายุ และน้ำหนักของน้อง ติดตั้งให้ถูกต้องตามคู่มือการใช้งาน และตรวจสอบการใช้งานให้ถี่ถ้วนทุกครั้งก่อนออกเดินทาง

วิธีติดตั้งคาร์ซีท เบาะหน้าและหลัง แบบถูกวิธี (5)

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ