จริงมั้ย? รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดราคาแพงเกินไปจนไม่มีคนซื้อ

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด สร้างสถิติยอดขายได้ย่ำแย่ ในช่วง ปี 2023 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคมองว่าไม่คุ้มค่ามากพอเมื่อเทียบกับรถยนต์ประเภทอื่น คุณว่าจริงหรือไม่?

จริงมั้ย? รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดราคาแพงเกินไปจนไม่มีคนซื้อ

นอกจากยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าจะลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว เราจะเห็นได้ว่ารถยนต์ PHEV หรือปลั๊กอินไฮบริดก็มีสถิติที่ย่ำแย่เช่นเดียวกัน จากการวิเคราะห์ต่างๆ นานาๆ เผยให้เห็นว่ารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเป็นทางเลือกที่แพงเกินความคุ้มค่า เลยไม่ค่อยดึงดูดความสนใจลูกค้ารายใหม่ๆ เอาซะเลย  

• ยอดขายรถยนต์ PHEV มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 1.9% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมด ในช่วงปี 2023 จนถึงปัจจุบัน
• ผู้บริโภคจำนวนมากรู้สึกว่ารถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน ไม่ได้ให้ความคุ้มค่ามากพอ เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฮบริดแบบดั้งเดิม หรือ รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
• อนาคตของรถยนต์ PHEV ดูท่าจะลำบาก เพราะต้องโน้มน้าวผู้บริโภคที่มีศักยภาพให้จ่ายแพงกว่ารถยนต์ไฮบริดแบบดั้งเดิม 

ยอดขายปลั๊กอินไฮบริด ปี 2023 ถึง ปัจจุบัน

หลายคนมองว่ารถยนต์ PHEV หรือปลั๊กอินไฮบริด เป็นการผสมผสานเอาด้านที่ไม่ดีของกันและกันเข้ามา และหวังว่ามันจะช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดๆ เกินๆ ของรถแต่ละประเภทเข้าไปได้ ดังนั้นรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินจึงมีราคาแพงกว่า รถยนต์ประเภทอื่นๆ ด้วยราคาระดับนี้แต่ยังไม่สามารถสัมผัสประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จึงมีคำถามมากมายว่าแล้วพวกเขาจะเสียเงินจำนวนนี้ไปเพื่ออะไรกัน?

ในปี 2023 จนถึงปัจจุบัน คิดเป็นระยะเวลาประมาณ 10 เดือน รถยนต์ PHEV หรือปลั๊กอินไฮบริด มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 1.9% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมด ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนแบ่งทางการตลาด 9.4% และรถยนต์ไฮบริดแบบเดิมๆ มีส่วนแบ่งทางการตลาด 10.7% นับเป็นตัวเลขที่น้อยถึงน้อยมากๆ เลยทีเดียว คำถามคือมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมยอดขายรถยนต์ PHEV จึงไม่เติบโต?

ผู้เชี่ยวชาญพบว่าราคาซื้อขายรถยนต์ PHEV ในกลุ่ม SUV ขนาดกะทัดรัด เฉลี่ยประมาณ 1,631,450 บาท ซึ่งแพงกว่าราคาซื้อขายรถยนต์ EV ในกลุ่ม SUV ขนาดกะทัดรัด ที่เฉลี่ยประมาณ 1,235,043 บาท ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญอยู่ 396,407 บาท หรือตีกลมๆ ประมาณ 400,000 บาท 

รถยนต์ PHEV เป็นทางเลือกที่แพงเกินความคุ้มค่า?

จากข้อมูลข้างต้นได้มีการนำคะแนนประเมินความพึงพอใจของลูกค้าในสหรัฐอเมริกา มา Support เพิ่มเติม พบว่า ความพึงพอใจโดยรวมต่อรถยนต์ PHEV มีเพียง 669 คะแนน จากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนน หากเทียบกับความพึงพอใจโดยรวมต่อรถยนต์ EV ได้รับไป 716 คะแนน จากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนน ซึ่งถือว่าน่าชื่นชม ยิ่งถ้าเป็นรถยนต์ EV ในระดับพรีเมียมยิ่งได้คะแนนสูงขึ้นไปถึง 738 คะแนน จากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนน เลยทีเดียว

ผู้บริโภคจำนวนมากมีความรู้สึกถึงความยุ่งยากกว่าที่คาดไว้ และยังรู้สึกว่าตนไม่ได้รับสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดเมื่อซื้อรถยนต์ PHEV หรือปลั๊กอินไฮบริด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลองเทียบๆ ดูแล้ว ผลลัพธ์ดูเหมือนจะไม่ต่างจากรถยนต์รุ่นเดียวกันที่ไม่มีระบบไฮบริดเลย แน่นอนว่าหลายคนมองถึงจุดยืนตรงกลางระหว่างรถยนต์สันดาป กับ รถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัว แต่ก็พบว่า รถยนต์ PHEV ก็ยังไม่ตอบโจทย์ซักเท่าไหร่ 

อนาคตของรถยนต์ PHEV

อย่างที่เลดี้กล่าวมาทั้งหมด สรุปรวมๆ ว่ารถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินในขณะนี้ ต้องเผชิญกับสถานการณ์การต่อสู้ที่ยากลำบาก และผู้ผลิตยังต้องโน้มน้าวจิตใจผู้ซื้ออย่างหนักหน่วง เพราะพวกเขาต้องควักเงินที่สูงลิ่วเพื่อครอบครองรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดซักคัน รวมไปถึงการแบกรับค่า Maintenance ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่ผู้บริโภคจำนวนมาก จึงหันกลับไปเลือกใช้รถยนต์ไฮบริดแบบเดิมๆ แทน 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน