กระจก เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในรถยนต์ ซึ่งแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท และมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละมุมมอง มาดูเคล็ดลับการใช้กระจกให้ปลอดภัยและถูกวิธีตลอดการเดินทาง
เคล็ดลับการมองกระจกขณะขับรถเพื่อความปลอดภัย
"กระจก" เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เรามองเห็นมุมอับสายตาตามจุดต่างๆ ในรถยนต์ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ของคุณมากขึ้น และถึงแม้ว่ารถยนต์ในยุคปัจจุบันจะเปลี่ยนเป็นกล้องแบบ HD ในบางค่ายบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เลดี้ก็ยังมองว่ากระจกยังคงเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ วันนี้เลดี้มีเคล็ดลับการใช้กระจกยังไงให้ปลอดภัยและถูกวิธี
ประเภทของกระจกในรถยนต์
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าในรถยนต์จะมี "กระจก" หลายประเภท เพื่อเอื้ออำนวยให้เราขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังต่อไปนี้
1. กระจกมองข้างซ้าย-ขวา (Side-view Mirror)
เป็นกระจกมองข้างที่ติดตั้งไว้บริเวณประตูหน้ารถทางด้านซ้ายและขวา ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถมองเห็นรถคันอื่นๆ ตั้งแต่โซนประตูด้านข้างไปจนถึงท้ายรถในระยะไกลได้ ทั้งจากทางด้านซ้ายและด้านขวา และยังสามารถช่วยให้มองเห็นวัตถุรอบข้างตัวรถได้อีกด้วย
2. กระจกมองหลัง (Rear-view Mirror)
เป็นกระจกเล็กๆ ที่ติดตั้งไว้บริเวณกระจกหน้ารถ ทำหน้าที่หลักในการแสดงภาพของด้านหลังรถโดยตรง ซึ่งรถแต่ละรุ่นก็จะมีมุมมองที่แตกต่างออกไป โดยที่คำจัดความของกระจกมองหลังในเมืองนอกระบุว่า "The objects in the mirror may appear larger than they are." เพื่อให้เรารู้สึกว่าวัตถุด้านหลังมันเหมือนอยู่ใกล้ ให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
3. กระจกเลนส์นูน (Convex Mirror)
เป็นกระจกทรงกลมใบจิ๋วที่มีไว้สำหรับติดบนกระจกมองข้างหรือบริเวณด้านหน้าของรถตรงช่วงล้อ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเห็นจากรถประเภท SUV หรือรถขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้สามารถมองเห็นภาพในมุมมองที่กว้างขึ้น เมื่อนำไปติดบริเวณด้านหน้าของรถตรงช่วงล้อ จะสามารถมองเห็นในตำแหน่งหน้ารถไปจนถึงท้ายรถ เหมาะสำหรับการจอดแบบเทียบฟุตบาท เพื่อป้องกันล้อแม็กไปเบียดกับขอบฟุตบาทนั่นเอง
เคล็ดลับการใช้งานกระจกขณะขับรถ
การใช้กระจกในรถยนต์ช่วยขณะขับขี่ สามารถป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนได้หลายร้อยครั้งในแต่ละวัน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ควรปฏิบัติตามเคล็ดลับการใช้กระจกดังต่อไปนี้
- การเคลื่อนที่จากจุดหยุดนิ่ง หรือการสังเกตการณ์ก่อนออกตัว เพื่อประเมินสถานการณ์รอบด้านเพื่อความปลอดภัย ควรตรวจสอบมุมอับสายตา จุดบอดต่างๆ จากทั้งกระจกมองข้างและกระจกหลัง หากทุกอย่างเครียจึงสามารถขับรถออกไปได้
- การปรับเปลี่ยนความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเร่งแซงหรือการชะลอความเร็วก็ตาม ควรเช็คให้ชัวร์ก่อนว่าทางด้านข้างมีรถหรือไม่ หรือหากเป็นการชะลอคุณต้องแน่ใจว่าถ้าลดความเร็ว รถที่ขับตามมาจากด้านหลังจะสามารถเบรกได้ทัน ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะต้องเสียเวลาเรียกประกันเป็นแน่
- การเปลี่ยนเลน นอกจากการให้สัญญาณไฟว่าคุณกำลังจะเปลี่ยนเลนนะ คุณต้องมองกระจกข้างและกระจกมองหลังด้วยทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าแค่เปิดไฟก็สามารถเปลี่ยนเลนได้เลย เพราะคุณคงไม่ได้เจอคนใจดีได้ทุกวัน
- การเปิดประตูรถ ในกรณีนี้อาจดูไม่ค่อยสำคัญ แต่หากเป็นช่วงการจราจรคับคั่งอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดได้ และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้งตัวรถของคุณเองและทำให้รถที่กำลังขับสวนมาได้รับอันตรายไปด้วย ดังนั้นทุกครั้งก่อนเปิดประตูรถ ควรเช็คกระจกข้างและกระจกหลังทุกครั้งจะเป็นการดี
- ระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันอื่น ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยมักกล่าวไว้ว่า ให้เว้นระยะห่างจากคันข้างหน้าและข้างหลังประมาณ 2 ช่วงคัน เพื่อความปลอดภัย ดังนั้นแล้วระหว่างขับรถก็ควรที่จะเช็คระยะห่างทั้งหน้า-หลัง บ่อยๆ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น