เทคนิคขับรถขึ้น-ลงเขา ด้วยเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

เทคนิคขับรถขึ้น-ลงเขา ด้วยเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา

เทคนิคการขับขึ้นลงเขาอย่างไรให้ปลอดภัย ทั้งการขับด้วยรถยนต์แบบเกียร์ออโต้ และรถยนต์แบบเกียร์ธรรมดาหรือกระปุก เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง... ไปชมกันค่ะ


เทคนิคขับรถขึ้น-ลงเขา ด้วยเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา

ลมหนาวมาแล้วทุกคนนน... บรรยากาศแบบนี้เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงอากาศบริสุทธิ์บนม่อนเมืองเหนือเป็นแน่แต้กะเจ้า สาวก Camping ในปีนี้ต้องเตรียมตัวให้ดีเพราะกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งมาว่า ปี 2024 นี้จะเป็นปีที่หนาวเป็นพิเศษ และที่สำคัญอย่าลืมเช็คความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทางกันด้วยนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่เคยมีโอกาสขับรถไปเที่ยวเขากับเค้ามาก่อนเลย ต้องฟังทางนี้ค่ะเพราะว่ามันไม่หมูอย่างที่คิด หากไม่ระมัดระวังการใช้เกียร์อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวรถ จนอาจเกิดเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงได้ วันนี้เลดี้มี เทคนิคการขับรถขึ้น-ลงเขา ทั้งแบบเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา มาฝากกันค่ะ 

Camping

 

ขับขึ้นลงเขาอย่างไรให้ปลอดภัย

  1. ควบคุมคันเร่ง ควรใช้คันเร่งแบบพอดีและสม่ำเสมอ ไม่กดคันเร่งเบาหรือแรงเกินไปเพื่อให้รถมีกำลังขึ้นเขาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเส้นทางที่มีความชันต่อเนื่อง ควรเร่งคันเร่งให้ไม่ขาดช่วง เพราะหากเร่งๆ หยุดๆ จะทำให้รถเสียกำลังและอาจไหลลงมาได
  2. ควมคุมเบรก ก่อนอื่นเลยเราต้องเช็คความพร้อมของระบบเบรกก่อนออกเดินทาง ว่าอยู่ในสภาพปกติหรือไม่ ซึ่งการขับขึ้นเขาว่าสำคัญแล้ว ขับลงเขาสำคัญยิ่งกว่า ไม่ควรเหยียบเบรกแบบแช่ยาวเพราะอาจทำให้เบรกไหม้ได้ วิธีที่ถูกต้องก็คือ ควรแตะเบรกเป็นระยะๆ ในจังหวะที่จำเป็นเท่านั้น และควรเผื่อระยะเบรกเพิ่มขึ้นในขาลง เพราะความลาดชันบวกกับน้ำหนักของตัวรถอาจทำให้รถเบรกได้ช้า หากเกิดเหตุการณ์ต้องเบรกกระทันหันจะได้เบรกได้ทัน
  3. ใช้เกียร์ให้เหมาะสม การขับรถขึ้นเขาควรใช้เกียร์ต่ำ เพราะรถต้องการแรงบิดที่มากกว่าปกติในขาขึ้น  ส่วนขาลงก็ต้องการแรงฉุดเช่นเดียวกัน ที่สำคัญคือห้ามปล่อยรถไหลลงเขาโดยใช้เกียร์ N หรือเกียร์ว่างโดยเด็ดขาด เพราะเมื่อไม่มีแรงฉุดจากเครื่องยนต์จะทำให้เราต้องแตะเบรกอยู่ตลอดเวลาในการความคุมความเร็วรถ ทำให้เสี่ยงต่อเบรกไหม้และเกิดอุบัติเหตุในที่สุด

ขับขึ้นลงเขาอย่างไรให้ปลอดภัย

 

เทคนิคขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์ธรรมดา

ขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์กระปุกนั้น ผู้ขับขี่จะต้องควบคุมทุกอย่างด้วยตนเอง ตั้งแต่การเข้าเกียร์ เปลี่ยนเกียร์ หรือการถอนเท้าออกจากคลัตช์ โดยจะต้องมีความเหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ในตอนนั้นด้วย ดังนั้นสำหรับการขับรถขึ้นเขาที่เป็นทางชัน จะต้องใช้เกียร์ต่ำ เช่น เกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 เท่านั้น และหากรู้สึกว่ารถเริ่มแรงตก ให้ลดเกียร์ลงมา เช่น ขับมาเกียร์ 2 แล้วเจอทางชันมากกว่าเดิมก็ให้ลดมาที่เกียร์ 1 รถจะมีกำลังมากขึ้น

ในส่วนของมือใหม่ที่ไม่เคยขับรถขึ้นเขาหรือลงเขามาก่อนเลย อาจคาดเดาอาการของรถจากความหน่วงที่เพิ่มมากขึ้น หรือความลาดชันที่พบเจอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอทางชันมากๆ รถวิ่งได้ช้าลงกว่าเดิมจากความเร็วที่คงที่ ควรเปลี่ยนไปใช้เกียร์ต่ำ เพราะถ้าฝืนใช้เกียร์เดิมต่อไป หรือเปลี่ยนเป็นเกียร์สูงกว่าเดิมก็จะทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลังมากพอในการพารถขึ้นเขาได้ เสี่ยงทำให้รถดับกลางทางและเกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งหากยังฝืนใช้เกียร์สูงในการขับรถขึ้นเขาหรือทางชัน จะส่งผลให้ระบบเกียร์สึกหรอและพังเร็วกว่าเดิมอีกด้วย

เทคนิคขับรถขึ้น-ลงเขาด้วยเกียร์ธรรมดา

เทคนิคขับรถลงเขาด้วยเกียร์ธรรมดา

การขับลงเขาก็เช่นเดียวกัน ควรใช้เกียร์ต่ำอย่างเกียร์ 1 และเกียร์ 2 แบบเดียวกับตอนขับขึ้นเขาเลย  เพียงแค่ใช้เกียร์ให้เหมาะกับความเร็วในการลง หากทางชันมากให้ใช้เกียร์ 1และคอยแตะเบรกสลับการปล่อยเบรก เพื่อรักษาความเร็วและรอบเครื่องยนต์ให้เหมาะสม ไม่ให้รอบเครื่องสูงเกินไป หากลงเขาแบบยาวๆ ไม่ชันมาก ให้ใช้เกียร์ 2 หรือเกียร์ 3 ได้ และสามารถใช้ความเร็วได้ในระดับนึง แต่ต้องพิจารณาโดยคำนึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก โดยระวังไม่ให้รถไหลลงเขาเร็วเกินไปเพราะหากเกิดเหตุกระทันหันทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ทัน 

 

เทคนิคขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์ออโต้

การใช้เกียร์ออโต้มีข้อดีคือ เป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งจะมีเกียร์ไว้ใช้สำหรับขึ้นทางลาดชัน ดังต่อไปนี้

  • เกียร์ D3 เกียร์นี้จะจำกัดรอบวิ่งของเราให้อยู่แค่เกียร์ 1-3 (เมื่อเทียบกับเกียร์ธรรมดา) เพื่อป้องกันไม่ให้เกียร์เปลี่ยนกลับไปกลับมาบ่อยๆ ระหว่างเกียร์ 3 และเกียร์ 4 ทำให้รถมีรอบวิ่งต่ำลงแต่แรงม้าเท่าเดิม หากเราใช้เกียร์สูง รอบวิ่งจะสูงขึ้นแต่แรงม้าจะต่ำลง ดังนั้นการใช้เกียร์ D3 จึงเหมาะกับการขับรถขึ้น-ลงเนินเขา
  • เกียร์ D2 หรือ 2 เกียร์นี้จะทำให้รถยนต์วิ่งอยู่ที่เกียร์ D2 เท่านั้นตั้งแต่ออกตัวเพื่อลดอาการล้อบิด หรือ ออกตัวด้วยความเร็ว ทำให้ไม่เกิดการล้อฟรีเหมาะกับการวิ่งบนพื้นผิวที่ลื่น และเสี่ยงต่อการล้อฟรี เช่น หล่มโคลน
  • เกียร์ D1 หรือ L เกียร์นี้จะวิ่งด้วยเกียร์ 1 เท่านั้น เหมาะสำหรับจังหวะที่ต้องใช้ความเร็วต่ำมาก และต้องใช้เบรกบ่อย เช่น การลงจากเนินเขาที่มีความชันมากๆ หรือการไต่เนินเขาสูงๆ 
  • เกียร์ S สำหรับรถยนต์บางรุ่นจะมีเกียร์ S หรือ เกียร์ Sport มาด้วย ซึ่งจะเป็นการสั่งงานให้ระบบเกียร์และคันเร่งตอบสนองไวขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการสั่งงานให้ระบบเกียร์ทำการเปลี่ยนเกียร์ที่รอบเครื่องยนต์สูงขึ้นกว่าปกติ เป็นการลากรอบเครื่องยนต์สูงๆ ไว้เพื่อให้มีกำลังแรงม้าและแรงบิด เตรียมพร้อมสำหรับการเร่งทะยานไปต่อ ซึ่งในรถยนต์บางรุ่นนั้นก็ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้เกียร์ S ขึ้นเขา แทนเกียร์ต่ำอย่าง D2 หรือ L โดยเมื่อผู้ขับขี่ใช้เกียร์ S ขึ้นเขาหรือลงเขาที่มีทางชันมากๆ ระบบเกียร์จะปรับตำแหน่งเกียร์ให้เหมาะสม เพื่อให้เครื่องยนต์มีสถานะพร้อมเร่งขึ้นเนินไปต่อ และเมื่อลงเนินก็จะปรับเกียร์ลงอย่างเหมาะสม เพื่อฉุดตัวรถและชะลอความเร็วลงได้เป็นอย่างดี
  • เกียร์ M หรือ Manual รถยนต์เกียร์ออโต้บางรุ่นก็จะมีเกียร์ M มากับรถด้วย ผู้ขับขี่สามารถปรับตำแหน่งเกียร์ได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องทำการเหยียบคลัตช์เพื่อเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งในขณะขับรถขึ้นเขา หรือขับรถลงเขาก็สามารถปรับตำแหน่งเกียร์ได้ตามความเหมาะสม หลักการเดียวกันกับรถเกียร์ธรรมดา หากขับรถขึ้นหรือลงทางชันมากๆ ก็ให้ใช้เกียร์ต่ำอย่างเกียร์ M1 และ M2
  • เกียร์ B อีกเกียร์ที่ไม่ค่อยคุ้นเคยสำหรับผู้ขับขี่บางท่านที่ใช้รถยนต์เกียร์ออโต้ที่มีเกียร์ B อาจจะสงสัยว่า เกียร์ B ใช้ตอนไหนถึงจะเหมาะ? เกียร์ที่ว่านี่คือเกียร์ Brake ซึ่งในความหมายก็คือเอาไว้ใช้เบรก หรือเพื่อลดความเร็วรถลงนั่นเอง ทำหน้าที่เหมือนกับเกียร์ D1 หรือเกียร์ L เลย แต่จะเหมาะกับการใช้ตอนขับลงเขามากกว่าขับขึ้น

เทคนิคขับรถขึ้น-ลงเขาด้วยเกียร์ออโต้

เทคนิคขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้

การขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้นั้น สามารถใช้หลักการเดียวกับการขับรถลงเขาด้วยเกียร์ธรรมดาเลย คือ ห้ามใช้เกียร์ N หรือเกียร์ว่าง เพราะจะทำให้รถไหลลงด้วยความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีกำลังฉุดจากเครื่องยนต์ เสี่ยงต่อการเสียการควบคุมรถและเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งวิธีการขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้ที่ถูกต้องคือ ใช้เกียร์ต่ำอย่าง D1 หรือ D2 หรือ เกียร์อื่นๆ ที่มีติดมากับตัวรถ และมีความเหมาะสมตามความลาดชันของพื้นถนน เพื่อช่วยให้รถมีความเสถียรในการลงเขา โดยมีแรงฉุดหน่วงๆ ทำให้ขับรถลงเขาได้อย่างปลอดภัย และที่สำคัญก็คืออย่าลืมเหยียบเบรกสลับปล่อยเป็นระยะตามความเหมาะสม เพื่อคอยควบคุมไม่ให้รอบเครื่องยนต์ขึ้นสูงเกินไป รวมทั้งไม่เหยียบคันเร่งยาวๆ เมื่อลงเนิน

เทคนิคขับรถขึ้น-ลงเขา ด้วยเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา

อย่างไรก็ตามหากใช้เกียร์ต่ำไม่ถูก เครื่องยนต์อาจจะทำงานด้วยรอบสูงเกินไป ซึ่งนอกจากจะทำร้ายสภาพเครื่องยนต์แล้วหากโชคร้ายอาจจะทำให้เครื่องดับเกิดอุบัติเหตุได้ ที่สำคัญต้องย้ำอีกครั้งว่า ห้ามใช้เกียร์ว่างในขณะลงเนินชันหรือลงเขาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถไหลลงด้วยความเร็วสูง โดยไม่มีแรงหน่วงของเครื่องยนต์

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ