ตั้งศูนย์ กับ ถ่วงล้อ ต่างกันยังไง? ทำไมจึงสำคัญ?

ความแตกต่างของการ ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ ว่ามันเหมือนหรือว่าแตกต่างกันอย่างไร ทำไมจึงมีความสำคัญ และหากพบปัญหาจะมีอาการอย่าง ควรทำเมื่อไหร่? ถึงจะดี

ตั้งศูนย์ กับ ถ่วงล้อ ต่างกันยังไง? ทำไมจึงสำคัญ?

เมื่อพูดถึงในเรื่องของการเปลี่ยนยางรถยนต์ มักจะเคยได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่า "ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ" ตลอดทุกครั้ง ช่วงที่เลดี้ขับรถเป็นใหม่ๆ ก็จะสงสัยว่า ทั้ง 2 อย่างมันเหมือนหรือว่าแตกต่างกันอย่างไร แล้วจำเป็นต้องทำควบคู่กันทุกครั้งมั้ย? วันนี้ไปหาคำตอบกันค่ะ 

ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ คืออะไร?

หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าการ "ตั้งศูนย์" และ "ถ่วงล้อ" คือสิ่งเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้ง 2 อย่างมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ว่าเราสามารถทำทั้ง 2 อย่างได้ในคราวเดียวกันเท่านั้นเอง แต่จะทำแยกทำแล้วแต่อาการของรถก็ได้เช่นกัน มาดูความแตกต่างของการ ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ กันค่ะ

• การตั้งศูนย์ เป็นการตั้งค่าการทำงานของระบบช่วงล่าง  เพื่อไม่ให้รถเป๋ซ้ายทีขวาทีขณะขับขี่ ดังนั้นหากศูนย์ล้อเป็นปกติ รถจึงสามารถเคลื่อนที่ในทิศทางตรงได้อย่างแม่นยำถึงแม้จะมีการปล่อยพวงมาลัย หรือจับไว้แบบหลวมๆ ก็ตาม แต่หากศูนย์ล้อเกิดความผิดปกติ ถ้าปล่อยไว้รถจะมีอาการเป๋ไปเป๋มา ยิ่งรถมีอาการเอียงมากเท่าไหร่ นั่นหมายความว่าศูนย์ล้อยิ่งมีความผิดปกติมากเท่านั้น ส่งผลเสียต่อยางทำให้เกิดความสึกหรอ หรือเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรได้

• การถ่วงล้อ คือการถ่วงน้ำหนักให้เท่ากันในแต่ละเส้น เพราะหากดูด้วยตาเปล่าอาจจะคิดว่ายางทุกเส้นมีน้ำหนักที่เท่ากัน แต่ไม่ใช่เลย พอยางมีน้ำหนักไม่เท่ากันก็จะส่งผลให้น้ำหนักของแต่ละจุดบนเส้นรอบวงยางไม่เท่ากัน ทำให้เกิดแรงสะเทือนขณะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นกับล้อคู่หน้า อาจทำให้แรงสะเทือนส่งผ่านมายังพวงมาลัย และส่งผลให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงอาการสั่นได้มากกว่าล้อคู่หลัง การถ่วงล้อจึงเป็นการนำเอาตะกั่วถ่วงล้อไปติดไว้บริเวณด้านในของวงล้อ เพื่อให้ล้อและยางเกิดความสมดุล ช่วยลดอาการสั่นลงให้น้อยที่สุดหรือไม่มีเลย

ทำไมการ ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ จึงสำคัญ

หากปล่อยให้ศูนย์ล้อมีปัญหาหรือมีการถ่วงล้อแบบไม่เหมาะสม อาจส่งผลต่อยางทำให้สึกหรอไม่เท่ากัน และเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการต่อไปนี้ 

• การสึกหรอแบบขนนก การสึกหรอประเภทนี้มีลักษณะดอกยางด้านหนึ่งสึกน้อยกว่าและเรียบกว่า แต่อีกด้านหนึ่งมีการสึกที่มากกว่าและคมกว่า โดยปกติแล้วสาเหตุของการสึกหรอเช่นนี้จะมาจากการตั้งศูนย์ล้อที่ไม่ดี
• ยางมุมแคมเบอร์สึกหรอ การสึกหรอเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า ด้านในหรือด้านนอกของดอกยางสึกมากกว่าตรงกลางอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมุมแคมเบอร์บวกหรือลบที่มากเกินไป
• หัวหรือปลายยางมุมโทสึกหรอ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อบล็อกดอกยางด้านใดด้านหนึ่งสึกเร็วกว่าอีกด้านหนึ่งในแนวเส้นรอบวง เมื่อใช้มือลูบที่ดอกยาง คุณจะรู้สึกถึงลักษณะการสึกหรอแบบฟันเลื่อยเมื่อมองจากด้านข้าง การสึกหรอของหัว/ปลายยางมุมโท อาจเป็นสัญญาณของขอบยางสึกหรอ เนื่องจากลมยางที่อ่อนเกินไปหรือขาดการสับเปลี่ยนยางนั่นเอง

ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ ควรทำเมื่อไหร่?

การตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ ควรจะทำทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนยางเส้นใหม่ เพื่อปรับค่าต่างๆ ให้กลับมาเป็นปกติดังเดิม เพราะการขับรถตกหลุมอย่างรุนแรงก็อาจทำให้ศูนย์ล้อเปลี่ยนไปจากเดิมได้ อย่างไรก็ดี หากว่ายังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนยางเส้นใหม่ แต่ช่วงล่างของรถมีอาการผิดเพี้ยนไป เช่น รถแฉลบไปข้างใดข้างหนึ่งเมื่อปล่อยพวงมาลัย แบบนี้จะต้องนำรถเข้ารับการ "ตั้งศูนย์" หรือหากรถมีอาการสั่นขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง แบบนี้จะต้องเข้ารับการ "ถ่วงล้อ" เพื่อให้กลับมานิ่งดังเดิม

อย่างไรก็ดี อาการผิดปกติของช่วงล่างอาจไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยการ ตั้งศูนย์ - ถ่วงล้อ เสมอไป เพราะหากมีการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนช่วงล่าง ก็อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติได้เช่นกัน โดยส่วนมากแล้วช่างจะแนะนำให้เปลี่ยนหรือซ่อมช่วงล่าง จากนั้นจึงค่อยนำรถเข้ารับการตั้งศูนย์หรือถ่วงล้อตามความจำเป็นต่อไป

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน