เผยโฉมรถยนต์ Mini Cooper S Convertible 2025 เจเนอเรชันใหม่ ที่ออกมาเติมเต็ม MINI Family ให้ครบจบทุกไลฟ์สไตล์ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2 ลิตร 4 สูบ
Mini Cooper S Convertible เจนใหม่ หลังคาเปิด-ปิดอัตโนมัติในเวลาเพียง 18 วินาที
ออก Product Lines รุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อมาเติมเต็ม MINI Family ให้ฟลูออฟชั่นมากขึ้นสำหรับ Mini Cooper S Convertible 2025 ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Always Open" ซึ่งในเจเนอเรชันนี้มาพร้อมกับหลังคาเปิด-ปิดอัตโนมัติอันรวดเร็วที่ใช้เวลาเพียง 18 วินาทีเท่านั้น มอบอิสระในการขับขี่และความเพลิดเพลินตลอดการเดินทางได้อย่างแท้จริง
Mini Cooper S Convertible 2025 รถยนต์เปิดประทุนสี่ที่นั่ง ผสานสัดส่วนที่กระทัดรัดพร้อมมอบความสนุกสนานของการขับขี่ในทุกรูปแบบ ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่น่าดึงดูดใจมากที่สุดในตระกูล MINI และเป็นการกลับมาอีกครั้ง ณ โรงงาน MINI ในอ็อกซ์ฟอร์ด บ้านเกิดของแบรนด์พรีเมียมสัญชาติอังกฤษนั่นเอง
ภาพรวมของเจ้าหนูคันนี้มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กระดับพรีเมียม ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ให้ความรู้สึกถึงรถโกคาร์ตด้วยเสียงเครื่องยนต์สุดเร้าใจ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ C, S รวมถึงในรุ่น Performance อย่าง JCW การออกแบบดูสะอาดตามากขึ้น และยังคงความโดดเด่นของไฟหน้า LED ทรงกลมโต ผสานความคลาสสิกแบบร่วมสมัยตามสไตล์ของ MINI Cooper ไฮไลท์ของเค้าอยู่ที่ลูกเล่นการใช้งานหลังคาอัตโนมัติเต็มรูปแบบที่สามารถสั่งการด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว และสามารถพับเก็บลงได้ในความเร็วสูงสุดไม่เกิน 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง รวมไปถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ล้ำสมัย ช่วยให้ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้นในทุกการเดินทาง มีการปรับแต่งภายในห้องโดยสารให้ใช้งานง่ายสามารถขับได้แบบ Daily Use
รถเปิดประทุนทรงเสน่ห์กับดีไซน์สุดคลาสสิก
ด้วยสัดส่วนที่กะทัดรัด มาพร้อมกับล้อขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 620 มิลลิเมตร ส่งผลให้ Mini Cooper S Convertible 2025 คันนี้มีความคล่องตัวสูง สามารถควคุมรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เติมเต็มความสนุกสนานในทุกๆ การขับขี่ ด้านหน้าออกแบบให้ดูโปร่งสบายสร้างบุคลิกใหม่ที่ช่วยให้น้องดูพรีเมียมมากขึ้น ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่มีสีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Vibrant Silver และ สีดำ Jet Black มันวาว ไฟหน้า LED มาตรฐาน สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ 3 รูปแบบ ติดตั้ง Welcome Light Animation ด้วยการฉาย Logo ของ MINI หลังคาเป็นแบบผ้าใบสีดำ พร้อมตัวเลือกลายธงยูเนี่ยนแจ็คสีเทา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของ MINI เป็นออฟชั่นเสริมได้อีกด้วย ติดตั้งระบบป้องกันการพลิกคว่ำไว้ที่บริเวณด้านหลังพนักพิงศีรษะ ซึ่งจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติทันทีที่ระบบตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดการพลิกคว่ำ
เมื่อมองจากด้านข้าง ให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตคาร์ ด้วยมิติตัวถัง ยาว 3,879 มิลลิเมตร กว้าง 1,744 มิลลิเมตร และสูง 1,431 มิลลิเมตร ล้อดีไซน์ใหม่ปรับให้เหมาะสมกับหลักอากาศพลศาสตร์ มีให้เลือก 2 ขนาด แบบ 16 และ 18 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถ โดดเด่นด้วยไฟท้าย LED ปรับได้ 3 รูปแบบเช่นเดียวกัน ทางด้านพื้นที่เก็บสัมภาระ หากไม่ได้เปิดหลังคาผ้าใบจะมีพื้นที่อยู่ที่ 160 ลิตร และเมื่อเปิดหลังคาจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 215 ลิตร และสามารถเก็บของได้อีกบริเวณใต้เบาะหลัง
ภายในห้องโดยสารเรียบง่ายด้วยวัสดุคุณภาพ
Mini Cooper S Convertible 2025 เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบในลักษณะ Charismatic Simplicity ที่ลดส่วนประกอบให้น้อยลง มีเพียงพวงมาลัยทรงสปอร์ต หน้าจอแสดงผล OLED ติดตั้งตรงกลางแผงคอนโซล แถบสวิตช์ปุ่มควบคุมที่ออกแบบใหม่ และ Head-up Display ที่แสดงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับตัวรถ ห้องโดยสารทำจากวัสดุผ้าสองสีโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล สร้างบรรยากาศให้น่ารื่นรมย์และดูแลรักษาง่าย เบาะโดยสารนั่งสบาย มีให้เลือกทั้งสีเทาและสีดำ เป็นการผสมผสานระหว่างหนังเทียมและผ้าทอในโทนสีน้ำเงิน ในส่วนของรุ่น JCW มีให้เลือกทั้งสีเบจและสีน้ำเงิน Nightshade Blue
หน้าจอแสดงผล OLED ความละเอียดสูงสั่งการด้วยระบบสัมผัส ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถได้อย่างสะดวกสบาย มาพร้อมกับระบบสั่งการด้วยเสียง MINI Operating System 9 โดยสามารถเชื่อมต่อเนื้อหาดิจิทัลและแอปพลิเคชันจากสมาร์ทโฟนมาแสดงบนหน้าจอ เปิดประสบการณ์ศูนย์กลางการควบคุมที่ง่ายเพียงนิ้วคลิก
โหมดการขับขี่ MINI Experience สร้างประสบการณ์อันสมจริง
มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 7 โหมด โดยจะเปลี่ยนอารมณ์และบรรยากาศภายในรถให้เข้ากันในแต่ละโหมด แน่นอนว่า DNA ของรถยนต์ MINI ได้รับการออกแบบประสบการณ์การขับขี่แบบพิเศษ ให้อยู่ในโหมด Go-Kart ซึ่งหน้าจอแสดงผล แผงหน้าปัด และแผงประตู จะเปลี่ยนเป็นสีแดงตามรูปแบบของไดนามิก นอกจากนี้ยังมี Personal Mode ที่คุณสามารถสร้างสรรค์การออกแบบห้องโดยสารตามสไตล์ของคุณเอง สามารถอัพโหลดรูปถ่ายส่วนตัวผ่านแอพ MINI และเลือกใช้เป็นพื้นหลังของหน้าจอแสดงผลได้ รวมถึงแผงหน้าปัด Ambient light เพื่อปรับ Mood & Tone ของห้องโดยสารแบบกำหนดเองได้เช่นเดียวกัน
ขุมพลังการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน
สำหรับเครื่องยนต์ของ Mini Cooper S Convertible 2025 รุ่นใหม่นี้ ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2 ลิตร 4 สูบ ในรุ่นเริ่มต้นผลิตพละกำลัง 120 กิโลวัตต์ / 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 8.2 วินาที Top Speed อยู่ที่ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง และในรุ่น Performance ผลิตพละกำลัง 150 กิโลวัตต์ / 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 6.9 วินาที Top Speed อยู่ที่ 237 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ไดนามิกการขับขี่อันโดดเด่น พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยสูงสุด
ติดตั้งระบบกันสะเทือนที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ มาพร้อมการควบคุมที่คล่องตัว มีระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เหล็กกันโคลงที่โหลดไว้บนเพลาช่วยรองรับแรงเหวี่ยงและช่วยปรับสมดุลที่ดีในการเข้าโค้ง มีการปรับจูนพวงมาลัยและระบบควบคุมเสถียรภาพใหม่ทั้งหมด เพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นในทุกๆ สถานการณ์ ด้วยแพ็คเกจ Driving Assistant Plus ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้องรอบทิศทาง 4 ตัว ทำให้ระบบช่วยจอดสามารถตรวจจับที่จอดรถโดยอัตโนมัติแม้ในพื้นที่จำกัด ติดตั้งระบบ Panorama View ช่วยให้มองเห็นพื้นที่โดยรอบได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มเติมด้วยระบบ Remote 3D View ที่ช่วยให้สามารถถ่ายโอนภาพไปยังอุปกรณ์พกพาได้แบบง่ายดาย
Mini Cooper S Convertible 2025 มีสีตัวถังให้เลือกถึง 12 แบบ รวมถึงสี Copper Grey สุดพิเศษ และฝาครอบกระจกมองข้างแบบเลือกสีได้ทั้ง Jet Black และ Glazed White ยังไม่มีข้อมูลการจัดจำหน่ายในประเทศไทย ณ ขณะนี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเลดี้จะมาอัพเดทให้ค่ะ
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ความคิดเห็น